29 ม.ค. 2020 เวลา 00:30 • ธุรกิจ
ทำไมเราจึงตื่นกลัวไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
Credit: Bali Discovery
“ยุคใหม่การตลาดของไทย” เคยร่ำเรียนเรื่องเชื้อไวรัสมาบ้างตอนที่เป็นนักศึกษาอยู่ เพราะวิชาที่เรียนเป็นด้านวิทยาศาสตร์ จึงพอจะรู้เรื่องไวรัสมาแต่ก็ไม่มากเท่าไร ซึ่งพอจะเข้าใจกลไกการเกิดการติดเชื้อและความเป็นมาเป็นไปของเชื้อไวรัสบ้าง
เชื้อไวรัสเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสิ่งมีชีวิตอื่นรวมทั้งคนมานานมาก และเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคที่อันตรายมากมายรักษาไม่หาย เช่น AIDS โรคเริม ไวรัสตับอักเสบ โรคพิษสุนัขบ้า โรคโปลิโอ โรคหวัด และโรคที่ “ยุคใหม่การตลาดของไทย” ประสบพบมาเองถึง 2 ครั้ง และแต่ละครั้งก็ทำเอาสะบักสะบอมนอนให้น้ำเกลือมาแล้วก็คือ “โรคไข้หวัดใหญ่”
 
ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะทำให้ผู้คนตื่นกลัวกัน หลายคนก็แทบจะไม่เป็นอันทำอะไร “ยุคใหม่การตลาดของไทย” เคยเห็นคนขี้กลัวมากๆมาเหมือนกัน หลายคนวิตกจริตไม่เป็นอันทำอะไรและบางคนไม่ทำอะไรเลยคุยด้วยก็ไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะกลัวมาก
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ก็เช่นเดียวกันที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างหวาดกลัว ซี่งเป็นขบวนการที่เกิดขึ้นมาแบบเดียวกับการทำตลาด ที่หลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาก่อนคือ Viral Marketing
Viral Marketing (ไวรอล มาเก็ตติ้ง) หรือ การตลาดแบบไวรัส โดยนำสื่อ Social Medias เช่น ที่มีอยู่แล้ว เช่น Website Facebook, Twitter ฯลฯ มากระจายข้อมูล ทำให้ผู้คนได้รู้จักเรื่องนั้นๆมากขึ้น ตามแต่วัตถุประสงค์ที่มี และเป็นรูปแบบเดียวกันกับการบอกปากต่อปาก หรือที่เรียกว่า Word-of-Mouth (WOM) (ที่มา: http://www.nattaphon.com/)
Credit: Digital Marketing Wow
กรณีไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ก็เป็นวิธีการเดียวกันแต่เกิดได้ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เราจะได้รับสื่อจากแหล่งต่างๆที่นำเสนอในเรื่องนี้แบบถล่มทะลาย ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบของไวรอลมาเก็ตติ้ง สิ่งที่ตามมาคือความตื่นตระหนกที่มากกว่าการตระหนัก ทำให้ผู้ที่ได้รับข่าวสารโดยส่วนมากแล้วที่ได้รับรู้เรื่องนี้ ต่างประเมินสถานการณ์ที่แย่ไปกว่าที่มันเป็นอยู่มาก
นั่นเพราะว่าแต่ละสื่อแต่ละคนเป็นจำนวนมาก ต่างนำเสนอความอันตรายและผลกระทบในด้านที่ส่งผลร้ายเป็นหลัก การรับรู้ของผู้คนในปัจจุบันจึงรับรู้ข่าวทางเดียว ไม่แปลกที่ผู้คนทั้งโลกจะแตกตื่นและหวาดกลัวเรื่องนี้กันมาก
การเพิ่มจำนวนไวรัส ที่มา: Honestdocs
เราลองหันมาดูข้อมูลอีกด้านว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรในสถานการณ์นี้กันบ้าง ข้อมูลจาก Workpoint News ระบุว่า
“ตอนที่เชื้อซาร์ซึ่งมาจากตระกูลโคโรน่าเหมือนกันแพร่ระบาด อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 10% ตัวเลขอัตราการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอู่ฮั่นนี้มีเพียง 2% นับว่าน้อยกว่ามาก”
