ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและแบบแผนการปฏิบัติทางวัฒนธรรม ช่วยให้เราเข้าใจการเกิดโรคและลักษณะทางระบาดวิทยา เช่น การศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกของคนพื้นเมืองในตุรกีและจีนที่แม่ผูกห่อทารกไว้ในฤดูหนาว ผ้าที่ห่อรัดตัวเด็กทำให้เด็กทารกหายใจได้ตื้น ปอดขยายตัวไม่เต็มที่ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ (Yurdakok, Yauz & Taylor, 1990) หรือการพบว่า ผู้หญิงในประเทศจีนมีอุบัติการณ์ติดเชื้อพยาธิปากขอมากกว่าผู้ชาย เป็นเพราะมีการใช้อุจจาระมาทำเป็นปุ๋ยราดรอบต้นหม่อนเพื่อเร่งการแตกใบของต้นหม่อนในฤดูฝน ราว 1-2 อาทิตย์ต่อมา ผู้หญิงจะมาเก็บใบหม่อนและเดินย่ำไปในบริเวณที่เต็มไปด้วยตัวอ่อนของพยาธิ เช่นเดียวกับในสวนชา ที่ผู้หญิง ซึ่งทำหน้าที่เก็บใบชาก็มักจะได้รับเชื้อพยาธิปากขอมากกว่าผู้ชาย (Cort, W.W, Grant, & Stoll, 1926) แบบแผนวิถีชีวิตและพฤติกรรมทางสังคม ไม่จะเป็นพฤติกรรมการบริโภค แบบแผนการแต่งงาน ข้อห้ามและการปฏิบัติระหว่างการตั้งครรภ์ การเลี้ยงดูลูก การแบ่งหน้าที่การงาน รวมทั้งความสัมพันธ์ทางสังคมและโครงสร้างอำนาจในท้องถิ่น ล้วนแต่เป็นความรู้ที่นักมานุษยวิทยาศึกษาและสามารถนำมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บและระบาดวิทยาในท้องถิ่น เพราะปัจจัยทางระบาดวิทยา คือ บุคคล สถานที่ และเวลา ล้วนแต่มีบริบททางวัฒนธรรมกำกับอยู่ทั้งสิ้น (Trostle, 2005; Helman, 2007)