16 ก.พ. 2020 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
#ก้าวทันการค้าโลกไปกับ
"นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
ประจำสัปดาห์ที่ 10-16 ก.พ. 2563
สวัสดีเพื่อนๆ ที่ติดตามเพจนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ทุกท่าน
ด้วยความที่สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศในปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากๆ
.
แอดมินก็เลยนึกขึ้นมาว่า หากสรุปเหตุการณ์ประจำสัปดาห์ ให้อ่านกันใน 1 โพส จะดีไหม?
.
❤️ เริ่มกันที่สัปดาห์แห่งความรักนี่หล่ะ จะดีหรือไม่อย่างไร ก็ลองดูละกันนะ
.
พยายามย่อให้สั้นสุดๆ ไม่ให้เกิน 2 หน้า A4 (เอ นี่เรียกว่าสั้นแล้วหรอ?)
.
เน้นที่เกี่ยวกับการค้า, เศรษฐกิจ โดยหลักๆ แหล่งข้อมูลมาจาก DITP ซึ่งทำรายงานแยกแต่ละประเทศดีมากๆ
.
หากเพื่อนๆ มีข้อมูลเพิ่มอยากแชร์ หรืออยากติชม ก็คอมเม้นท์มาได้เลย เดี๋ยว Update เพิ่มในโพสนี้
🇨🇳 จีน
1) เริ่มที่ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ได้ชื่อ ทางการจาก WHO เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า “COVID-19” หรือย่อมาจาก “COronaVIrus Disease starting in 2019” แหม่ ช่างตรงตัวมากๆ
2) จีน อยู่ๆ ก็ปรับวิธีนับตัวเลข จากที่ต้องส่งห้อง Lab แล้วรอผล 4 วัน เปลี่ยนเป็นใช้ดุลยพินิจของแพทย์ได้เลย ผลก็คือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ กระโดด จาก 44,000 ราย วันที่ 11 ก.พ. เป็น 59,000 รายในวันต่อมา
3) ด่านศุลกากรของจีนเริ่มกลับมาเปิดทำการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่ก็ยังมีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิคนเข้า-ออก อย่างเข้มงวด ทำให้ต้องใช้เวลาเคลียร์สินค้านานขึ้น ไม่ได้สะดวกรวดเร็วเหมือนช่วงปกติ
4) ทางด้าน นายจง หนานซาง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคระบบทางเดินหายใจนครกว่างโจว ให้สัมภาษณ์กับ Global Times เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า “โรคปลอดอักเสบจาก COVID-19 จะเข้าสู่ช่วงพีค ในกลางเดือน หรือ ปลายเดือน กุมภาพันธุ์นี้
5) การระบาดของ COVID-19 ในจีน ทำให้มีธุรกิจหลายๆอย่างได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเทรนด์การบริโภคจาก Offline ไป Online ไม่ว่าจะเป็น e-commerce, Food delivery, บันเทิง, การศึกษา อย่างเช่น การสั่งสินค้าเกษตรออนไลน์ เพิ่มขึ้น 1-3 เท่าตัว โดยเฉพาะแอปพลิเคชั่นซุปเปอร์มาร์เกตเหอม่า Fresh Hema ของ Alibaba
6) ผลกระทบทางเศรษฐกิจจีน คงต้องรอดูสถานการณ์ว่ายืดเยื้อไหม แต่ตอนนี้ที่โดนไปเต็มๆ และเกี่ยวเนื่องกับไทย ก็คือ สินค้าเกษตร พวกผลไม้ และอีกอย่างหนึ่งคือ สินค้าประมง เนื่องจากหลายๆ เมืองในจีนประกาศระงับการค้าขายสัตว์มีชีวิต ทำให้ประชาชนหวาดกลัว ทำให้ยอดนำเข้า ลอบสเตอร์เอย แซลมอนเอย ลดลงอย่างมาก อาจกระทบชิ่งมาไทย ได้ทานของพวกนี้ในราคาที่ถูกลงก็เป็นได้ (แต่ก็กระทบผู้ค้าในประเทศเรา)
🇺🇸 สหรัฐ
1) สืบเนื่องจาก ตัวเลขอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำ New High ต่อเนื่อง (ตรงกันข้ามกับตลาดหุ้นไทย) ทำให้คาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายในวันแห่งความรักจะสูงขึ้น จาก 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 2.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ เติบโตกว่า 35%
2) เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายในประเทศ โดยเทศกาลวันแห่งความรัก จัดเป็นเทศกาลลำดับ 4 ที่เงินสะพัด รองมาจาก 3 ลำดับแรก ก็คือ วันหยุดปลายปี, วันเปิดเทอม, และวันแม่ (ช่วง พ.ค. นะ ไม่ใช่ ส.ค. เหมือนบ้านเรา)
3) ปีนี้คาดว่าผลผลิตข้าวของสหรัฐฯ จะลดลง เนื่องจากน้ำฝนมากเกินไป ทำให้ข้าวไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มประมาณ 11% ซึ่งส่วนใหญ่คือข้าวหอมไทย นี่แหล่ะ เป็นข่าวดี กลบข่าวร้ายที่จีนนิดนึง
4) อย่างไรก็ตาม การที่จีนเซ็นต์สัญญาซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มากขึ้น รวมไปถึงข้าวด้วย ก็อาจเป็นคู่แข่งกับข้าวไทยในจีน
🇹🇭++ อาเซียน
1) จากสถานการณ์ COVID-19 ประเทศที่โดนหนักที่สุดน่าจะสิงคโปร์ รองมาก็ไทยเรานี่แหล่ะ
สัปดาห์นี้ นายก ลี ก็ไปตรวจที่สนามบิน Changi และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยนายกลี ยอมรับว่าผลประกอบครั้งนี้ หนักกว่า SARS มาก เพราะเศรษฐกิจผูกกับจีน มากกว่าคราวที่แล้วมากๆ
2) ตอนนี้ 10 อาเซียน เชื่อมโยง eForm D สมบูรณ์แล้ว ก็จะทำให้การค้าขายระหว่างชาติในอาเซียน สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ภาษี 0% เป็นส่วนใหญ่ โดยผู้ประกอบการไม่ต้องไปยื่นเอกสารแต่ละประเทศ มายื่นที่ไทย แล้วระบบจะยิงให้ Auto (เจ๋งมาก!)
3) กัมพูชา โดน EU เล่นงานถอนสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร หรือ GSP ของสินค้าบางประเภท เช่น สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และน้ำตาล โดยอ้างเหตุผลเรื่องสิทธิมนุษยชนและแรงงาน การยุบพรรคฝ่ายค้าน การจับกุมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านและสื่อมวลชนฝ่ายค้าน ซึ่งเรื่องนี้กระทบนักธุรกิจไทยโดยตรง อาจต้องมองหาฐานการผลิตสำรอง ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ก็สรุปมาให้แบบพอประมาณ เพียงเท่านี้นะครับ
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และหากต้องการปรึกษาเรื่องนำเข้าส่งออก แอดไลน์ @zupports ได้เลย
โฆษณา