“กลุ่มประชากรส่วนใหญ่ที่เข้าโรงพยาบาลตอนนี้เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ส่วนอายุเด็กที่สุดที่เข้ารับการตรวจวินิจฉัยอยู่ที่อายุ 13-14 ปี จากข้อมูลตอนนี้ยังไม่มีกรณีที่ส่งผลกระทบต่อเด็กเล็ก"
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวอื่นประกอบด้วย เช่นภาวะร่างกายอ่อนแอ มีโรคหัวใจหรือมะเร็งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และมีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงพอจะสู้กับไข้หวัดใหญ่ได้ เมื่อต้องสู้กับไวรัสจึงเกิดผลคล้าย ๆ กัน”
ที่มา: Thai PBS News
นี่ก็คือข้อมูลอีกด้านที่เราสามารถเลือกรับข่าวสารไปควบคู่กัน เราจะเห็นได้ว่ามันร้ายแรงน้อยกว่าในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และการติดเชื้อก็เป็นเพียงคนบางกลุ่มไม่ใช่ทุกคน
“ยุคใหม่การตลาดของไทย” มั่นใจว่าหลายท่านอาจจะบอกว่าต้องระวังให้มาก ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรต้องปฏิบัติ ไม่ตั้งตนอยู่ในความประหมาด แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้เราต่างประเมินความรุนแรงมากกว่าที่มันเป็นอยู่จากข้อมูลข้างต้น เพราะจำนวนข่าวสารที่เรารับมาเป็นไปในด้านเดียวมากกว่า
ที่มา: สถาบันฝึกอบรมเอ็นเทรนนิ่ง
สิ่งที่จะทำให้เราต้องตระหนักคือการเลือกเสพสื่อ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าสื่อให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือเกินจริง แต่เลือกเสพสื่อที่เป็นสถานการณ์จริงและทางออกพร้อมกับเรื่องที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ก็ไม่ได้ร้ายแรงเสมอไป เพราะมันก็มีข้อจำกัดของมันอยู่มากโข
กรณีศึกษาเทียบเคียง สมมุติว่าฟุตบอลทีมชาติไทยมีโอกาสเข้ารอบฟุตบอลโลกแล้วต้องลงสนามแข่งขันจากทีมจากประเทศบราซิล คนส่วนมากเชื่อว่าทีมชาติไทยแพ้แน่นอน เพราะข่าวสารที่รับมาว่าเขาเหนือว่าเราซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่อย่าลืมว่าเขาก็คนเราก็คน เขาก็เริ่มจากศูนย์เหมือนเราที่กว่าจะเก่งขึ้นมาได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกัน โอกาสชนะเราก็มีไม่ใช่ปิดประตูแพ้ หากเรามองอย่างมีสติไม่รับข่าวสารด้านเดียวมากจนเกินไป
ที่มา: Theafricancourier.de
เรื่องราวความรุนแรงของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ก็เช่นเดียวกัน หากเรามองอย่างมีสติไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป เราจะรับมือกับมันได้ไม่ยากเลย
เชื่ออย่างไรก็ไม่ผิด แต่อยู่ที่ผลลัพธ์ของความเชื่อมากกว่า ว่าเราจะเลือกเชื่อแบบไหน
อย่าลืมว่า
“เมื่อวานเรายังผ่านมันมาได้แล้วเลย”
ที่มา: Pantip
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1.สรุป ทำความเข้าใจ ไวรัสอู่ฮั่น โคโรนาไวรัส น่าห่วงแค่ไหน-ป้องกันอย่างไร https://workpointnews.com/2020/01/25/coronavirus-explainer/
2.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเชื้อไวรัส https://www.honestdocs.co/the-virus
3.ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (novel coronavirus 2019, 2019-nCoV) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
โฆษณา