7 ก.พ. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #ทุกอย่างโยนมาที่ผม ]
ฤดูกาลนี้บาร์เซโลน่าต้องเผชิญหน้ากับความวุ่นวายและปัญหาขัดแข้งภายในมาตลอด
อย่างล่าสุด เอริก อบิดัล ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาออกมาเขย่าสโมสรด้วยความความรุนแรง
คำให้สัมภาษณ์ของเขาที่ระบุว่ามีนักเตะบางคนไม่มุ่งมั่น ทำงานหนักไม่พอและไม่ฝึกซ้อมเข้มข้นอย่างมืออาชีพคือเหตุผลสำคัญทำให้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กระเด็นจากตำแหน่งกุนซือ
ถ้าใช้ภาษาบ้านก็ต้องบอกว่า "เตะเลื่อยขาเก้าอี้" นั่นแหล่ะ
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า อบิดัล มีเหตุผลอะไรต้องออกมาพูดผ่านสื่อในทำนองนี้ มันมีแต่เสียกับเสีย เหมือนลากไส้เรื่องภายในสโมสรให้คนอื่นรับรู้
แต่ที่แน่ๆ สร้างความขุ่นเคืองให้ ลิโอเนล เมสซี่ อย่างมาก
ในฐานะกัปตันทีมและแข้งอาวุโสเบอร์ต้น เขาออกมาไล่บี้ผ่านไอจีให้ อบิดัล ระบุชื่อแบบชัดๆเลยว่า นักเตะที่เอ่ยมานั้นเป็นใคร
ไม่อย่างนั้นทำให้ทุกคนเข้าใจผิดได้และมันส่งผลเสียหายกับผู้เล่นทุกคนในสโมสรด้วย
หลังจากที่ เมสซี่ ออกมาตอบโต้ไม่นาน โจเซป บาร์โตเมว ท่านประธานก็เรียกตัว อบิดัล เข้าประชุมด่วนเมื่อตอนบ่ายวันพุธที่ผ่านมา
ตอนแรกกระแสข่าวรุนแรงมากๆว่าอาจมีการปลดจากตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา แต่สุดท้ายเป็นแค่การเรียกไปตักเตือนธรรมดา
ขณะเดียวกันหลังจบเกมโกปา เดล เรย์ที่จะไปเยือนบิลเบาในวันพฤหัสบดี บาร์โตเมว ได้แจ้งกับ เมสซี่ แล้วว่าให้เข้ามาคุยกันหน่อย
เชื่อว่าจะเป็นการเคลียร์รอยร้าวเรื่องนี้ ไม่ให้ลุกลามบานปลายออกไป
ประเด็นน่าสนใจคือ อบิดัล ไม่ใช่แค่ผู้อำนวยการกีฬาหรือเป็นอดีตนักเตะเท่านั้น
อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสยังเคยเล่นร่วมกับ เมสซี่ มาก่อนช่วงปี 2007-2013 และมีความสนิทสนมกลมเกลียวกันดี
ตอน อบิดัล ต้องเผชิญหน้ากับโรคมะเร็งที่ตับ เมสซี่ ยังออกมาให้กำลังใจผ่านสื่อ รวมทั้งใส่เสื้อมีข้อความเอาใจช่วยอีกต่างหาก
แล้วพอ อบิดัล หายขาดจนรีไทร์ตัวเองจากการเป็นนักเตะอาชีพ ว่ากันว่า เมสซี่ นี่แหล่ะแนะนำบอร์ดบริหารให้แต่งตั้งมาเป็นผู้อำนวยการแทน โรแบร์โต้ เฟร์นานเดซ ในปี 2018
เพราะมั่นใจว่า อบิดัล รู้จักผู้เล่นหลายคนในทีมชุดนี้ดี มีความเข้าใจความเป็นองค์กรสโมสรแห่งนี้ อีกทั้งน่าจะเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างบอร์ดบริหารกับผู้เล่นได้ดี
บทบาทนี้เหมาะกับการเป็นกาวใจ เคลียร์ข้อข้องใจ เป็นการยืนอยู่กลางเขาควาย ที่พร้อมเปิดอกรับรู้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่มีส่วนร่วมกับการดูแลนักเตะอย่างเดียว
แทนที่จะมาเป็นตัวสมานปิดรอยร้าวต่างๆ กลายเป็นว่า อบิดัล ทำให้ความสัมพันธ์แตกแยกซะเอง
