28 ก.พ. 2020 เวลา 06:33 • ปรัชญา
...การจัดการ ความกังวล...
ความกังวล เชื่อมโยงกับ "การมีปัญหา"
ในทุกๆปัญหานั้น จะประกอบด้วย
⭐ ส่วนที่แก้ไขได้เลย
⭐ และ ส่วนที่ยังแก้ไม่ได้ (อย่างน้อยก็ในตอนนี้)
ถึงเวลาต้องจัดการความกังวล
ถ้าตั้งสติดีๆ แล้ว "แบ่งแยก" ทุกปัญหาเป็นสองส่วนแบบนี้
ความอิรุงตุงนังของปัญหาจะลดน้อยลง
เมื่อแบ่งแยกเสร็จแล้ว ให้เข้าจัดการดังนี้
⭐ ส่วนที่แก้ไขได้ :
ให้ focus จิตใจมาที่ "วิธีแก้ปัญหา" ไม่ใช่ Focus ที่ตัวปัญหา และ เริ่มขั้นตอนการแก้ไขทันที
1
ถ้าจิตใจยังกังวลอยู่แปลว่า ยังไม่ทุ่มใจมาที่การแก้ปัญหามากนัก
ความกังวลแก้ไขปัญหาไม่ได้ เปลืองสมองเปล่าๆ
ถ้าเน้นที่การ "ก้มหน้าก้มตา" แก้ไขปัญหาให้ได้ จะไม่มีสมองเหลือให้คิดกังวล พลังสมองทุกอณูต้องถูกนำไปใช้แก้ปัญหา ไม่ใช่คิดกังวลไร้ประโยชน์
⭐ ส่วนที่แก้ไม่ได้:
ให้เน้นที่การพยายามหา Know-How หาคน หาทุน ค่อยๆประกอบ "จิ๊กซอว์" ที่จะทำให้เราแก้ปัญหาได้ในที่สุด
1
วันนี้แก้ไม่ได้ แต่ถ้าเราขวนขวาย วันหนึ่งเราต้องแก้ได้แน่นอน
ระหว่างนี้ เราต้องมีความหวัง ไม่งอมืองอเท้า รอคอยให้ได้ ปล่อยวางได้
ถ้าทำทุกอย่างแล้วยังกังวล แปลว่า จิตยังมุ่งไป focus ที่ตัวปัญหามากเกินไป
ไม่ยอมไป focus ที่การหาจิ๊กซอว์ในการแก้ปัญหา
ความกังวลเปรียบเหมือน กริ่งเตือนไฟไหม้ เมื่อเรารู้แล้วว่าเรามีปัญหา
"เราควรสนใจในการดับไฟ มากกว่านั่งฟังแต่เสียงกริ่งเตือนไฟ"
1
ความกังวลเหมือนสัญญาณเตือนไฟไหม้ เมื่อมันร้องแล้ว ให้เราแก้ปัญหา ไม่ใช่เอาแต่นั่งฟังสัญญาณเตือน
เมื่อตั้งจิต ตั้งสมาธิไปที่การแก้ปัญหาแล้ว
ความกังวลควรจะลดลงหรือหายไปเลย
ความกังวลไม่ช่วยแก้ปัญหา
"แต่เป็นสมอง สองมือ สองขา นี้ต่างหากที่ช่วยแก้"
1
เพราะ ปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้กลุ้ม
จำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าแก้ปัญหาหนึ่งๆ ด้วยการสร้างปัญหาที่หนักกว่าเดิมขึ้นมา
เช่น
เงินในธุรกิจขาด ก็เที่ยวไปกู้ยืมเงินนอกระบบดอกเบี้ยสูงมาหมุนแทน
รักษาหน้าตา ภาพลักษณ์ให้น้อยลง
คนเรามีขึ้นมีลง
เอ่ยปากเจรจา
ประหยัดขึ้น
ถ้าปัญหาที่มี คุณรู้สึกว่ามันหนักเกินไป แปลว่าคุณแบกไม่ไหว
อย่าฝืนความรู้สึก ให้พูดออกมา หาคนมาช่วยแบกหน่อย ช่วยแบกมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่จะเจรจากัน
ปัญหาไหน วางได้ ต้องวาง!!
อย่าไปคิดเองเออเองว่า คนอื่นจะแบกช่วยไม่ไหว ต้องคุยกันก่อน หาตรงกลางให้เจอ
อย่าโกหกตัวเองว่าไหว
"ไม่ไหวแล้ว บอกว่าไหวได้ยังไง"
การโกหกตัวเองก็บาปพอๆกับคนอื่นนั่นล่ะ แล้วมันจะส่งผลมาถึงคุณแน่นอน
ไอ้ที่ ฆ่าตัวตายกันโครมๆ นั้นก็คือ คนที่แบกอะไรเกินตัว เกือบทั้งนั้น
อย่าไปฝืนตัวเอง และฝืนใจตัวเองแบบนั้น
เมื่อ "จิตใจ และร่างกาย" พังทลายเพราะการแบกหนักเกินไปแล้ว
จะซ่อมใหม่ก็ยากมาก
...ลักษณะคนแบบไหน ที่จะเป็นคนแก้ปัญหาเก่ง มีความกังวลน้อย ...
⭐ มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมาย
ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ เมื่อคิดแล้วต้องทำให้ได้ เป็นการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
1
การมุ่งตะลุยไปสู่เป้าหมาย ก็ทำให้การคิดเล็กคิดน้อยลดลง และบรรเทาความกังวลลงเป็นอย่างมาก
1
⭐ การ "จัดการเวลา" แบบ Time Block ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การแก้ปัญหาได้
คือเมื่อถึงเวลาทำเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่ทำเรื่องอื่นเลย จนกว่าจะขึ้น Block ใหม่
1
การ "จัดการความคิด" แบบ Block ก็ช่วยได้
คือเมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว ก็จะตั้งสมาธิอยู่กับเรื่องนี้ ไม่คิดเรื่องอื่นเลย จนกว่าจะคิดเรื่องนี้เสร็จ
1
⭐ ท่าทางเหมาะสม
ท่าทางก็มีส่วนเกี่ยวข้อง คนเราเวลากังวลมักจะก้มหน้าก้มตา คิ้วขมวด เกร็งร่างกาย โดยไม่รู้ตัว ศรีษะ คอ และ หู ก็จะร้อนขึ้น
1
ลองเชิดหน้า เลิกขมวดคิ้ว ผ่อนคลายร่างกายลดความเกร็งลง ลองเอาน้ำเย็นๆลูบหน้า ลูบคอ ลูบหลังหู บ่อยๆ จะพบว่า ความคิดแจ่มใสขึ้น คิดและทำงานได้มากขึ้น
1
...ลองคิดเสียว่า...
คนที่ทุกข์หนักกว่าเราเขายังสู้เลย
ในโลกนี้ไม่ใช่เราที่มีปัญหาอยู่คนเดียว
แล้วมันจะผ่านไป เหมือนทุกๆปัญหาที่เราเคยเจอมา
สู้ๆครับ ในภาวะวิกฤตรอบด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สาธารณสุข สังคม
1
แล้วเจอกันใหม่จ้า ❤️
โฆษณา