Blockdit Logo (Mobile)
no name
•
22 ก.พ. 2020 เวลา 02:00 • กีฬา
[ #เพชรแท้แต่ไม่สวย ]
ปัญหาโลกแตกในวงการลูกหนังที่มีมานานตั้งแต่ปลายทศวรรษ 90 ต่อเนื่องมาถึงมิลเลนเนี่ยมใหม่ ลากยาวมาจนปัจจุบันนี้คือ
พอล สโคลส์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด 3 คนนี้ใครเก่งกว่ากัน?
มีการถกเถียงยกเหตุผลมาแบบหน้าดำคร่ำเครียด แต่ก็หาบทสรุปหรือข้อตกลงไม่ได้สักที แม้จะเอาข้อดีข้อด้อยมาหักล้างกันมากมายก็ตาม
แฟนแมนฯยูไนเต็ดส่วนใหญ่จะเชิดชู สโคลส์ เหนือกว่าใคร
แฟนลิเวอร์พูลก็ต้องหนึ่งเดียวคนนี้ เจอร์ราร์ด
ส่วนแฟนเชลซีจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แลมพาร์ด ครบเครื่องเรื่องมิดฟิลด์ที่สุด
แน่นอนการดีเบตกันในลักษณะ เราไม่อาจนำจำนวนประตู แอสซิสต์หรือเหรียญรางวัลที่แต่ละคนเคยได้รับมาชั่งบนเครื่องวัดแล้วได้คำตอบออกมาเลย
มีตัวแปรและองค์ประกอบหลายอย่างของทั้งสามคนที่แตกต่างกันออกไป
ประเด็นนี้ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้งจากความเห็นของ กาก้า ที่ระบุว่าทุกคนเจ๋งไม่ต่างกันเลย แต่หากต้องเลือกจริงขอเป็น เจอร์ราร์ด
ขณะเดียวกันถ้าเราย้อนไปดูอดีต มีผู้จัดการทีมและนักเตะดังชื่อดังมากมาย หล่นทรรศนะเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งนักเตะและกุนซือ เคยบอกไว้แล้วว่าชื่นชอบ สโคลส์ มากๆ อยากจะเล่นอยู่ข้างเดียวกัน เพราะความคลาสสิกเหนือชั้นน่าประทับใจจริงๆ
โทนี่ โครส หนึ่งในกองกลางที่ดีสุดคนหนึ่งรอบ 10 ปีก็จิ้ม สโคลส์ ด้วยเหตุผลความฉลาด เล่นง่ายๆแต่ได้ประสิทธิภาพและงดงาม
เขาทวิตไว้สั้นๆแค่ Paul Scholes เมื่อปี 2017 ก็เป็นอันเข้าใจได้แล้วว่าคืออะไร
เดโก้ ซึ่งเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก เป็นจอมครีเอท สร้างสรรค์นำไปสู่การได้ประตูลงความเห็นแบบนี้ด้วย
เพราะตำแหน่งที่ยืนใกล้เคียงกับ สโคลส์ อาจทำให้เกิดแรงบันดาลใจส่วนตัวซึ่งไม่แปลกอะไร
แต่ที่ไม่แปลกเลยสักนิดเดียวคือ แกรี่ เนวิลล์ ย่อมต้องฟันธงไม่ต้องคิดมากเลยว่า สโคลส์ เจ๋งสุด
เมื่อหลายปีก่อนเขาเคยปะทะคารมโต้กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ในหัวข้อนี้อย่างดุเดือด
คาร์ร่า เริ่มก่อนว่าถ้า สโคลส์ เก่งจริงทำไม สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษไม่จับไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางเหมือนตอนอยู่แมนฯยูไนเต็ดล่ะ จะฉีกไปทางฝั่งซ้ายทำไม
ได้ยินอย่างนี้เข้า แกรี่ จึงสวนกลับทันควันว่า ลองมองให้รอบด้านสิ ไม่ใช่เพราะ สโคลส์ เล่นได้หลากหลายตำแหน่งหรือ นี่ต่างหากที่ยืนยันว่าใครกันเจ๋งจริง
คาร์ร่า ได้แต่นิ่งอึ้ง แต่ก็ยังยืนกรานว่าด้วยสไตล์การเล่น เจอร์ราร์ด กับ แลมพ์ส เหมาะกับตัวกลางมากสุด
และแน่นอนเขาเลือกเพื่อนรักรุ่นเดียวกันอย่าง เจอร์ราร์ด ว่าคือสุดยอดในยุคนั้น
แต่ถ้าให้ จอห์น เทอร์รี่ ที่หัวหกก้นขวิดกับ แลมพาร์ด สมัยสวมเสื้อเชลซีเหมือนกัน จะยกยกย่องใครอื่นเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามที่น่าสนใจมากๆ เมื่อคุณไปถาม ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันแมนฯยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษระดับมีชื่อเข้าฮอล ออฟ เฟม อาจสร้างความหงุดหงิดให้เร้ด อาร์มี่ทั้งหลาย
ร็อบโบ้ ไม่ได้กาเบอร์ของ สโคลส์ แต่กลับไปโหวตให้ เจอร์ราร์ด
เหตุผลที่เราพอจะเข้าใจได้ไม่ยากเห็นจะเป็นสไตล์การเล่นของทั้งสองคนนี้ที่เหมือนถอดแบบกันมา
สมัยยังโลดแล่นในสังเวียนแข้ง ร็อบสัน มีกิตติศัพท์เลื่องลือในเรื่องหัวใจอันแข็งแกร่ง ไม่เคยหวั่นเกรงการเข้าปะทะหนักหักเป็นหัก เจ็บเป็นเจ็บ
นอกจากนี้ยังทะลุไปข้างหน้าพังประตูได้บ่อยๆ แล้วมักจะเป็นประตูสำคัญด้วย
ถ้าเปรียบในยุคนี้คงต้องใช้คำว่ามิดฟิลด์ประเภทบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ที่มีบทบาทหมดทั้งเกมรุกและรับ มีไดนามิกเต็มสูบ วิ่งขึ้นลงได้แทบไม่มีหมด
รวมทั้งยังมีภาวะความเป็นผู้นำที่สูงลิบ สองคนนี้เป็นกัปตันทีมเหมือนกัน ทุ่มเทและปกป้องสโมสรชัดเจน
บางทีเมื่อ ร็อบโบ้ นั่งดูฟอร์ม เจอร์ราร์ด เป็นไปได้ว่าอาจมองเห็นตัวเองเมื่อครั้งยังหนุ่มคึกเหมือนกระทิงเปลี่ยว
อีกอย่าง ร็อบโบ้ ไม่ทันเล่นกับ สโคลส์ แม้สมัยไปดูทีมเยาวชนลงเล่นแล้วจะเคยแนะนำ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้เก็บเจ้าหนูหัวเหลือง อย่าเพิ่งรีบขายก็ตาม
ถ้าเราแยกคุณสมบัติเด่นๆ แต่ละคนออกมา พอจะเห็นภาพได้ชัดกว่า
เจอร์ราร์ด มีความเป็นผู้นำ พลังเหลือเฟือ แต่การจ่ายบอลแบบได้เสียใช้ไอเดียและการปิดสกอร์สู้ สโคลส์ ไม่ได้
ในขณะที่ แลมพาร์ด ดูสกิลแล้วไม่มีอะไรพิเศษ แต่จะมีประโยชน์กับทีมมากๆ เพราะเฟิร์สท์ทัชหรือสัมผัสบอลแรกดีจริงๆ ก่อนจะปล่อยให้เพื่อนเล่นง่ายๆ
แต่ที่เหนือชั้นคือการวิ่งหาพื้นที่เพื่อขึ้นไปทำประตู เขาเป็นกองกลางที่จมูกไวกว่ากองหน้าอีกหลายคน
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงสร้างความหนักใจให้กับผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ไม่ว่าใครจะมากุมบังเหียนก็ตาม
อีริคส์สัน เคยออกมาบ่นในทำนองว่า บางครั้งการมีมิดฟิลด์ชั้นยอดหลายคน มันกลับสร้างความลำบากใจให้อย่างไม่น่าเชื่อ
ความลำบากใจนี่เอง นำมาซึ่งความเสียดาย ก่อนจะพยายามหาสูตรหรือแท็คติกที่ลงตัวมากสุด เพื่อให้ทุกคนอยู่ในสนามพร้อมกันได้และลดแรงกระแทกในเรื่องความสัมพันธ์
แต่เมื่อมัวแต่คำนึงถึงแต่เรื่องการลงเล่นอย่างพร้อมหน้า ปัญหาที่ต้องแบกรับต่อมาคงหนีไม่พ้นประสิทธิภาพที่ต้องลดลง
เมื่อคุณนำแผนไดมอนด์หรือแบบเหลี่ยมเพชรมาวางตรงแนวมิดฟิลด์ โดยมี เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งประจำการทางฝั่งขวาเป็นหลักเพิ่มมาอีกคน แล้วต้องโยก สโคลส์ ไปปักหลักทางซ้าย เราจึงได้เห็นแล้วว่ายากนักที่จะเกิดความสมดุลลงตัว
ประเด็นคือทั้งหมดไม่ได้เล่นในสโมสรเดียวกัน ความเข้าใจหรือสัมพันธ์ต่างๆ ไม่ได้ลึกซึ้งแน่นแฟ้น การมีเวลาเพียงแค่เล็กน้อยเพื่อซักซ้อมไม่น่าจะพอ
พอส่ง เจอร์ราร์ด ถอยลงไปยืนต่ำสุดหน้าแผงแบ็กโฟร์ จึงต้องคอยระวังเกมรับเป็นหลัก ไม่ได้พุ่งทะยานมาข้างหน้าอย่างที่เคยถนัด
ส่วนธรรมชาติของ แลมพ์ส เองก็ไม่ใช่พวกหน้าต่ำที่ต้องปั้นเกม เขาจึงมักถอยลงมายืนตรงกลางส่วนใหญ่ ย่อมกระทบต่อแท็คติกที่วางไว้
สโคลส์ ไม่ต้องพูดถึงจากตัวกลางหรือหน้าต่ำที่คุ้นเคย ต้องถ่างไปเล่นเหมือนปีกซ้าย สุดท้ายหมดความอดทนประกาศอำลาทีมชาติหลังจบยูโร 2004
มีเพียงแค่ เบ็คแฮม เท่านั้นได้เล่นในพื้นที่และสไตล์ที่ถนัด สอดคล้องกับตอนรับใช้สโมสร ไม่ต้องปรับอะไรมาก
ประเด็นอีกอย่างที่เราต้องมองคือสูตรไดมอนด์ อาจเป็นความผิดพลาดที่ไม่อาจส่งอังกฤษประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์
ย้อนกลับไปตอน เจอร์ราร์ด เล่นกับลิเวอร์พูล เขามีกองกลางอย่าง ดีทมาร์ ฮามันน์ คอยประคับประคอง ช่วยเหลือหรือคอยซ้อนอยู่เสมอ เหมือนเป็นเงาอยู่ข้างๆ
นอกจาก ฮามันน์ แล้วในยุคต่อมาการได้ร่วมงานกับ ชาบี อลอนโซ่ และ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ก็ทำให้เขามีอิสระมากขึ้น จินตนาการ ความกล้าหาญต่างๆก็ตามมา
เช่นเดียวกับ แลมพ์ส เมื่ออยู่กับเชลซีมี โคล้ด มาเกเลเล่ คอยทำงานหนักอยู่ที่หน้ากองหลัง ไม่ต้องคอยพะวงหรือสมัยประสานงานกับ ไมเคิ่ล เอสเซียง ก็เช่นเดียวกัน
แต่เมื่อต้องเปลี่ยนมาร่วมงานกับกองกลางที่ล้วนแต่ถนัดเล่นรุก เขาก็ต้องกังวลในเรื่องเกมรับ สมาธิเขวไปมา จนเป็นอย่างที่เห็น
จริงๆ เราควรเลิกตั้งคำถามได้แล้วว่า สามคนนี้ใครเจ๋งที่สุด เพราะไม่มีอะไรมาชี้วัดได้แบบชัดเจนหรือน่าเชื่อถือ
ไหนจะเรื่องของอคติที่บังตาอีก แฟนทีมไหนก็ต้องเชียร์นักเตะของตัวเอง
ประเด็นที่ควรพูดถึงเห็นจะเป็นความผิดพลาดของ อีริคส์สัน ที่ทั้งเสียดายและเกรงใจ จนจับทุกคนลงพร้อมๆกันนั่นแหล่ะ
สูตรไดมอนด์ฟังดูหรูหราเหมือนชื่อ ทว่าพอเอาเข้าจริงแล้วไม่ได้ส่องประกายแวววาวเลยสักนิดเดียว
นี่คือเพชรแท้ ไม่ใช่เพชรเทียม
แต่เสียดายที่ไม่มีน้ำงามให้เห็นสักเท่าไร
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line : https://line.me/R/ti/p/@cheerball.com
ขอบคุณครับ
โฆษณา