14 ก.พ. 2020 เวลา 11:45 • บันเทิง
💙 February Love Song #Ep.4
"พรุ่งนี้ไปเดทกันมั้ย"
"ไม่ไป"
คำตอบที่สวนขึ้นมาแทบจะทันควันของฉัน
คงทำให้เขาหน้าหงาย...
แต่ฉันก็ไม่ได้เงยหน้าดูผลลัพธ์หรอก
หนังสือที่อยู่ตรงหน้าน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ
"คิดก่อนตอบก็ได้นะ...สะเทือนใจว่ะ"
ฉันลดหนังสือลง มองหน้าเจ้าของเสียง
ด้วยสีหน้าที่ปั้นมาแล้วว่าเอือมระดับสิบ
"สมควรละ อยากถามอะไรไม่เข้าเรื่องเอง
ถ้าอยากเดทมากก็ไปชวนน้องออยสิ
เขาน่าจะปลื้มแกอยู่นะ
วันก่อนยังมาถามถึงอยู่เลย"
"น้องออยปีสามอะนะ หูยยย โคตรน่ารัก
ทำไมเพิ่งมาบอกวะ"
ฉันปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ ถอนหายใจเฮือก
เห็นท่าวันนี้จะไม่สบอารมณ์ซะแล้ว
"โทษทีว่ะ พอดีฉันก็ไม่ใช่คิวปิดสื่อรัก
ใครอยากจีบใครก็ไปคุยกันเอง"
"ใจเย็นนนนนน แซวเล่นไปงั้นแหละ
ใครจะน่ารักเท่าคุณมิ้นต์ล่ะคร้าบบบ....โอ๊ย!!"
เสียงสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปาก
ชายหนุ่มร่างสูงดังขึ้นพร้อม ๆ กับ
แรงกระแทกจากหนังสือเล่มหนาที่มาปะทะ
ฉันเตรียมจะด่าต่อ แต่เสียงเนิบ ๆ ของเขา
ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"เอางี้ละกัน...ถ้าอีก 10 ปี แกยังไม่มีใคร
เรามาคบกันนะ"
อะไรบางอย่างในน้ำเสียงนั้นชวนให้รู้สึกแปลกใจ ถ้าจะพูดเล่นทำไมต้องดูจริงจังขนาดนั้น?
อีก10 ปี ใครจะไปรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง...
"ถ้าตอนนั้นฉันยังอยู่บนคาน แกก็มารับลงไปทีละกัน"
ชายหนุ่มยิ้มกว้างออกมา
"สัญญาต้องเป็นสัญญา....
สัญญาว่ามาต้องมา~~ โอ้ยยย!"
กวนแบบนี้มันต้องเจอหยิกสิ...
(1)
ชีวิตมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายผ่านไปไว
จนตั้งตัวไม่ติด รู้อีกทีพวกเราก็เป็น
พนักงานออฟฟิศ ใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
หัวหกก้นขวิดกันเสียแล้ว...
กลุ่มเพื่อนสนิทสมัยเรียน ยังคง
นัดเจอกันอยู่ แม้จะห่างหายไปบ้าง
ตามความวุ่นวายของงานและชีวิตส่วนตัว
ฉันเองแม้จะมีคนเข้ามาจีบเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้คบกับใครเป็นตัวเป็นตน เพราะยังไม่อยากมีภาระผูกพัน อีกอย่างความตั้งใจของฉันก็คือ การไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศ
จดหมายตอบรับที่รอคอยมานานฉบับนั้น
ทำให้ฉันหัวใจพองโต
อยากจะเล่าให้ใครสักคนฟัง
"ฮัลโหล...นัท เย็นนี้ว่างมั้ย ไปกินข้าวกัน..."
เย็นนั้นเราฉลองกันสองคน เพราะเพื่อนส่วนใหญ่ไม่สามารถมาตามนัดกะทันหันได้ มีแต่เราที่ว่างตรงกัน
อาจจะเพราะความตื่นเต้นดีใจ หรืออะไรบางอย่างที่ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ทำให้ค่ำคืนนั้นหัวใจของฉันเต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ
ระหว่างที่เขาขับรถกลับไปส่งฉันที่บ้าน
สายหนึ่งก็โทรเข้ามา
"โทษที วันนี้รีบออกมากินข้าวกับเพื่อน
พี่มิ้นต์ไง...จำได้ป่าว มีอะไรด่วนไลน์มาทิ้งไว้ก่อนเลย เดี๋ยวถึงบ้านแล้วโทรกลับ"
บทสนทนาสั้น ๆ ของเขากับใครสักคนที่ปลายสาย เหมือนเข็มปลายแหลมที่จิ้มจึ้กลงไปในใจที่กำลังพองโตของฉัน จนมันฟีบเล็กลง...ราวกับบอลลูนที่โดนปล่อยลมออกจนหมด
"ตะกี้น้องออย จำได้ใช่มั้ย รุ่นน้องพวกเราปีนึงไง เขาย้ายมาทำงานที่เดียวกันเลยได้คุยกันบ่อย ลืมเล่าให้ฟังไปเลย"
ฉันได้แต่อือออไป แต่ในใจ
กลับรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก
🎵 "So will you never be my lover
or my valentine
.
Never be a friend of mine,
never see my better side
.
Maybe you'd be terrified
Of all the secrets you were wishing
you won't ever find
.
Is deep inside me
And I don't wanna hide me..."🎶
คืนนั้น ฉันนอนไม่หลับ
บางทีฉันอาจจะคิดไปเอง...
บางทีเขาอาจจะเห็นฉันเป็นแค่
เพื่อนสนิทธรรมดาจริง ๆ ก็ได้
สัญญางี่เง่าเมื่อห้าปีก่อน คงมีแต่ฉันคนเดียวที่จำได้...มันอาจจะเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น
แต่ใจของฉันกลับยึดเหนี่ยวมันไว้...
โง่อะไรแบบนี้
น้ำตาของฉันไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่...
🎵 "'Cause I know about my love
Because I know about my love
'Cause I know about my love
'Cause I know about my love"🎶
(2)
หลังจากไปส่งเธอที่บ้านวันนั้น
เราคุยกันน้อยลง ผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไม
เธออาจจะยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเรื่องเรียนต่อละมั้ง
ใจหนึ่งผมก็ดีใจกับเธอ แต่ก็
อดใจหายไม่ได้ที่เธอจะจากไปไกล
สัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอเมื่อหลายปีก่อน
มันยังอยู่ในใจผมมาตลอด
เพียงแต่รอคอยวันที่เหมาะสม
เป้าหมายของเธอนั้นยิ่งใหญ่
แต่ไหนแต่ไร...เมื่อเธอมุ่งมั่นจะทำสิ่งใด
เธอจะโฟกัสมันอย่างเต็มที่เสมอ
สิ่งที่ผมทำได้ก็คงจะเป็นแรงสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้เธอ แม้ว่าจะต้องบังคับใจตัวเองก็ตาม...
🎵 "Pick it fast like a flight
far away from here (Fly away)
.
Although I know I feel at home
whenever you are near
.
Live my life you better cold cut to this
(Just don't cut it, want you near)
.
I wish you'd just hold me open
just to see your vision clear
(I'm always near)" 🎶
(3)
ชีวิตในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่าย...
แต่ก็ไม่ยากเกินจะปรับตัว
ฉันอยู่ที่นี่มา 4 ปีกว่าแล้ว หลังจากเรียนจบ
ฉันได้งานทำในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
ที่เอ่ยชื่อแล้วใคร ๆ ก็รู้จัก
งานที่นี่สนุกท้าทาย แม้ว่าหลาย ๆ ครั้ง
จะต้องเจอปัญหาที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย
และท้ออยู่บ้าง แต่ก็ยังได้กำลังใจจากที่บ้าน
และเพื่อนสนิทบางคนที่ไม่เคยลืมกัน
หนึ่งในนั้นก็คือ นัท
แม้ว่าแรก ๆ เราจะไม่ได้คุยกันบ่อย แต่ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยกับอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งงาน ทั้งปัญหาจุกจิกในชีวิตประจำวัน
เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่เชื่อมเราระหว่างกัน เขามักจะทักมาถูกเวลาเสมอ แม้ว่าหลาย ๆ ครั้ง เขาแทบจะไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากฟังฉันพร่ำบ่น
ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้...
ที่ฉันเลิกนึกถึงเขาในเวลาที่รู้สึกเศร้า
แต่แชทของเรากลายเป็นสิ่งแรก
ที่ฉันจะต้องเปิดดูในแต่ละวัน
บางทีอาจจะถึงเวลาที่ฉันควรกลับบ้านสักที...
(4)
ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากบึ่งกลับมาจากที่ทำงาน
วันนี้ใคร ๆ ก็แซวว่าผมดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องออย ที่เพิ่งกลับมาทำงานวันแรกหลังจากลาคลอด
“ฝากทักทายพี่มิ้นต์ด้วยนะคะ ในที่สุดก็กลับมา
ปล่อยให้พี่นัทเพ้อคนเดียวมาตั้งนาน”
ผมสำรวจความเรียบร้อยอีกที ไม่ลืมที่จะคว้าช่อดอกไม้แสนสวยที่สั่งร้านไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนที่ได้ยินข่าวดีว่าเธอกำลังจะกลับมา
หากคุณอยู่ที่สนามบินคืนนี้ แล้วเห็นไอ้หนุ่มหน้าเซ่อสักคนยืนถือดอกไม้อยู่ที่ทางออกผู้โดยสารขาเข้า
อย่าไปหัวเราะเยาะเขาเลยนะครับ
.
.
.
.
เพราะเขาอาจจะรอวันนี้มาสิบปีแล้วก็เป็นได้ :)
🎵 "'Cause I know about my love
'Cause I know about my love
'Cause I know about my love
'Cause I know about my love" 🎶
“It’s like coming home from a long trip…
that is what love is like. It's coming home.”
.
— Piper Chapman, Orange Is the New Black
"Season 2, Episode 06"
🎵 ฟังเพลง ‘Valentine’ โดย
Jessie Ware & Sampha ได้ที่นี่ 👇
#BD Love Together
#HappyValentinesDay 💙
ปล. รักใครชอบใครอย่าลืมบอกเขานะครับ
อย่าเก็บไว้นานเป็น 10 ปี เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนในเรื่องก็เป็นได้ 😉
photo : unsplash.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา