8 ก.พ. 2020 เวลา 07:40
💙 February Love Song #Ep.3
[ รัก 90,000 ไมล์ ]
"เอ...พรุ่งนี้วันอะไรนะ "
ผมถามคนที่อยู่ปลายสายด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
"แหม...จะล้อกันเล่นหรอ
รู้น่าว่าคุณไม่ลืมหรอก
ที่ผ่านมาคุณก็ไม่เคยลืมสักที"
เสียงของเธอที่อ่อนลง
ทำให้ใจของผมรู้สึกแปล๊บขึ้นมา
เหมือนมีใครเอาเข็มไปทิ่มยังไงอย่างงั้น
"ผมขอโทษนะ...
ที่ปีนี้ไม่ได้อยู่ฉลองด้วยกันกับคุณ"
"ไม่เป็นไรหรอก ไว้เรามาฉลอง
ย้อนหลังกันก็ได้ รอคุณกลับมาก่อน
ตั้งใจทำงานล่ะ...ท่านผู้บังคับบัญชา"
"รับทราบครับ ท่านผู้บัญชาการสูงสุด!"
เสียงหัวเราะร่วนที่ปลายสาย
ทำให้ใจผมพองโตขึ้นได้อีกครั้ง
ผมขยับหูฟังให้เข้าที่ขึ้นอีกหน่อย
เพื่อที่จะได้ฟังเสียงของเธอให้ชัดขึ้นอีกนิด
..
..
เสียงที่ส่งมาจากสถานที่อันไกลแสนไกล
ที่เรียกว่า "บ้าน"
"ผมต้องไปแล้ว สุขสันต์วันครบรอบนะที่รัก
ผมรักคุณ ฝากความคิดถึงให้ลูก ๆ ด้วย"
สิ้นเสียงอำลาจากปลายทาง
ผมกดปุ่มวางสาย เพื่อจบการสนทนา
แต่มือนั้นกลับอ้อยอิ่งที่จะถอดหูฟังออก
..
ราวกับพยายามซึมซับทุก ๆ ถ้อยคำ
ที่ได้ยินจากเธอเมื่อสักครู่
เธอ...ผู้ขโมยหัวใจของผมตั้งแต่วันแรก
ที่เราได้สบตากัน
หญิงสาวผู้อ่อนโยนแต่เข้มแข็งกว่าใคร ๆ
เธอรู้ดีว่าอาชีพของผมนั้นเสี่ยงแค่ไหน
..
ทุกครั้งที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ เธอมักจะ
เข้ามาสวมกอดและจูบหน้าผากของผม
เพื่ออวยพรให้โชคดี
ในชีวิตของผม มีอยู่ 2 สิ่ง ที่ทำให้ผม
ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
คือ การบิน...และเธอ
23 ปีแล้วสินะ...ที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
เธอยังสวยน่ารัก เหมือนวันแรกที่ได้เจอ
🎵 "You're just too good to be true
I can't take my eyes off you
..
You'd be like heaven to touch
I wanna hold you so much 🎶
🎵 At long last love has arrived
And I thank God I'm alive
..
You're just too good to be true
Can't take my eyes off you" 🎶
ในจักรวาลที่มีแต่ความเงียบ
บางครั้งผมก็ได้ยินเสียงเพลง
ที่อยู่ในความทรงจำ
เพลงของ Frankie Valli ที่เธอชอบ
และยังเป็นเพลงแรกที่เราได้เต้นรำด้วยกัน
ภาพของเธอที่หมุนตัว พร้อมหัวเราะ
ด้วยเสียงร่าเริง แม้ว่าผมจะเงอะงะไปบ้าง
ในบางจังหวะ แต่เธอก็บอกเสมอ
ว่าผมนั้นเต้นได้ดีแล้ว
"ฝึกอีกนิด คุณก็ไปออกรายการ
Dancing with the Stars ได้แล้วล่ะ"
เรามักจะหัวเราะกันเพราะเธอรู้ดีว่า
ฝีมือการเต้นรำของผมนั้นยอดแย่ขนาดไหน
แต่เธอก็เป็นแบบนี้แหละครับ
มักจะคอยให้กำลังใจผมเสมอ
ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน
แม้ในวันที่ผมอยู่ห่างออกไป
กว่า 90,000 ไมล์จากผิวโลก
..
แต่กำลังใจจากเธอ ยังคงส่งผ่าน
ชั้นบรรยากาศมาให้ผมสัมผัสได้
ผ่านหัวใจดวงนี้
ดวงตาของผมเริ่มร้อนผ่าว
มันคงจะดูไม่ดีหากลูกทีมของผม
เดินมาเห็นภาพหัวหน้าของเขาดูอ่อนแอ
...แต่ความจริงก็คือ
..
ผมคิดถึงเธอเหลือเกิน
ผมขยี้ตาพร้อมอ้าปากกว้างคล้ายหาวออกมา
เพื่อปรับสมอง และบอกกับตัวเอง
หรือใครที่เดินผ่านมาเห็นเข้าพอดีว่า...
ผมก็แค่ง่วงนอน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
คืนนั้นผมฝัน...
เธออยู่ในชุดกระโปรงลายดอกเล็ก ๆ
พลิ้วโบกสะบัดในบรรยากาศที่ดูเวิ้งว้าง
รอบ ๆ ตัวเราเต็มไปด้วยดวงดาว
ที่ส่องประกายระยิบระยับนับล้าน
นี่มันอวกาศนี่นา...แต่บนนี้ไม่มีลมสักหน่อย
แถมเธอก็ไม่ได้สวมชุดป้องกันใด ๆ
หญิงสาวส่งเสียงหัวเราะออกมา แล้วบอกว่า
"คุณก็แต่งตัวเท่ไม่หยอกเหมือนกันน่ะแหละ"
ผมก้มลงมองดูตัวเอง ที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตขาว
สวมทับด้วยเบลเซอร์ตัวเก่ง
ส่วนกางเกงที่สวมอยู่คือของขวัญ
ที่เธอเลือกซื้อให้เมื่อคริสต์มาสที่แล้ว
นี่คงเป็นความฝัน แต่อย่างน้อยผมจะมีความสุขกับช่วงเวลานี้ให้ได้ยาวนานที่สุด...จนกว่าจะเช้าวันใหม่
เราล่องลอยไปในห้วงอวกาศ
และเต้นรำกันท่ามกลางแสงดาว
เธอเคยบอกกับผมว่า
อยากเห็นดวงดาวมากมายจากอวกาศดูบ้าง
ว่าจะสวยงามขนาดไหน
แต่สำหรับผม...ดวงดาวแสนสวยพวกนั้น
เทียบอะไรไม่ได้เลยกับภาพที่อยู่ตรงหน้า...
🎵 "Pardon the way that I stare
There's nothing else to compare
..
The sight of you leaves me weak
There are no words left to speak 🎶
🎵 But if you feel like I feel
Please let me know that is real
..
You're just too good to be true
I can't take my eyes off you"🎶
"แล้วพบกันใหม่นะคะที่รัก
ฉันรอคุณอยู่เสมอที่บ้านเรา..."
สิ้นเสียงของเธอ ภาพบรรยากาศรอบ ๆ ก็หายไป ความฝันได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด
โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว...
มีเพียงสัมผัสแผ่วเบาบนหน้าผาก
ที่เธอทิ้งไว้ ก่อนจากกัน
เสียงเพลงจาก Mission Control ดังขึ้นจากลำโพงเหนือศีรษะที่นอน กระชากให้ผมและเหล่าลูกเรือตื่นขึ้นจากความฝันเช่นเดียวกับทุกเช้า
แต่วันนี้มีอะไรที่แปลกไป...
หรือว่าผมยังฝันอยู่กันแน่นะ
🎵 "I love you baby
And if it's quite all right
I need you baby
..
To warm the lonely nights
I love you baby
Trust in me when I say..." 🎶
"สวัสดีตอนเช้า...เหล่านักบินขี้เซา
ในกระสวยอวกาศ Endeavour ทุกท่าน
..
และสำหรับคอมมานเดอร์ของพวกคุณ...
สุขสันต์วันครบรอบ 23 ปีนะคะที่รัก
..
ฉันรักคุณ"
เสียง CAPCOM ที่ต่างจากทุกวัน
แต่คุ้นเคยที่สุดสำหรับผม ทำให้รอยยิ้มแผ่ออกมาจากทั้ง 7 ชีวิตในกระสวยอวกาศนี้
เช่นเดียวกับที่ Mission Control บนผืนโลก
ผมพึมพำออกมาเบา ๆ
"สุขสันต์วันครบรอบ...
ดวงดาวที่สวยที่สุดของผม"
#ส่งความรักผ่านชั้นบรรยากาศไปให้ถึงใจเธอ
#BD Love Together
🎵 ฟังเพลง "Can't Take My Eyes Off You"
โดย Frankie Valli ได้ที่นี่ 👇
[ เกร็ดน่ารู้ เบื้องหลังเรื่องราว ]
NASA Wake Up Music หรือเพลงปลุกของนาซ่า ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมายาวนานตั้งแต่ยุคการสำรวจดวงจันทร์ใน Apollo Program
โดยเริ่มมีการใช้เพลงปลุกนักบินอวกาศ
ครั้งแรกใน Gemini Program เมื่อปี 1965
ต่อเนื่องในทุก ๆ Flight day
จนถึงภารกิจสุดท้ายกับ STS-135 ในปี 2011
เพลงที่เปิดมักจะเลือกโดยครอบครัว
และคนใกล้ชิดของเหล่านักบินอวกาศ
ผู้ปฏิบัติภารกิจ โดยเป็นเพลงที่มี
ความหมายพิเศษต่อพวกเขา
และเพลงที่มีความหมายเกี่ยวกับการบิน
อวกาศ และธีมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักบิน
พร้อมด้วยคำทักทายจาก CAP COM
(Capsule Communication) บนภาคพื้นดิน
หรือ Mission Control Center
เรื่องนี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจาก
เพลงปลุกที่ใช้ในโปรแกรม
กระสวยอวกาศ STS-126 "Endeavour"
ซึ่งปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 17 วัน
(17 Flight days) ในเดือนพฤศจิกายน 2008
เพื่อนำอุปกรณ์ และของใช้ที่จำเป็นไปยังสถานีอวกาศ และซ่อมแซมเครื่องตรวจจับแสงอาทิตย์
Badge แสดงชื่อลูกเรือทั้งหมดในภารกิจ STS-126
ในเช้าของภารกิจวันที่ 10 (Flight day 10)
ทางสถานีได้เล่นเพลง “Can’t Take My Eyes Off of You” โดย Frankie Valli
ซึ่งมอบให้แก่ คริส เฟอร์กูสัน หัวหน้าทีมปฏิบัติการ (Commander) ในโอกาสวันครบรอบการแต่งงานปีที่ 23 ของเขาและภรรยา
ส่วนรายละเอียดในเรื่องเป็นจินตนาการ
ที่ผมแต่งขึ้นเพิ่มเติมตามความรู้สึก
เมื่อคิดถึงรักทางไกล(มาก)
ของเหล่านักบินอวกาศว่าจะเป็นแบบไหน :)
สำหรับใครที่อยากชมภาพบรรยากาศ
การเปิดเพลงปลุกจริง ๆ จาก Mission Control
ดูได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลยครับ เป็นของภารกิจ STS-135 ในเดือนกรกฎาคม ปี 2011
เพลง "Rocket Man" พร้อมกับคำทักทาย
ของท่านเซอร์เอลตัน จอห์น เจ้าของบทเพลง 👇
ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กัน
แล้วพบกันใหม่ในเพลงหน้าครับ 🎶
#BD Love Together
References :
photo : unsplash.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา