21 ก.พ. 2020 เวลา 11:00 • กีฬา
" นักมายากลแห่งบัลแกเรีย "
 
หนึ่งในเหตุการณ์น่าเซอร์ไพรส์สุดของฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกาก็คือ การที่ บัลแกเรีย น็อค แชมป์เก่าอย่าง เยอรมันตกรอบไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 และได้ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก
 
อันที่จริง พวกเขาทำเซอร์ไพรส์มาตั้งแต่รอบคัดเลือกแล้วด้วยซ้ำ
ในนัดสุดท้าย บัลแกเรีย ต้องบุกไปเยือนฝรั่งเศสที่ พาร์ก เดส์ แพร็งส์ และต้องชนะให้ได้สถานเดียว
 
เจ้าถิ่นตราไก่ ขอแค่เสมอก็ตีตั๋วไปอเมริกาทันที แถมพวกเขาได้ประตูนำก่อนจาก เอริค คันโตน่า
 
จนมาถึงนาทีสุดท้าย ฝรั่งเศสได้ฟรีคิกใกล้เส้นหลังของบัลแกเรีย บอลเล่นสั้นมาที่ ดาวิด ชิโนล่า ปีกจอมลีลาตัดสินใจครอสบอลไปเสาไกล แต่มันไกลเสียจนเลยออกไปอีกฝั่ง ไม่มีนักเตะฝรั่งเศสอยู่ตรงนั้นสักคน
 
วินาทีนั้นเองที่ความบรรลัยเริ่มเกิด บัลแกเรีย ต่อบอลกันขึ้นมาเป็นทอดๆ ก่อนสุดท้ายบอลเปิดมาให้ เอมิล คอสตาดินอฟ พักบอลลงแล้วตามไปวอลเล่ย์เสยเพดานเข้าไปอย่างหมดจด
แฟนตราไก่ช็อกทั้งสนาม เชราร์ อุลลิเย่ร์ ในฐานะกุนซือออกมาตำหนิ ดาวิด ชิโนล่า ว่าเป็น "คนสังหารฟุตบอลฝรั่งเศส"
 
บัลแกเรีย ได้ตามสวีเดน เข้ารอบไปที่ USA94 ด้วยกัน
 
คราวนั้น บัลแกเรีย คือหนึ่งในทีมที่มาแบบเงียบๆ แต่ทำผลงานได้ดี มีนักเตะระดับขึ้นหิ้งหลายราย ส่วนใหญ่เป็นพวกแคแรกเตอร์แสบๆ ทั้งนั้น
 
นายทวาร โบริสลาฟ มิคไฮลอฟ กัปตันทีม, ทริฟอน อิวานอฟ กองหลังมนุษย์หมาป่า, แดนกลางมี คราสซิเมียร์ บาลาคอฟ เพลย์เมกเกอร์คลาสสิก แดนหน้ามีสองอันตราย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ และ เอมิล คอสตาดินอฟ และอีกหนึ่งราย มิดฟิลด์หมายเลข 9 ยอร์ดาน เลทช์คอฟ
นิสัยส่วนตัวของ เลทช์คอฟ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เป็นที่จดจำ นอกเหนือจากหัวล้านเลี่ยนมีหย่อมอยู่ข้างหน้าแค่หยิบมือของเขา
 
มิดฟิลด์พรสวรรค์รายนี้ อารมณ์บูด ชอบทะเลาะกับเพื่อนนักเตะ และโค้ชอยู่เป็นประจำ ทำให้เส้นทางลูกหนังไม่ราบรื่นนัก
 
เขาเล่นกับ สลิเวน ต่อด้วย ซีเอสเคเอ โซเฟีย ในบ้านเกิด ก่อนย้ายไปเยอรมันกับ ฮัมบูร์ก ในปี 1992
 
แม้จะยิงประตูไม่บ่อยนัก แต่ก็ถือว่ามักโผล่มาในช็อตสำคัญ เกมสำคัญอยู่เสมอ แฟนบอลบัลแกเรีย ตั้งฉายาให้เขาว่า "พ่อมด" หรือ "นักมายากล" ด้วยทักษะเยี่ยม เลี้ยงบอลดี เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง และมิดฟิลด์ฝั่งซ้าย
 
ในฟุตบอลโลกที่สหรัฐฯ เขาเป็นนักเตะของสิงห์เหนืออยู่พอดี
เกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่ ไจแอนท์ส สเตเดี้ยม บัลแกเรีย ต้องเจอกับ เยอรมัน
 
โลธาร์ มัทเธอุส ซัดจุดโทษให้แชมป์เก่านำก่อนหลังผ่านครึ่งหลังได้ 2 นาที แต่ ในปี 1994 นั้น ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ คือหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายสุดในยุโรป
 
จอมโวจากบัลแกเรีย ซัดตีเสมอให้ทีมได้ในนาที 75
 
และแล้ว อีก 3 นาทีให้หลัง เลทช์คอฟ ก็บรรจุชื่อตัวเองลงบนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เมื่อโฉบเข้ามาโขกบอลผ่านมือ โบโด อิลก์เนอร์ เป็นประตูชัยให้บัลแกเรีย ชนะไป 2-1
 
"ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม ผมทายเอาไว้ว่าเราจะไปถึงรอบตัดเชือก" เลทช์คอฟ เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับนิตยสาร FourFourTwo
 
"วันก่อนเกม(กับเยอรมัน) เราฉลอง 2 วันเกิด คือของผม และของโค้ชดิมิทาร์ เปเนฟ เรารู้สึกว่าเราไม่กดดันเลย ขณะที่พวกเยอรมันตกอยู่ใต้ความกดดัน เราเล่นอย่างอิสระและทำได้ดีมากๆ"
เลทช์คอฟ กล่าวด้วยความมั่นใจ และบัลแกเรียก็ไปถึงรอบรองชนะเลิศได้จริงๆเสียด้วย
 
แม้ บัลแกเรีย จะไปแพ้ อิตาลี ของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ในรอบตัดเชือก 1-2 และโดน สวีเดน ยำ 4-0 ในนัดชิงที่ 3 ทว่า ชื่อของ ยอร์ดาน เลทช์คอฟ จะไม่มีแฟนบอลคนไหนลืมลง
 
ปัญหาส่วนตัวที่ทำให้เขาจบไม่สวย เขาทำผลงานเยี่ยมช่วย บัลแกเรีย คว้าตั๋วฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส แต่กลับลงเล่นไม่ได้
เหตุการณ์มาจากการที่เขาขัดแย้งกับต้นสังกัด เบซิคตัส ในช่วงต้นปี 1998 และโดนสั่งปรับเงิน เขาไม่พอใจ และไม่จ่าย เขายกครอบครัวกลับบัลแกเรียทันที พร้อมออกมาอ้างว่า เลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว
 
อย่างไรก็ดี พบว่าเขาไปฝึกซ้อมกับสโมสรในบ้านเกิด และลงเล่นให้ทีมชาติอุ่นเครื่องกับอาร์เจนติน่าอีกด้วย
 
เบซิคตัส ฟ้องร้องไปยัง ฟีฟ่า และยูฟ่า จนเป็นเหตุให้ ฟีฟ่า ตัดสินว่าเขาไม่มีสิทธิ์เล่นใน ฟร้องซ์ 98
 
และนั่นคือบทสุดท้ายของเขากับทีมชาติ ตลอดเส้นทางนับแต่ปี 1989-1998 นับตั้งแต่อายุ 22 จน 31 ที่เขารับใช้ชาติ เลทช์คอฟ ลงเล่นไปเพียง 45 นัดเท่านั้น และทำได้ 5 ประตู
 
แน่นอน ในบรรดา 5 ประตูที่เขาทำได้นี้ ลูกโขกตุงตาข่ายเยอรมันใน USA94 ย่อมเป็นประตูที่นิยามชีวิตนักฟุตบอลของ "นักมายากล" แห่งบัลแกเรียผู้นี้ได้ดีที่สุด
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา