3 มี.ค. 2020 เวลา 05:30 • ธุรกิจ
WORK LIFE BALANCE ทำได้จริง หรือ เเค่ทฤษฎีเอาใจคนทำงาน
“ทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน ทำจริงได้ แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทที่จะได้ผล”
“งาน” คือส่วนสำคัญของชีวิต แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ยุคก่อนหน้านี้คนจะอุทิศเวลาทั้งหมดเพื่องานเป็นหลัก แล้วให้เวลากับ ครอบครัว สุขภาพ หรือความสุขส่วนตัวทีหลัง
มาถึงจุดหนึ่งคนทำงานเลยพบว่า สิ่งมีค่าหลายอย่างในชีวิตหายไป! ไม่เคยได้อยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่ ไม่เคยได้ให้เวลาตัวเองทำสิ่งที่อยากทำบ้างเลย
“งาน + ชีวิตส่วนตัว” จึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่ที่คนทำงานต้องการให้มันไปพร้อมกัน ยังได้ทำงานเหมือนเดิม แต่เพิ่มด้านชีวิตส่วนตัวให้มีคุณค่ามากขึ้น
แล้วในมุมของบริษัทล่ะ...
ถ้าให้อิสระลูกน้องทำงานที่ไหนก็ได้ โดยหวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจะได้กลับมาทำงานดีขึ้นด้วย
ถ้าปฏิบัติจริง จะควบคุมงาน-ควบคุมคนได้ไหม หรือต้องออกนโยบายอะไรเพื่อนำมาปรับใช้หรือเปล่า?
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งกระแสที่น่าสนใจ ถึงขึ้นมีงานวิจัยมากมายที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
จากผลการศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review พบว่าพนักงานที่ทำงานที่บ้านประสบความสำเร็จมากกว่ากลุ่มที่ถูกบังคับให้เข้าออฟฟิศ
แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่งานทุกประเภท ที่สามารถทำแบบนี้ได้
ผลการสำรวจบอกตรงกันว่า แนวคิดนี้ถ้าปรับใช้กับงานที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลักจะปรับใช้ได้ง่าย เพราะมีความพร้อมทุกรูปแบบ จะคุยงาน ส่งงาน หรือประชุมงาน ทุกอย่างก็สามารถทำผ่านออนไลน์ได้หมด
งานที่ Work from home ได้จะเหมาะกับลักษณะงานที่เป็นโครงการ งานที่ไม่ต้องเจอหน้าแบบ face-to-face เหมาะกับงานที่นับเป็นชิ้นงาน
เช่น กำหนดว่าขอให้ทำงานนี้ให้เสร็จทันเวลา ส่วนคุณจะใช้เวลาไหนทำ หรือจะทำจากไหนให้ไป manage เอง
เหมาะกับงานที่ใช้ความคิด ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อที่จะได้ใช้สมาธิคิดไอเดียทำงานให้เต็มที่
เหมาะกับงานที่ไม่ต้องเป็นตัวสินค้าจับต้องได้ ไม่เกี่ยวข้องกับใคร หรือถ้าเกี่ยวก็สามารถทำของตัวเองให้เสร็จทั้งก้อนแล้วค่อยส่งต่อไป
หัวใจสำคัญของการทำงานนอกออฟฟิศไม่ใช่เรื่องของ “ปริมาณ” แต่เป็นเรื่องของ “คุณภาพ”ฉะนั้นถ้าถามว่าจะปรับใช้ดีหรือไม่ คำตอบก็คือ แล้วแต่ความเหมาะสม
สิ่งสำคัญก่อนที่บริษัทจะพิจารณานำแนวคิดนี้มาใช้ ต้องเทียบความคุ้มค่าระหว่าง “คุณภาพของงาน” กับ “อิสระในการเลือกสถานที่และเวลา”
และยังต้องพิจารณาว่า เรา(ในฐานะบริษัท)คาดหวังอะไรจากพนักงาน พนักงานมีความรับผิดชอบขนาดไหน
ต้องเปรียบเทียบต้นทุนส่วนอื่นๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ ฯลฯ ถ้าต้นทุนด้านอื่นๆ ลดลง แล้วคุณภาพงานเป็นที่น่าพอใจ ก็ถือว่าคุ้ม
และสำคัญสุด พนักงานก็ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบ ต้องรู้ว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน ต้องทำงาน “ให้เสร็จ” “เร็วและดี” “และต้องมีคุณภาพจริง”
ดังนั้น ถ้าบริษัทจะนำแนวทางทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน หรือทำงานที่บ้านไปใช้ ต้องดูรูปแบบของงาน ต้องเทียบความคุ้มค่าในส่วนของ “เวลา+สถานที่ กับ คุณภาพ” และต้องดูความรับผิดชอบของพนักงานด้วย
อยากรู้เรื่องอะไร อยากอ่านบทความเเบบไหน ส่งคำถามมาให้ "สมองไหล" ได้ง่ายๆ เพียง “กดลิ้ง” ข้างล่างนี้ได้เลย
ติดตามบทความของสมองไหลได้อีกช่องทางที่เพจ FB ไปให้ถึง100ล้าน
โฆษณา