17 ก.พ. 2020 เวลา 04:09
โรคระบาดในสมัยพุทธกาลปรากฎในรัตนสูตร
ในสภาวะที่เกิดโรคระบาดร้ายแรงทั่วโลก ผู้เขียนพบว่าในสมัยพุทธกาลมีการระบาดของโรคด้วยเช่นกัน
โรคระบาดที่ปรากฎในพระไตรปิฎกในสมัยพุทธกาล เป็นโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชนชั้นล่างหรือรากหญ้า ดังมีในอรรถกถารัตนสูตร
ที่เมืองเวสาลีปกครองโดยกษัตริย์ลิจฉวี
เนื่องจากเป็นการปกครองเป็นทีม
แบ่งเป็นทีมกษัตริย์ลิจฉวี ที่ร่วมกันปกครอง 7,707 พระองค์
ทีมสภาขุนนาง
ทีมสภาประชาชน
แต่ละทีม มีธรรมะ ประจำทีม
อยู่ร่วมกันโดยใช้หลักสามัคคีธรรม เลยทำให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ชาวเมืองสุขภาพแข็งแรงอุดมสมบูรณ์ในเรื่องข้าวปลาอาหาร
ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาช้านานเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดี
บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว พืชผักอุดมสมบูรณ์
ต่อมาเกิดภัยแล้ง
ข้าวกล้าแห้งตาย น้ำเหือดแห้ง
เกิดโรคระบาด คนจนตายก่อน
อมนุษย์เข้ามากินศพ
แคว้นวัชชีประสบภัยภัย 3อย่าง
ทุพภิกขภัย
อมนุสสภัย
โรคภัยเบียดเบียน
ภัยเหล่านี้ไม่เคยบังเกิดขึ้นมาก่อนถึงชั่ว 7 รัชกาล
สภาทั้งสามสภาร่วมประชุมปรึกษาหารือข้อผิดพลาดในเรื่องธรรม
สำรวจว่าสภาใดที่ทำผิดธรรมะของแต่ละฝ่าย
เหตุใดจึงเกิดทุพภิกขภัยแต่ไม่พบข้อบกพร่อง.......
ต่อมาได้มีการประชุมกันและสรุปได้ดังนี้
"....ได้ยินว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติแล้วในโลก, พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ปวงสัตว์ ทรงมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก พอพระองค์ย่างพระบาทลงเท่านั้น ภัยทุกอย่าง ก็จะระงับไป..."
กษัตริย์ลิจฉวี ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าพิมพิสาร ขอทูลเชิญพระพุทธเจ้าเสด็จสู่เวสาลี
พระเจ้าพิมพิสารได้จัดเตรียมงานส่งเสด็จพระพุทธเจ้าสู่แคว้นวัชชีด้วยการทำความสะอาดบ้านเมืองให้สะอาด
ประดับธง ตั้งฉัตร โปรยน้ำหอม
โปรยดอกไม้ห้าสี
เพื่อส่งเสด็จไปยังแคว้นวัชชีโดยมีภิกษุแวดล้อม 500 รูป
กษัตริย์ลิจฉวี จัดงานต้อนรับเสด็จในการเข้าแว่นแคว้นของพระพุทธเจ้าเป็นสองเท่าของพระเจ้าพิมพิสาร
พระพุทธเจ้าทรงประทับที่ประตูเมืิอง
ทรงตรัสกับพระอานนท์ดังนี้
" ...เธอจงเรียนรัตนสูตรนี้
ถือเครื่องประกอบพลีกรรมเที่ยวเดินไประหว่างปราการ 3 ชั้น ..."
พระอานนท์จึงนำบาตรของพระพุทธเจ้า
ตักน้ำใส่บาตรเดินประพรมทั่วพระนคร
สวดสรรเสริญพุทธรัตนะ
ธรรมรัตนะ
สังฆรัตนะ
เดินรอบกำแพงเมืองสามชั้น
เหล่าอมนุษย์ได้พากันหนีออกจากเมือง
หลังจากที่มีพิธีกรรมในการสวดสรรเสริญพระรัตนตรัยได้เกิดฝนตกหนัก
น้ำท่วมใหญ่พัดพาเอาซากศพออกไป
บ้านเมืองสะอาดสดใสขึ้น ชาวเมืองจึงร่วมใจกันการตกแต่งบ้านเมืองด้วยดอกไม้และของหอม นำของหอมฉาบทาฝาผนังบ้าน
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสดชื่น แจ่มใส ชาวเมืองมีกำลังใจกันมากขึ้น พากันมาโปรยดอกไม้ โปรยของหอม ตั้งธงแผ่นผ้า ธงชัยต้อนรับการเสด็จสู่แคว้นวัชชีของพระพุทธเจ้า
และปวารณาตนเป็นพุทธมามกะ รับศีลห้าในการดำรงชีวิต
สรุป
สันนิษฐานว่า เมื่อเกิดภัยแล้ง เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการประหยัดเรื่องน้ำ
ชนชั้นล่างไม่มีการทำความสะอาดร่างกายให้สะอาด อาจเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค ทำให้เกิดโรคภัยต่าง ๆได้
-การขาดอาหารที่พึงบริโภค ชนชั้นล่างอาจจับสัตว์ที่เป็นแหล่งเชื้อโรคที่ทำให้เป็นโรคระบาดมาเป็นอาหาร
ดังนั้นเมื่อมีการสำรวจธรรมในแต่ละสภา ไม่มีสภาใดบกพร่องเรื่องธรรมจึงหาสาเหตุของภัยแล้งและโรคระบาดไม่ได้
-ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จเข้าแคว้นลิจฉวี พระอานนท์เข้ามาก่อน ทางแคว้นลิจฉวีมีการทำความสะอาดบ้านเมืองครั้งใหญ่
-ทำความสะอาดพระนคร จึงทำให้ปลอดจากเชื้อโรค มีการประดับตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงาม ทำให้เจริญตา จิตใจแจ่มใสขึ้น
-เมื่อฝนตกหนักพัดพาเอาสิ่งโสโครกผ่านไป ความสะอาดเข้ามาแทนที่ทำให้ร่างกาย และสุขภาพแข็งแรงขึ้น
-พระพุทธเจ้าเป็นเสมือนบุคคลที่ฟื้นฟูจิตใจ ทำให้ชาวเมืองมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต เข้าใจในหลักธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับศีล 5 อันเป็นศีลเบื้องต้นในการดำรงชีวิต
รัตนสูตร หรือรัตนปริตร จัดเป็นหนึ่งในพระปริตร หรือพระคาถาพรรณนาอานุภาพของพระรัตนตรัย โดยได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในพระคาถาหลักของคัมภีร์จตุภาณะวารปาลี หรือตำรารวบรวมพระปริตรที่เป็นที่นิยมสวดสาธยายกันในศรีลังกา รวบรวมขึ้นในช่วงยุคกลางของประวัติศาสตร์พุทธศาสนา หรือในยุคที่พระพุทธศาสนากำลังรุ่งเรืองในลังกา นอกจากนี้ ยังมีอรรถกถาอธิบายพระปริตรนี้ในคัมภีร์ปรมัตถโชติกา อรรกถาขุททกนิกาย
คำสำคัญ: โรคระบาด ทุพภิกขภัย โรคภัย
refer:
อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ รัตนสูตรในขุททกปาฐะ
เรื่อง พรรณนารัตนสูตร     
wikipedia เรื่อง รัตนสูตร หรือ รัตนปริตร
โฆษณา