อีกทั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกในซีซั่นนี้ที่เกิดปัญหาดังกล่าว มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้และไม่แน่ใจว่าส่งผลกระทบมายังปัจจุบันด้วยหรือไม่
แต่เชื่อว่าสถานการณ์ภายในของบาร์ซ่ากำลังระอุจริงๆ
เมื่อปลายปีที่แล้ว ชาบี บอช ซึ่งเป็นนักข่าวและคอลลัมนิสต์ของมุนโด เดปอร์ติโบ ออกมาแฉเรื่องยุ่งในมุ้งของบาร์เซโลน่า
ด้วยความที่คร่ำหวอดในวงการหลายปี ตามติดสโมสรแห่งนี้มานาน ทำให้ข้อมูลของเขาพอน่าเชื่อถือได้ และมันน่าจะมาจากแหล่งข่าวข้างในจริงๆ ไม่ใช่การนั่งเทียนแล้วเขียนขึ้นมา
บอช ร่ายยาวเลยว่าแข้งอาซูลกราน่าหลายคนในยุคนี้ มีความเย่อหยิ่งจองหอง คิดว่าตนเองเลอเลิศราวเทวดาเหนือกว่าคนอื่น
มีการออกแรงกดดันให้สโมสรห้ามนักข่าวหรือช่างภาพมาใกล้ชิดกับผู้เล่น รวมทั้งไม่ให้เดินทางด้วยเครื่องบินลำเดียวกัน โดยอ้างเรื่องความเป็นส่วนตัว
นักเตะบางคนพยายามแสดงอิทธิพลกว่าบอร์ดบริหาร สามารถออกคำสั่งได้ด้วย
พอใครได้อ่านคอลัมน์นี้เข้าก็ต้องเดาว่านักเตะดังกล่าวคงต้องเป็นขาใหญ่ มีความอาวุโสกว่าใคร ซึ่งหลักๆมี 2 คนคือ เมสซี่ กับ เคราร์ด ปิเก้ นั่นเอง เพราะ เซร์กี้ บุสเก็ตส์ เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยมีปากเสียงกับใคร คงไม่น่ามีส่วน
เรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันคือมีข่าวว่า เคยมีนักเตะบางคนกดดันบาร์โตเมว ให้แต่งตั้ง การ์เลส ปูโยล อดีตกัปตันทีมบาร์เซโลน่ามาทำงานแทน อบิดัล ด้วย
แต่ยังดีที่ ปูโยล โชว์ความเป็นสุภาพบุรุษตามแบบฉบับ ออกมาปฏิเสธทันควันว่าไม่ได้สนใจตำแหน่งนี้ อีกทั้งยังไม่ถึงเวลา
มันจึงเกิดคำถามลอยๆขึ้นมาว่า จะมีผู้เล่นคนไหนที่จะบีบสโมสรได้บ้าง?
แน่นอน เมสซี่ ตกเป็นขี้ปากอีกตามเคย แทบทุกคนคิดว่าต้องเป็นเขาหรืออาจมี ปิเก้ มาร่วมวงด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไรต้อง เมสซี่ เท่านั้นเป็นหัวโจก ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาเป็นผู้มากบารมีที่ทุกคนในสโมสรต้องเกรงใจ ไม่กล้าหืออือด้วย
แฟนบอลบางคนเล่นมุกแซวว่าถ้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่พอใจใครจะตัดสินใจย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น
ส่วนถ้า เมสซี่ ไม่พอใจใครขึ้นมา จะบีบให้ย้ายออกไปจากทีมซะ
ฟังดูแล้วแค่ขำๆไม่มีอะไร แต่เชื่อว่าหากกัปตันทีมบาร์ซ่าได้ยิน คงรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยเหมือนกัน
ตอนปี 2013 บาร์เซโลน่าแต่งตั้ง เกราร์โด้ มาร์ติโน่ ที่ค่อนข้างโนเนมในยุโรปมาเป็นกุนซือ พร้อมกับเสียงลือว่า เมสซี่ เป็นคนเลือกเอง
เพราะ มาร์ติโน่ ไม่ใช่เป็นคนอาร์เจนติน่าเหมือนกันเท่านั้น แต่ยังเป็นคนบ้านเดียวกันของจริง บ้านเกิดอยู่ในละแวกเดียวกัน
บอช ยังตีแผ่อย่างเผ็ดร้อน นำเรื่องราวเมื่อ 2 ปีเศษที่ผ่านมา บาร์ซ่าควรจะได้ตัว อินญาโก้ มาร์ติเนซ กองหลังอนาคตไกลมาจากเรอัล โซเซียดาดแล้ว ทุกอย่างตกลงเรียบร้อย ไม่ว่าค่าตัวค่าจ้าง รอแค่ชูเสื้อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
แต่การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น ท่ามกลางความงุนงงสงสัย โดยบาร์ซ่าอ้างว่าติดขัดบางประการ ทำให้แฟนบอลเข้าใจว่าน่าจะมาจากรายละเอียดในสัญญา
อย่างไรก็ตาม บอช แฉว่าเกิดจากแรงกดดันจากกลุ่มนักเตะขาใหญ่ ไม่ต้องการให้ดีลนี้บรรลุ เพราะจะทำให้ ฮาเวียร์ มาชเคราโน่ หมดโอกาสลงเล่นมากขึ้นกว่าเดิม
เมสซี่ คือผู้ต้องสงสัยอีกตามเคยว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังล้มดีลนี้
เขาต้องออกมาปฏิเสธว่าตัวเองเป็นแค่นักเตะธรรมดา รับเงินค่าแรงที่สโมสรจ่ายให้ เปรียบไปก็แค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น
แต่พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ สิ่งที่สื่อเขียนหรือมาขยายความนั้นกลับได้รับเครดิตว่ามีความเป็นไปได้มากกว่า
ไม่แปลกที่ เมสซี่ จะไม่ค่อยชอบพวกนักข่าวนัก โดยเฉพาะพวกที่เข้ามาคลุกวงในแล้วเอาเรื่องไปเปิดเผยต่อสาธารณะ
เขาเคยบ่นกับคนใกล้ชิดว่าเบื่อพวกนักข่าวที่ชอบชักจูงผู้คนให้เห็นตัวเองเป็นผู้มีอิทธิพล อาจจะจริงที่ว่าหลายเรื่องสโมสรปรึกษาเขา แต่การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่กลุ่มผู้บริหารทั้งสิ้น
นั่นหมายความ เมสซี่ รู้สึกเบื่อและเอือมกับสิ่งที่สื่อพยายามยัดเยียดให้เป็นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามสื่อไม่ได้สนใจ ยังคงโยนเชื้อไฟลงในกองเพลิงต่อไป
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้จึงมีการโยงว่า เมสซี่ อาจตัดสินใจย้ายทีมและได้รับการติดต่อจากแมนฯซิตี้ ที่พร้อมจะสร้างทีมใหม่ หลังฟอร์มแย่ในปัจจุบัน
ว่าแล้วก็จับเอาความสัมพันธ์ของเขากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตเจ้านายที่เคยร่วมงานสร้างความยิ่งใหญ่ให้บาร์ซ่ามาเป็นประเด็น
นอกจากนี้ยังลากเอา ซิกิ เบร์กิริสไตน์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาของซิตี้และยังเคยทำงานตำแหน่งนี้ที่คัมป์ นูมาเป็นจิ๊กซอว์อีกชิ้นหนึ่งที่ต่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
ถามหน่อยว่าเรายังเชื่อกันมากน้อยแค่ไหนว่าจะได้เห็น เมสซี่ สวมยูนิฟอร์มสโมสรอื่นที่ไม่ใช่บาร์เซโลน่า
ถามอีกเช่นกันว่าจะมีสโมสรไหนกล้าจ่ายค่าจ้าง 70 ล้านยูโรต่อปีให้กับเขาได้บ้าง หากไม่ใช่บาร์เซโลน่า
น่าเห็นใจ เมสซี่ ตรงที่ไม่ว่าสโมสรจะเปลี่ยนอะไรอย่างไร เขาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยตลอด
นั่นจึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า "กรุณาระบุชื่อให้ชัดเลยว่าใคร"
เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ตกเป็นขี้ปากให้ใครต่อใครนินทาอีกต่อไป
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา