10 ก.พ. 2020 เวลา 00:30 • กีฬา
โคตรมันส์! งูใหญ่ โดนนำสองเม็ดก่อนจะรัวแซง ผีแดงดำ 4-2
ศึก กัลโช่ เซเรีย อา คู่ดึกสุด ประจำวันอาทิตย์ เป็นการปะทะกันระหว่าง 2 ยักษ์หลับแห่ง เมืองมิลาน อินเตอร์ มิลาน เผชิญหน้า เอซี มิลาน
"งูใหญ่" ปรับ 4 ตำแหน่งจากเกมทุบ อูดิเนเซ่ 2-0 ดานิเอเล่ ปาเดลลี่, ดีเอโก้ โกดิน, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ อันโตนิโอ คันเดรว่า เป็นตัวจริงแทนที่ ซามีร์ ฮันดาโนวิช, อเลสซานโดร บาสโตนี่, คริสเตียน เอริคเซ่น และ วิคเตอร์ โมเสส
ดานิเอเล่ ปาเดลลี่ ยังได้โอกาสเฝ้าเสาตัวจริงต่อเนื่อง แดนหลังฝาก 3 เซนเตอร์แบ็ก มิลาน สคริเนียร์, สเตฟาน เดอ ฟราย และ ดีเอโก้ โกดิน
วิงแบ็ก 2 ฝั่งเป็น อันโตนิโอ คันเดรว่า กับ แอชลี่ย์ ยัง แดนกลางยัด มาติอัส เวซิโน่, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ นิโกโล่ บาเรลล่า คู่กองหน้าวางใจ อเล็กซิส ซานเชซ กับ โรเมลู ลูกากู เพราะ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ยังไม่พ้นโทษแบน
เอซี มิลาน เปลี่ยน 4 ตำแหน่งเหมือนกันจากเกมเสมอ เฮลลาส เวโรน่า 1-1 อันเดรีย คอนติ, ซิมอน เคียร์, อิสมาแอล เบนนาเซอร์ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลุยตั้งแต่ต้นเกมแทนที่ ดาวิเด้ คาลาเบรีย, มาเตโอ มูซัคคิโอ, จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า และ ราฟาเอล เลเอา
จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ปักหลักหน้าปากประตู แนวรับจากขวาไปซ้ายเป็น อันเดรีย คอนติ, ซิมอน เคียร์, อเลสซิโอ โรมันโยลี่ และ เตโอ แอร์กน็องเดซ
ฟร้องค์ เกสซีเย่ ดูแลแดนกลางคู่กับ อิสมาแอล เบนนาเซอร์ ปีกขวา-ซ้ายเป็น ซามู กาสตีเยโฆ่ กับ อันเต้ เรบิช เกมรุกฝาก ฮาคาน ชาลาโนกลู สนับสนุน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
เริ่มเกมช่วงแรกๆ "รอสโซเนรี่" เดินหน้าบุกใส่เจ้าบ้านเป็นชุดๆ นาที 10 ชาลาโนกลู ตั้งป้อมสับไกยิงหน้าเขตโทษพุ่งผ่านมือของ ปาเดลลี่ ไปชนเสาซ้ายมืออย่างน่าเสียดาย
"งูใหญ่" เริ่มตั้งลำได้แล้วก่อนเซตเกมตอบโต้กลับไปได้บ้าง นาที 19 จากลูกเตะมุมฝั่งขวา โกดิน เทกตัวสะบัดศีรษะโหม่งหลุดเสาซ้ายมือหวุดหวิด
5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านพลาดโอกาสอีกหน ลูกากู ลุยเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางไปแถวจุดโทษ เวซิโน่ วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ตรงตัว ดอนนารุมม่า ปัดไว้ได้ก่อนแนวรับมิลานเคลียร์ทิ้งไปในที่สุด
มิลาน เป็นฝ่ายบุกนำ 1-0 ใน นาที 40 กาสตีเยโฆ่ วางยาวเข้าเขตโทษอิบราฮิโมวิช เทกตัวโหม่งตัดหน้า โกดิน เข้ากรอบ 6 หลาผ่านการป้องกันของ ปาเดลลี่ ให้ เรบิช ยิงด้วยซ้ายพุ่งสู่ก้นตาข่ายนิ่มๆ
แถมช่วงท้ายครึ่งแรก "ปีศาจแดง-ดำ" ยังมาบวกอีกเม็ดจากลูกเตะมุมฝั่งขวาของ กาสตีเยโฆ เปิดไปกลางประตูแฉลบ เกสซิเย่ หลุดไปเสาไกล อิบราฮิโมวิช โหม่งย้อนศรผ่านมือของ ปาเดลลี่ เป็นประตู 2-0 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
เป็นสกอร์นำที่คู่ควรแล้วสำหรับ มิลาน เพราะเป็นฝ่ายเริ่มต้นเกมได้ดีกว่าก่อนได้ 2 ประตูจากความยอดเยี่ยมของ อิบราฮิโมวิช ที่โหม่งชงให้ เรบิช กระทุ้งนิ่มๆ ก่อนได้โขกใส่สกอร์ด้วยตัวเอง เกมรับก็ถือว่าทำได้ดี จัดการ ลูกากู ได้อย่างอยู่หมัด
กลับมาต่อครึ่งหลัง "งูใหญ่" เลือกที่จะไม่เปลี่ยนตัวแก้เกมแม้ตามหลัง 0-2 ก่อนมายิงตีไข่แตกได้สำเร็จใน นาที 51 คันเดรว่า ลากจากขวาตัดเข้าในก่อนยิงด้วยซ้ายติดบล็อก บอลลอยโด่งอยู่หน้าเขตโทษ โบรโซวิช วิ่งเข้ามาวอลเล่ย์ด้วยซ้ายตูมเดียวกระดอนพื้น 1 จังหวะก่อนเสียบเสาซ้ายมือเป็นประตู 1-2
โมเมนตั้มตกมาอยู่ฝั่ง อินเตอร์ จริงๆ เพราะ 2 นาทีต่อมา สกอร์เปลี่ยนเป็น 2-2 จนได้จากบอลแทงเข้าเขตโทษ อเล็กซิส วิ่งทะลุไปเก็บบอลได้ก่อนถึง ดอนนารุมม่า แล้วจ่ายย้อนมาให้ เวซิโน่ แปด้วยขวาระยะ 13 หลาตุงตาข่าย
มิลาน หาทางตอบโต้กลับไปเหมือนกันหลังโดนไล่ตีเสมอแบบงงๆ โดยจากฟรีคิกระยะไม่ต่ำกว่า 30 หลา อิบราฮิโมวิช วิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวาผ่านกำแพงไปแล้วแต่โค้งไม่พอ หลุดเสาขวามือไปไม่ไกล
อย่างไรก็ดี เข้าช่วง 20 นาทีสุดท้าย กลายเป็น "งูใหญ่" พลิกสถานการณ์สำเร็จ คันเดรว่า เปิดเตะมุมฝั่งขวาไปกลางประตู เดอ ฟราย ก้มศีรษะโหม่งจากระยะ 10 หลาลอยเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเป็นประตู 3-2
นาที 72 อินเตอร์ เปลี่ยนตัวก่อน คริสเตียน เอริคเซ่น ลงไปแทนที่ อเล็กซิส หวังคุมเกมแดนกลางให้อยู่หมัดเพราะพลิกกลับมานำได้แล้ว
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย "งูใหญ่" เปลี่ยนเพิ่ม วิคเตอร์ โมเสส ลงแทนที่ คันเดรว่า ส่วน มิลาน ส่ง 2 คนลงไล่เลี่ยกัน ราฟาเอล เลเอา กับ ลูกัส ปาเกต้า แทนที่ กาสตีเยโฆ่ กับ เกสซีเย่
แต่ นาที 81 "เนรัซซูรี่" เกือบทิ้งห่างบ้างจาก เอริคเซ่น ปั่นฟรีคิกระยะ 30 หลาผ่านทั้งกำแพงและ ดอนนารุมม่า ไปแล้วแต่ดันชนคานอย่างน่าเสียดาย
ทีมเยือนทิ้งไพ่ตายใน นาที 84 จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า แทนที่ เบิช ใน นาที 84
มิลาน กลับมาคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น นาที 90 ปาเกต้า หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนครอสข้ามไปเสาไกล อิบราฮิโมวิช ได้ยิงแต่ก็ชนเสาออกไป
พลาดโอกาสตีเสมอไม่เท่าไร กลายเป็น มิลาน โดนยิงย้ำชัยในช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 โมเสส ลุยมาทางกราบขวาก่อนบรรจงเปิดจากสุดเส้นหลังให้ ลูกากู ขึ้นโหม่งระยะ 6 หลาตุงตาข่ายเป็นประตู 4-2 ก่อนสิ้นสุดเสียงนกหวีดสุดท้ายด้วยสกอร์นี้
นับเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำอย่างแท้จริงสำหรับ อินเตอร์ มิลาน เพราะมันเป็นหนึ่งในเกม มิลาน ดาร์บี้ ที่สุดยอดที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลย
แม้ว่าตามหลัง 0-2 ในช่วงเวลาสุดสำคัญเพราะมาโดนรัว 2 เม็ดในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออินเตอร์ ยังปลุกเร้าลูกทีมให้กลับมาลงสนามในครึ่งหลังด้วยความมุ่งมั่นจนยิงคืนรวดเดียว 4 ตุง
ต้องชมความยอดเยี่ยมของ คันเดรว่า ที่มีส่วนร่วมกับ 3 ประตูแรก เกมรุกทางฝั่งขวาของ "งูใหญ่" สร้างสรรค์โอกาสลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าก่อนเกมอยู่อันดับ 3 แต่พอจบเกมนี้ "งูใหญ่" ทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงอัตโนมัติโดยมี 54 แต้มเท่า ยูเวนตุส แต่ผลต่างประตูได้-เสียเหนือกว่า
คอนเต้ เข้ามาเปลี่ยนแปลง อินเตอร์ มิลาน ให้กลับมาลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองมะกะโรนีได้อีกครั้ง และสร้างความหวาดผวาแก่ ยูเวนตุส บนเส้นทางสู่การป้องกันแชมป์ได้อย่างแท้จริง เพราะเขาก็เป็นคนที่พา "ม้าลาย" กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่นี้ด้วยมือของเขาเอง
ดังนั้น ถ้าจะหาคนโค่นอำนาจของ ยูเวนตุส ให้ได้แล้วล่ะก็ คอนเต้ ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วล่ะ เพียงแต่ว่ามันจะเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้เลยหรือเปล่า?
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา