24 ก.พ. 2020 เวลา 09:03 • ประวัติศาสตร์
Aokigahara ป่าแห่งการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่น
Aokigahara เป็นป่าที่อยู่ตีนเขาของภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยป่านี้เป็นป่าที่มีต้นไม้หนาแน่น
ภูเขาไฟฟูจิ
สำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ป่า Aokigahara เป็นป่าที่สวยงาม นักเดินป่าหลายคนชอบที่จะเข้ามาเดินในป่านี้ อีกทั้งยังเคยมีโรงเรียนที่นำเด็กมาทัศนศึกษาในป่าแห่งนี้
ป่าแห่งนี้เป็นสถานที่เงียบสงบ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีคนจำนวนมากเลือกป่าแห่งนี้เป็นสถานที่จบชีวิต
Aokigahara เป็นป่าที่มีเรื่องเล่ามากมาย โดยเล่ากันมาว่าในสมัยก่อนนั้น ช่วงที่อาหารขาดแคลน ครอบครัวมักจะนำคนแก่มาปล่อยในป่านี้ ให้อดอาหารตายไปเอง
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการพบเห็นวิญญาณในป่าแห่งนี้ โดยทีแรกนั้น วิญญาณที่พบมักจะเป็นวิญญาณของคนแก่ที่ลูกหลานนำมาทิ้ง แต่ตั้งแต่ยุค 60 (พ.ศ.2503-2512) เป็นต้นมา วิญญาณที่มีการรายงานก็มักจะเป็นวิญญาณของผู้ที่มาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้
อัตราการฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายคนก็กล่าวว่าสาเหตุมาจากสื่อต่างๆ เช่นนิยาย ที่เขียนเรื่องของคนที่มาฆ่าตัวตายในป่านี้ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้โด่งดังตั้งแต่ยุค 60
ตั้งแต่ยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) ตำรวจและอาสาสมัครได้ทำการค้นป่าแห่งนี้เพื่อหาศพของผู้ที่มาฆ่าตัวตาย และในแต่ละปี จำนวนศพที่ค้นพบก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเยอะสุดในปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) เมื่อมีการนับศพที่พบได้ถึง 108 ศพ
ศพและของที่พบใน Aokigahara
ด้วยความขึ้นชื่อ ทำให้ Aokigahara เป็นหนึ่งในสถานที่ๆ มีการฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลก โดยในปีค.ศ.2010 (พ.ศ.2553) มีคนได้พยายามจะฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้ถึง 247 ราย และทำสำเร็จถึง 54 ราย โดยวิธีการฆ่าตัวตายที่นิยมที่สุดคือการผูกคอตาย และตัวเลขก็พุ่งสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ จนรัฐบาลต้องสั่งให้งดการรายงานตัวเลขยอดผู้ฆ่าตัวตาย เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาฆ่าตัวตายใน Aokigahara
และจนถึงวันนี้ Aokigahara ก็ยังคงเป็นป่าแห่งการฆ่าตัวตาย ที่ยังคงความสยองขวัญและหดหู่มาจนถึงปัจจุบัน
โฆษณา