16 ก.พ. 2020 เวลา 08:06 • ศิลปะ & ออกแบบ
นักออกแบบทำอะไรบ้าง เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีพลังดึงดูดผู้บริโภค
นักออกแบบผลิตภัณฑ์ Kelly Custer จากบริษัท Knack ที่สร้างแบรนด์อุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่น่าสนใจ เธอตระหนักว่า การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีพลังดึงดูดใจนั้นไม่ง่าย ต้องมีความคาดหวังและความตั้งใจที่สูงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้น ออกสู่ตลาด
คุณอาจจะเคยเห็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดใจมากมายบน Pinterest และที่เว็บ Yanko Design แต่นักออกแบบผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มีความคิดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีพลังดึงดูดใจได้อย่างไร?
หากคุณต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์ของคุณให้ออกจากมหาสมุทรแห่งความสับสนวุ่นวายในตลาด สร้างความโดดเด่น คุณจะ “ต้องมี” 5 สิ่งต่อไปนี้
1. อย่าเชื่อโจทย์
หากคุณไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยเพื่อเขียนโจทย์ในการออกแบบ คุณก็ไม่ควรเชื่อว่าโจทย์นั้นเป็นความจริง มองข้ามโจทย์ไปก่อน แต่ให้กลับมามองถึงหัวใจของปัญหาที่คุณจะต้องแก้ไข
ให้คุณ ฟัง ฟัง และฟัง แล้วให้ตั้งคำถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ จากนั้นให้ถามคำถามเชิงลึกต่อไป จนกว่าจะเผยให้เห็นถึงสาเหตุของปัญหานั้นที่แท้จริง ในฐานะนักออกแบบ งานแรกของเรา คือการตรวจสอบ ดังที่ Chris Do เคยกล่าวไว้ว่า “คุณค่าของงาน จะถูกกำหนดโดยคุณภาพของคำถามที่คุณถาม”
ลองนึกภาพคุณเข้าไปพบแพทย์ เรื่องที่คุณเจ็บหน้าอก เมื่อคุณบอกแพทย์ว่า คุณอาจมีหลอดเลือดแดงอุดตัน แล้วแพทย์ก็พูดว่า "ใช่" จากนั้นเขาก็พาคุณเข้าสู่ห้องผ่าตัดเพื่อเริ่มปฏิบัติการรักษากับคุณ
เดี๋ยวนะ?! ใช่เหรอ! ไม่มีทางที่คุณจะทำอะไรอย่างนั้น ใช่ไหม!
คุณคาดหวังว่าแพทย์จะถามคำถามที่ละเอียดกับคุณ และดำเนินการตรวจวินิจฉัยสักหน่อย และปรึกษากับแพทย์คนอื่นๆ เพื่อตรวจสอบการวินิจฉัยตนเอง หรือค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของความเจ็บปวดของคุณ
เช่นเดียวกัน คุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ลูกค้าของคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ทำไมคุณถึงปล่อยให้พวกเขาวิเคราะห์สภาพของตัวเองแล้วเขียนใบสั่งยาเอง ซะล่ะ?
2. ตัดเรื่องหยุมหยิมไร้สาระออกไป
ทีนี้ลองนึกภาพรถยางคุณแบน คุณเข้าไปในร้านขายยาง คุณขอให้พวกเขาช่วยซ่อมแซมยางของคุณ แล้วอธิบายว่า งบประมาณของคุณมีไม่มาก และคุณต้องรีบกลับไปทำงาน
ช่างใช้เวลาสักครู่เพื่อตรวจสอบยางของคุณ และช่างก็พูดว่า “อุด? คุณต้องอุดรูที่ล้อยาง ฉันจะต้องใช้เวลาสามสิบนาทีในการถอดแยกชิ้นส่วน กดยางให้จมลงใต้น้ำ และตรวจสอบว่ามีรูอยู่ตรงไหน นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องทำ คุณต้องการแบบนี้ไหม”
1
...อืม?
แทนที่จะทำเช่นนั้น อะไรจะเกิดขึ้นถ้าช่างอธิบายให้คุณฟังว่า แทนที่จะต้องซ่อมยาง พวกเขาสามารถใช้ยางมือสองมาแทน เพื่อนำคุณกลับไปบนถนนได้เร็วกว่ายี่สิบนาที? ในขณะที่การเปลี่ยนยางจะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น 15 ดอลล่าห์ จากยางรถยนต์มือสอง และมีอายุการใช้งานนานกว่า และช่วยประหยัดเงินในระยะยาว
เราต้องให้ความรู้แก่ลูกค้าของเราเกี่ยวกับกระบวนการออกแบบที่เหมาะสม เราทำสิ่งนั้นโดยการพูดภาษาของพวกเขา (ไม่ใช่ภาษาของเรา เข้าใจเขา เพื่อตอบสนองความต้องการของเขา) จัดเรียงสิ่งที่เรากำลังพูดกับเป้าหมายของพวกเขา (ทำไมพวกเขาจึงควรใส่ใจ?) และพร้อมที่จะตอบคำถามและแก้ปัญหาให้พวกเขา
3. เพียงแค่เดินจากไป
เมื่อคุณมีโอกาสได้โปรเจ็คดีๆ จากลูกค้า และคุณก็มีความสุขมากๆ คุณรีบโทรหาลูกค้าที่มีศักยภาพรายนี้ และถามคำถามอย่างรอบคอบว่า โปรเจ็คนี้มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นใคร ลูกค้าก็พูดขึ้นมาว่า “ทุกคนคือลูกค้าของเรา!” คุณอธิบายเพิ่มเติมว่า การรู้ว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร และมีความเข้าใจพวกเขาอย่างลึกซึ้ง นี่คือความแตกต่างระหว่าง ผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนความต้องการ กับผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลว
ลูกค้ารวบรัดและบอกคุณว่า พวกเขามีเวลาน้อย และต้องเริ่มงานออกแบบทันที พวกเขาไม่มีเวลาในการวิจัย และต้องการให้คุณทำตามวิสัยทัศน์การออกแบบที่มีอยู่ในหัว
คุณพยายามฟังลูกค้าและอธิบายถึงวิธีการที่ดีที่สุดกับพวกเขา แต่ลูกค้าของคุณก็ยังคงยืนกรานที่จะทำแบบนั้น เป็นหน้าที่ของคุณที่จะพูดว่า "ไม่ล่ะ! ขอบคุณ"
จงอย่ายกเว้น! คุณต้องไม่ลดมาตรฐานของคุณ ลูกค้ามาแบบนี้ก็ให้หนีออกมาซะ ยืนหยัดในสิ่งที่คุณทำ เพื่อตัวคุณเอง กับกระบวนการออกแบบและวิธีสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า... แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องมาจากโปรเจ็คที่ดี
4. หยุดคิดว่าการออกแบบคือทุกสิ่ง
ท้ายที่สุดแล้ว การออกแบบผลิตภัฑณ์มีส่วนสำคัญเพียงแค่ 10% ของกระบวนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด อย่าคิดว่าการออกแบบสำคัญกว่าสิ่งใดๆ คุณต้องเข้าใจภาพรวมของการออกผลิตภัณฑ์ ที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้ใจลูกค้าของคุณ การทำเหมือนกับว่า การออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งเดียวที่สำคัญนั้น จะสร้างผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ในท้ายที่สุด
คุณอาจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สวยงามไร้ที่ติ แต่หากลูกค้าของคุณไม่สามารถจ่ายได้ ผลิตภัณฑ์ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ในทำนองเดียวกัน หากผลิตภัณฑ์ของคุณตรงตามความต้องการและมีราคาที่เหมาะสม แต่มอบประสบการณ์การใช้งานที่แย่มากมันก็จะเป็นความล้มเหลว เช่นกัน
เราต้องพยายามให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ระหว่างทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัย นักออกแบบผลิตภัณฑ์ นักการตลาด และวิศวกร การถกเถียงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหากสมาชิกในทีมของคุณสามารถเลือกการประนีประนอม ที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดของการสร้างผลิตภัณฑ์โดยรวม คุณก็จะได้ ผลิตภัณฑ์ที่มีพลังดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างเต็มที
5. ผลักดันมัน
ตอนนี้คุณต้องยอมรับแล้วว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำเรื่องยิ่งใหญ่ คุณต้องมั่นใจว่า คุณได้มอบผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ คุณจะต้องไม่เลิกล้มกลางคัน สินค้าที่ดีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีพลังดึงดูดผู้บริโภค ต้องมีการออกแบบที่ยอดเยี่ยมด้วย
จุดพลังใจและไฟในตัว ทำทุกอย่างในอำนาจของคุณ เพื่อผลักดันการออกแบบให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พักผ่อนบ้าง แล้วหาวิธีปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อก้าวไปข้างหน้า
ลองใช้เครื่องมือทั้ง 5 นี้ เพื่อวางรากฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทรงพลังของคุณ หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากองค์กร ให้เดินออกไปซะ และหาโอกาสเพื่อแสดงพลังของคุณข้างหน้า
เกี่ยวกับผู้แต่ง :
Kelly Custer เป็น Founder + Design Director ของ Knack จบการศึกษาเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ขนส่งเคลื่อนที่จาก College for Creative Studies ในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ด้วยประสบการณ์การให้คำปรึกษาด้านการออกแบบมากกว่า 8 ปี ในผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค Kelly มีความหลงใหลในผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ เธอก่อตั้ง Knack ในปี 2014 และเป็นผู้นำในสตูดิโอเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์อุปกรณ์การเคลื่อนที่ที่เรียบง่าย ที่ใครก็ไม่อาจมองข้ามได้
ติดตาม Knack บน Instagram :
Source : Yango Design
Create : NokCB - Branding, Corporate Branding, Communications Branding & Consultant
============================
ติดตามทุกเรื่องเกี่ยวกับ การสร้างแบรนด์ การตลาด การโฆษณา ธุรกิจ ดีไซน์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ แบบลึกซึ้ง สนุกสนานได้ที่...
Facebook : BirdBrand
Blockdit : BirdBrand & Nok Creative Branding
โฆษณา