16 ก.พ. 2020 เวลา 12:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เลือกหุ้นที่จะศึกษายังไงดี? ต้องรู้จักหุ้นจำนวนมากขนาดไหน? บทความนี้มีคำตอบ
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.1966 วอร์เร็น บัฟเฟตต์ได้เขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นไว้ว่า
"สิ่งที่นักลงทุนต้องมี คือ ความสามารถในการประเมินกิจการ"ที่ได้เลือกไว้"อย่างถูกต้อง เน้นที่คำว่า "ที่ได้เลือกไว้" ให้ดี เพราะว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกๆบริษัท หรือแม้แต่หลายบริษัท นักลงทุนแค่ต้องสามารถประเมินหุ้นที่อยู่ใน Circle of Cempetence ของตัวเองได้อย่างแม่นยำ ขนาดของ Circle นั้นไม่สำคัญแต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องรู้"
สำหรับใครที่ไม่เข้าใจนะครับ Circle of Competence เปรียบเสมือนวงกลมที่แทนความรู้ของเรา โดยในการเลือกหุ้นนั้นเราจะต้องชัดเจนเกี่ยวกับกิจการที่เรารู้และเข้าใจ และต้องยอมตัดใจที่จะลงทุนหุ้นที่อยู่นอกวงกลมนี้ จนกว่าหุ้นตัวนั้นเข้าไปอยู่ในวงกลมที่เราเข้าใจนั่นเอง
บัฟเฟตต์ยังได้เล่าเพิ่มเติมว่า
"ถ้าจะพูดให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับ Circle of Competence มากขึ้น ผมขอยกตัวอย่างสาวชาวรัสเซียที่เป็นผู้จัดการร้านเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ในเนแบรสกา ผมคงจะขายหุ้น Berkshire ที่มีมูลค่ามากถึง 200 ล้านเหรียญให้กับเธอไม่ได้ เพราะเธอไม่เข้าใจหุ้น แต่เพียงแค่พริบตาเธอจะสามารถเลือกซื้อโต๊ะสุดหรูที่ราคา 5 พันเหรียญ และ พรหมอีกมากกว่า 20 ผืนในราคาที่เกินคุ้ม เพราะเธอเข้าใจเงินสด เธอเข้าใจเฟอร์นิเจอร์ และชาตินี้คุณคงจะไม่เห็นเธอซื้อหุ้น General Motors แม้มันจะลงมาเหลือครึ่งเหรียญก็ตาม"
บุคคลที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและมือขวาของบัฟเฟตต์อย่าง ชาร์ลี มังเกอร์ เองก็เคยกล่าวเกี่ยวกับ Circle of Competence ไว้ว่า
"คุณจำเป็นต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าความชำนาญของคุณคืออะไร ถ้าให้คุณซึ่งเป็นคนที่ไม่ชำนาญในเรื่องเกมไปแข่งกับคนที่ชำนาญมาก คุณจะแพ้โดยไม่ต้องสงสัย คุณจึงต้องมองหาเหลี่ยมคมที่ตัวเองชำนาญเพื่อใช้ในการเชือดเฉือนคู่แข่งและชนะให้ได้
คุณอาจจะต้องใช้เวลาพักใหญ่เพื่อที่จะชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่หลังจากที่คุณลองศึกษาไปสักพัก คุณจะพบว่าคนที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้อย่างคุณจะมีความได้เปรียบในชีวิตเหนือกว่าคนอีกหลายคน"
แนวคิดของเรื่องดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้จริงโดยบัฟเฟตต์ และ มังเกอร์ ที่บริษัท Berkshire Hatthaway
พวกเขาจะแบ่งหุ้นของบริษัทต่างๆออกเป็น 3 กองด้วยกัน คือ น่าสนใจ, ไม่น่าสนใจ และ ยากเกินไป
คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าบริษัทลงทุนระดับโลกอย่าง Berkshire คงจะเข้าใจหุ้นจำนวนมากและกองหุ้นส่วนใหญ่ไว้ในกองไม่น่าสนใจ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย บริษัทส่วนใหญ่นั้นถูกโยนลงกองยากเกินไปทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นสิ่งที่นักลงทุนควรทำ คือ การโฟกัสไปที่หุ้นที่คุณสามารถเข้าใจได้ หรือ อยากจะเข้าใจมากๆ แทนที่จะต้องเข้าใจหุ้นทุกตัวในตลาด
การโฟกัสไปที่หุ้นไม่มากจนเกินไปยังจะทำให้นักลงทุนสามารถให้เวลาในการศึกษาบริษัทนั้นๆอย่างเต็มที่จนแตกฉาน
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มเลือกหุ้นมาศึกษาจึงมักจะเป็นหุ้นในอุตสาหกรรมที่คุณทำงานอยู่, อุตสาหกรรมที่คุณเป็นผู้บริโภคชั้นเยี่ยม หรือ บริษัทที่คุณอยากเข้าใจจนตัวสั่นนั่นเอง
The Owner ลงทุนหุ้นอย่างเจ้าของกิจการ
สนับสนุนให้ทุกท่านลงทุนอย่าง รู้จริง ปลอดภัย และ ยั่งยืน
Reference
Letter to Sharesholders Berkshire Hatthaway 1966
โฆษณา