6 ก.พ. 2020 เวลา 12:09 • ความคิดเห็น
ความขี้เกียจ คือ เคล็ดลับ
ในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน คงตั้ง New Year's resolution หรือ “ปณิธานปีใหม่” กันเอาไว้ แต่ผ่านมา 1 เดือน เราได้เริ่มทำสิ่งที่ตั้งเป้าไว้หรือยัง?
หรือว่ามัวแต่วุ่นกับการแก้ปัญหาน้ำเค็ม, ฝุ่น PM2.5, และไวรัสโคโรนา – ซึ่งแอดมินก็เป็นหนึ่งในนั้น
วันนี้แอดมินมีเคล็ดลับมานำเสนอ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นก็คือ การใช้ “ความขี้เกียจ”
แต่ “ความขี้เกียจ” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง การนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรนะ แต่เป็นการใช้ “ความพยายาม” ให้ “น้อยที่สุด” ในการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง
ลองมาดูตัวอย่างที่แอดมินได้เรียนรู้จากพี่ท่านหนึ่ง กันดูว่า เราจะใช้แนวคิดความขี้เกียจ มาทำให้เป้าหมายสำเร็จได้อย่างไร? ไปติดตามกันเลย
พี่ท่านนี้มีเป้าหมายที่น่าจะเหมือนเพื่อนๆ หลายๆคน คือ ลดน้ำหนักลง 5 กิโลกรัม ภายในปี 2562 แต่ผ่านไปจนถึงช่วงปลายปี ของปีที่แล้ว กลับพบว่าจากเป้าที่ตั้งไว้ น้ำหนักดันเพิ่มขึ้นอีก 5 กิโลกรัม
Cr. Pixabay
คือ ปกติคนก็จะคิดว่า หากจะลดน้ำหนักก็ต้องควบคุมทั้งเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอทุกวัน ซึ่งในหัวก็คิดวนไปวนมา จนสุดท้าย ไม่ได้ทำซักที (เพราะมัวแต่ไปขยันทำงานอื่น)
พอมาถึงปลายปี ยังไม่ได้เป้า ก็เลยกลับมาคิดทบทวนใหม่ว่า การที่จะลดน้ำหนักนั้น หากใช้วิธีทางฟิสิกส์ขั้นสูง (เฮ้ย! ไม่ขนาดนั้น) ก็คือ การทำให้ Input น้อยกว่า Output (เข้าให้น้อยกว่าออก น้ำหนักก็ลดเนอะ)
ก็เลยเริ่มที่ปัญหาแรกละกันคือ เรื่อง Input แต่พอคิดแบบคนขี้เกียจคำนวณ คือ จะให้มานั่งนับแคลอรี หรือ คุมอาหารการกินก็วุ่นวายเกินไป พี่เขาก็เลย Fasting หรือ งดมื้อเย็นซะเลย จาก 3 มื้อ ลดเหลือ 2 มื้อ อันนี้ Input ลดชัวร์ๆ
ถัดมาก็คือ เรื่องการออกกำลังกาย ตอนแรกก็นึกถึงเครื่องวิ่ง แต่หากซื้อมาไว้ที่บ้านก็คงหนีไม่พ้นการเป็น “ที่ตากผ้า” แน่ๆ
Cr. Anlene
แต่ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่ขาดอุปกรณ์ แต่คือ “ออกกำลังกายแล้วเบื่อ” ต่างหาก ก็เลยมองว่าหากปกติช่วงดึกๆ ก็นั่งเล่น iPad อยู่แล้ว หากมีเครื่องที่สามารถออกกำลังกายไปด้วย และเล่น iPad ไปด้วยก็น่าจะตอบโจทย์
และพอได้โจทย์เพิ่มว่าอยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านใช้ได้ด้วย ก็เลยจบที่การซื้อจักรยานแบบมีที่พิงหลัง ที่มีที่วาง iPad เอาไว้ปั่นออกกำลังกายในบ้าน
ช่วงเริ่มต้นออกกำลังกาย ก็เริ่มแบบน้อยสุดก่อน คือ ปั่น 30 นาที แล้วหยุด พอทำไปเรื่อยๆ ก็สามารถปั่นได้ทุกวัน และเพิ่มเวลาเป็น 1 ชั่วโมงต่อวัน
ผลจากการงดมื้อเย็น และการปั่นจักรยานทุกวัน ก็คือ น้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัม ใน 3 เดือน ผ่านเป้าหมายต้นปีที่แล้วที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ!!
จากนั้นก็ยังไม่แล้วใจ คือ การปั่นจักรยาน มันออกกำลังกาย “ขา” ก็เลยเพิ่มการออกกำลังกาย “แขน” ด้วยท่า Planking
ก็เริ่มด้วยสูตรเดิม คือ เริ่มน้อยๆก่อนคือ Plank 30 วินาทีต่อครั้ง ทำ 5 ครั้ง จนล่าสุด ทำอยู่ที่ 1 นาที 20 วินาทีต่อครั้ง ทำ 5 ครั้ง ซึ่งก็ได้ผลมากทีเดียว ได้เหงื่อ!! (ต้องเอาไปลองดูบ้างแล้ว)
หลักคิดนี้ ตรงกับที่ แดเนียล คานีแมน เขียนไว้ในหนังสือ Think Fast, and Slow ไว้ว่า
Cr. Amazon
“การที่มนุษย์พยายามควบคุมตัวเองเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก หากเราบังคับตัวเองให้ทำอะไรในครั้งแรก เราจะไม่อยาก หรือไม่สามารถบังคับตัวเองทำสิ่งนั้นๆ เป็นครั้งที่สอง”
นั่นคือ “กฎของการใช้ความพยายามน้อยที่สุด” คือ มนุษย์ขี้เกียจโดยธรรมชาติ หากมีทางเลือกที่ใช้ความพยายามน้อยที่สุด เราก็จะเลือกทางนั้น
แนวคิดนี้จริงๆ แล้ว แพร่หลายมากๆ เป็นสูตรสำเร็จของสตาร์ทอัพยูนิคอร์นทั้งหลายเลยทีเดียว
ณ วันแรกที่เริ่มต้น คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด และหากแค่คิดว่าต้องแก้ปัญหาทั้งหมดก็คงถอดใจ เลิกดีกว่า
แต่ด้วย ความขี้เกียจ กลับทำให้สตาร์ทอัพเหล่านั้นเลือกปัญหามาแก้ได้ตรงจุด แถมยังพยายามหาวิธี ที่ใช้ความพยายามน้อยที่สุด อีกด้วย! (ก็สถานการณ์มันบังคับ คือเวลาและเงินมีจำกัด)
สตาร์ทอัพทำสำเร็จได้
พี่คนนั้นก็ลดน้ำหนักได้
ดังนั้นพวกเราก็ต้องทำได้!!
หากใครเคยใช้วิธีแบบนี้แล้วสำเร็จเหมือนกัน คอมเม้นท์ได้เลยนะ
และหากเห็นว่าบทความเป็นประโยชน์
อย่าลืมกดไลค์ และแชร์ให้เพื่อนๆ ด้วยหล่ะ
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กดติดดาว "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
ปรึกษาการนำเข้าส่งออก ติดต่อ @Zupports คลิกเลย
โฆษณา