28 ม.ค. 2020 เวลา 14:44 • ท่องเที่ยว
🔴 ฟอสซิลลูกนกจากยุคไดโนเสาร์ ที่อยู่ในอำพัน
ลูกนกตัวนี้อยู่ในกลุ่มอีแนนทีออร์นีทีส (Enantiornithes) ซึ่งสูญพันธุ์ไปพร้อมๆ กับไดโนเสาร์ในช่วงสิ้นสุดยุคครีเทเชียส เมื่อราว 65 ล้านปีก่อน
ลูกนกที่อยู่ในอำพันนี้เป็นฟอสซิลสภาพสมบูรณ์ที่สุดที่เคยค้นพบมา
(อำพันก้อนนี้ขุดได้จากเหมืองในหุบเขา Hukawng ทางตอนเหนือของพม่า)
จากรูปแบบการผลัดขนของมัน คาดว่าลูกนกตัวนี้มีอายุเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ ในตอนที่มันถูกห่อหุ้มด้วยยางไม้เหนียวๆ และถูกแช่แข็งอยู่ในกาลเวลา
ร่างของมันเกือบครึ่งหนึ่งได้รับการรักษาสภาพไว้ในตัวอย่างขนาด 7.5 เซนติเมตร รวมถึงส่วนหัว ปีก ผิวหนัง ขน และเท้าที่มีกรงเล็บซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ขนของมันมีหลายสีตั้งแต่สีขาวและน้ำตาลไปจนถึงเทาเข้ม
⭕ ละทิ้งรัง : ขนจากปีกของลูกนกแสดงว่า มันสามารถบินได้ทันทีหลังฟักออกจากไข่ ผิดกับนกในปัจจุบันส่วนใหญ่ Photograph by Ming Bai, Chinese Academy of Sciences ⭕
ขณะที่ลูกนกอีแนนทีออร์นีทีส (Enantiornithes) มีขนบนปีกสำหรับพร้อมที่จะออกบินขึ้นเต็มที่แล้ว ขนส่วนที่เหลือกลับหร็อมแหร็ม และเหมือนกับขนของไดโนเสาร์เทอโรพอดซึ่งไม่มีก้านขน (rachis) มากกว่า
⭕ การรักษาสภาพอันน่าทึ่ง : คนงานเหมืองอำพันที่ค้นพบตัวอย่างนี้คิดว่าพวกเขาพบกรงเล็บกิ้งก่า “แปลกประหลาด” จนกระทั่งนักวิจัยตระหนักว่า เท้านี้เป็นของนกจากยุคไดโนเสาร์ Photograph by Ming Bai, Chinese Academy of Sciences ⭕
การที่นกวัยเยาว์เช่นนี้มีขนสำหรับบินช่วยสนับสนุนแนวคิดที่ว่า นกอีแนนทีออร์นีทีสฟักออกจากไข่พร้อมกับความสามารถในการบิน ซึ่งทำให้มันพึ่งพาการดูแลจากพ่อแม่น้อยกว่านกในปัจจุบันส่วนใหญ่
กระนั้น การไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ก็มีต้นทุนที่ต้องจ่าย นักวิจัยชี้ว่า อัตราการเติบโตที่ช้าทำให้นกโบราณเหล่านี้สุ่มเสี่ยงมากขึ้นเป็นเวลานานขึ้น ตามหลักฐานที่พบนกอีแนนทีออร์นีทีสวัยเยาว์จำนวนมากในอำพัน
⭕ (ซ้าย) นกยุคแรก : ขนที่ได้รับการรักษาสภาพไว้แสดงให้เห็นว่า ลูกนกตัวนี้ตายในระหว่างการผลัดขนครั้งแรก ซึ่งชี้ว่ามันถูกฝังอยู่ในอำพันในช่วงวันแรกๆ หรือสัปดาห์แรกๆ ของชีวิต (ขวา) มองกลับไปในอดีต : กระดูก ผิวหนัง และเนื้อเยื่ออ่อน ทั้งหมดนี้ล้วนถูกห่อหุ้มอยู่ในอำพัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับไดโนเสาร์โบราณกลุ่มหนึ่งซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว Photograph by Ming Bai, Chinese Academy of Sciences ⭕
นกตัวนี้อยู่ในกลุ่มนกโบราณที่มีฟันชื่อว่า อีแนนทีออร์นีทีส ซึ่งสูญพันธุ์ไปพร้อมๆ กับไดโนเสาร์
ภาพจำลองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยการอิงจากท่าทางของฟอสซิลลูกนกที่ได้รับการรักษาสภาพไว้ในอำพัน
(Illustration by Chung-Tat Cheung)
thx ข้อมูลจาก
National Geographic Thailand
⬇️
⬇️
⬇️
🙇🏾♂️
โฆษณา