20 ก.พ. 2020 เวลา 00:15 • กีฬา
โทษแบนไม่ส่งผล! เรือใบ เปิดบ้านอัด ขุนค้อน 2-0 ยังตาม หงส์ 22 แต้ม
ศึก พรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง มาหวดกันในกลางสัปดาห์นี้ โดยเป็นเกมระหว่าง แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับมือ เวสต์แฮม ที่เลื่อนมาจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา อันเป็นเหตุมาจากพายุเซียร่า
สำหรับเกมนี้ มันเป็นนัดแรกหลังข่าวช็อกวงการที่ว่าโดน ยูฟ่า สั่งแบนห้ามเข้าแข่งขันในฟุตบอลยุโรปเป็นเวลา 2 ปีสำหรับการละเมิดกฎการเงิน ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ ซึ่งทำเอา "เรือใบสีฟ้า" กลายเป็นประเด็นใหญ่ตลอดช่วงไม่กี่วันมานี้
แมนฯ ซิตี้ ปรับทัพ 5 ตำแหน่งจากเกมแพ้ สเปอร์ส 0-2 หลัง ราฮีม สเตอร์ลิง ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ โอเล็คซานดร้า ซินเชนโก้ ติดโทษแบนหลังโดนไล่ออกในเกมดังกล่าว
โดยได้ เอมเมอริก ลาปอร์กต์ สลัดเดี้ยงคืนสนามเป็นนัดแรกตั้งแต่เจ็บเข่าเมื่อปลายเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ส่วนอีก 4 ตำแหน่งเป็น แบงฌาแม็ง เมนดี้, ดาบิด ซิลบา, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ กาเบรียล เชซุส
ในระบบ 4-3-3 เอแดร์ซอน รับหน้าที่เฝ้าเสา แนวรับวาง ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลาส โอตาเมนดี้, เอมเมอริก ลาปอร์กต์ และ แบงฌาแม็ง เมนดี้
โรดรี้ เอร์นานเดซ ปักหลักมิดฟิลด์ตัวต่ำ ขนาบด้วย เควิน เดอ บรอยน์ กับ ดาบิด ซิลบา แดนหน้าเลือก แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ กาเบรียล เชซุส
เวสต์แฮม เลือกเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมเสมอ ไบรท์ตัน 3-3 อาร์ตูร์ มาซูอากู เป็นตัวจริงแทนที่ เซบาสเตียง ออลแลร์ ขณะที่ จาร์ร็อด โบเว่น สมาชิกใหม่ที่ย้ายมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ประเดิมด้วยการเป็นตัวสำรอง
ตามหมาก 3-5-2 ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ ดูแลด่านสุดท้าย ปราการหลัง 3 คนเป็น อิสซ่า ดิย็อป, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า และ อารอน เครสส์เวลล์
วิงแบ็ก 2 ฝั่งเป็น ไรอัน เฟรเดอริคส์ กับ อาร์ตูร์ มาซูอากู แดนกลางยัด โทมัส ซูเซ็ค, เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ค โนเบิ้ล แดนหน้าเลือกใช้กองหน้าจำเป็นอย่าง โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ กับ มิเคล อันโตนิโอ
เริ่มเกมไปได้ 6 นาที แมนฯ ซิตี้ น่าได้ประตูนำเร็ว ซิลบา แทงทะลุช่องให้ เชซุส เข้าเขตโทษฝั่งซ้ายไปล็อกหนี ฟาเบียนสกี้ เข้าซ้ายแต่จังหวะจะยิงมาโดน เฟรเดอริคส์ ตามมาสกัดออกไปได้ทันเวลา
2 นาทีต่อมา ยังเป็นโอกาสของเจ้าถิ่น เดอ บรอยน์ แทงเข้าเขตโทษให้ อเกวโร่ เลือกดีดด้วยขวาติดไซด์ก้อยจากระยะ 17 หลาโค้งหลุดเสาซ้ายมือไปนิดเดียว
นาที 12 "เรือใบสีฟ้า" ได้โอกาสสวนกลับเร็วขึ้นมาก่อนจบที่ เดอ บรอยน์ ตะบันเรียดหน้าเขตโทษตรงตัว ฟาเบียนสกี้ ที่เซฟได้ด้วยขาก่อน เครสเวลล์ หวดทิ้งออกข้าง
ให้หลัง 2 นาที เชซุส พลาดโอกาสทองอีกแล้วหลัง เดอ บรอยน์ ถวายพานให้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่ดันคิดช้าทำช้าเลยยิงติดบล็อก เครสเวลล์ ได้ซ้ำอีกครั้งก็แฉลบคนเดิมออกหลังไป
แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูนำจนได้ใน นาที 30 เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายไปเสาแรก โรดรี้ สลัดตัวประกบไปโหม่งเช็ดบางๆ ส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปเป็นประตู 1-0
เจ้าบ้านคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด นาที 38 ซิลวา ลากจี้ขึ้นมาทางขวาก่อนเข้าซ้ายแล้วโยนไปหน้าประตู ซิลบา โฉบไปเหยียดเท้าจิ้มบอลหลุดกรอบหวุดหวิด
45 นาทีแรกจบลงไป แมนฯ ซิตี้ นำก่อน 1-0 โดยที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด เวสต์แฮม ไม่ได้มีโอกาสตั้งเกมขึ้นไปลุ้นประตูเลย ความจริงสกอร์ควรขาดกว่านี้ไปแล้วถ้า เชซุส ไม่ทำหมูหกถึง 2 ครั้ง
กลับมาต่อครึ่งหลัง เวสต์แฮม ยังกลั้นใจไม่เปลี่ยนตัวแก้เกม ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ ก็ยังอีหรอบเดิม แมนฯ ซิตี้ ครองบอลบุกใส่เป็นหลัก
เหมือนการซ้อมทีมมากกว่า
นาที 54 เดอ บรอยน์ ผ่านบอลให้ อเกวโร่ ลากลุยเข้าเขตโทษหนีการตามสกัดของ อ็อกบอนน่า ก่อนยิงหักข้อด้วยขวาพุ่งเรียดผ่านหน้าปากประตูหลุดเสาซ้ายมือออกไป
เข้าสู่ชั่วโมงแรก เวสต์แฮม เปลี่ยนตัวก่อนหลัง เฟรเดอริคส์ เจ็บไหล่จนเล่นต่อไม่ไหว ปาโบล ซาบาเลต้า อดีตแข้งแมนฯ ซิตี้ เลยถูกส่งลงมาเป็นสำรอง
ถัดมา 2 นาที สกอร์ไหลเป็น 2-0 เดอ บรอยน์ จ่ายเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ซิลวา ล็อกหนี เครสเวลล์ เข้าขวากำลังจะลุ้นยิงประตูแต่ เดอ บรอยน์ สอดมาจากด้านหลังก่อนตะบันด้วยขวาแฉลบฝ่าเท้าของ เครสส์เวลล์ พุ่งเบียดเสาแรกผ่านการป้องกันของ ฟาเบียนสกี้ เข้าไป
"เรือใบสีฟ้า" เปลี่ยนตัวบ้างใน นาที 65 โดยถอด ลาปอร์กต์ ออกไปพักแล้วส่ง จอห์น สโตนส์ ลงมาดูแลหลังบ้าน
นาที 77 เจ้าบ้านพลาดโอกาสบวกเพิ่ม เดอ บรอยน์ ดีดไซด์ก้อยจากหน้าเขตโทษฝั่งขวาไปเสาไกลให้ เชซุส พักอกแล้วฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวาระยะ 8 หลาแต่ก็ยังติดเซฟของ ฟาเบียนสกี้
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ส่งอิลคาย กุนโดกัน ลงไปแทน เดอ บรอยน์ ส่วน "เดอะ แฮมเมอร์ส" ส่ง จาร์ร็อด โบเว่น ลงไปแทน สน็อดกราสส์
นาที 85 แมนฯ ซิตี้ ส่งสำรองคนสุดท้าย ฟิล โฟเด้น ลงไปเชื่อมเกมแดนกลางแทนที่ ซิลบา
แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติม จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านซิว เวสต์แฮม 2-0 ลดช่องว่างจาก ลิเวอร์พูล เหลือ 22 แต้มและขยับหนี เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ออกไปเป็น 4 แต้มแล้ว
แมนฯ ซิตี้ เล่นเหมือนซ้อมเกมรุกเลยจริงๆ ในวันนี้ เพราะ เวสต์แฮม ได้แต่ตั้งรับ ไม่สามารถคุกคามแดนหลังของพวกเขาได้เลย
แม้ว่าไม่ต้องทำอะไรมากแต่การคัมแบ็กของ ลาปอร์กต์ ส่งผลถึงเกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ โดย เดอ บรอยน์ ยอมรับว่ามันเพิ่มความมั่นใจให้แก่เพื่อนๆ โดยเฉพาะในแนวรุกนั่นเอง
เดอ บรอยน์ ก็ยังคงโดดเด่นสำหรับผลงานส่วนตัวเพราะในเกมนี้ก็ยิงเอง 1 ประตูบวกกับทำอีก 1 แอสซิสต์ ทำให้ยอดรวมพุ่งไปแตะที่ 16 ครั้งแล้ว หากจะมีใครของฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นรางวัลนักเตะแห่งปีของ พีเอฟเอ ก็หนีไม่พ้น ดาวเตะวัย 28 ปี แน่นอน
ทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยดีสำหรับ ซิตี้ อาจจะยกเว้นเพียง เชซุส ที่อุตส่าห์ได้เป็นตัวจริง แถมได้โอกาสเน้นๆ มากกว่าใครเพื่อนแต่ดันไม่มีแม้แต่ประตูเดียว
ใน พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ คงไม่มีอะไรจะทำได้ดีไปกว่านี้แล้ว พวกเขาต้องเดินหน้าฟาดชัยให้ได้ทุกนัดนับจากนี้ อย่างน้อยก็เพื่อศักดิ์ศรีในฐานะแชมป์เก่าในการดึงเวลาให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ได้ช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เหล่าผู้เล่นของ "เรือใบสีฟ้า" ต่างพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เสียสมาธิไปกับกระแสข่าวร้ายเรื่องการโดนแบนไม่ให้เล่นในฟุตบอลยุโรป 2 ปี เพราะมันเป็นเรื่องนอกสนามที่ต้องปล่อยให้พวกผู้บริหารหรือฝ่ายกฎหมายไปจัดการกันเอาเอง
กลางสัปดาห์หน้า มันเป็นคิวของ ซิตี้ ในการลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยจะออกไปเยือน เรอัล มาดริด ก่อนในนัดแรก
แน่นอนว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และลูกทีมหมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้เพราะมันเป็นเกียรติยศเดียวที่เขายังไม่เคยสัมผัสตั้งแต่มาคุมทัพใน เอติฮัด สเตเดี้ยม และมันจะเป็นรางวัลปลอบใจที่ดีที่สุดสำหรับการเสียแชมป์ พรีเมียร์ลีก
แต่ ณ เวลานี้ ความมุ่งมั่นของพวกเขาในถ้วยบิ๊กเอียร์ยิ่งรุนแรงกว่าเดิมเพราะการผงาดขึ้นไปชูโทรฟี่แชมป์ยุโรปได้สำเร็จในฤดูกาลนี้คงจะเป็นการตบหน้า ยูฟ่า ด้วยความสะใจเพื่อระบายอารมณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างดีที่สุด ต่อให้พวกเขาจะทำผิดกฎจริงๆ ก็ตาม
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา