มนุษย์โลก ดาวสีน้ำเงิน
มีความพิเศษของกาย
คือ มีร่างกาย 2 ร่าง อยู่ในกายเดียวกัน
บาลี เรียกกายข้างใน ว่า "อทิสมานกาย"
อทิสะ =ไม่เห็น
..
..
การฝึกใจ
หรือ เรียกการทำสมาธิ
เป็นการฝึก กายและจิต
เพื่อเข้าถึง ความรู้สึกอันเป็นทิพย์ ที่อยู่ภายใน
..
..
มีนัก สมาบัติ
เป็นจำนวนมาก
พอถึงจุดหนึ่ง เรียกว่า สุข
ไม่ทำอะไรต่อ
จิต กระหวัด หวนแต่ จะทำสมาธิ
เพื่อให้ถึงจุดที่เคยได้ เคยถึง คือ "สุข"
..
..
และมีอีก จำนวนมาก
เมื่อทำไปถึง จุดหนึ่ง
มีความอิ่มเอม อิ่มเอิบ
ข้าวปลา กระยาหาร ไม่ต้องพูดถึงกัน
มุ่งเข้าสมาบัติ ตะพึด ตะพือ
อาการไม่อยากในอาหาร อิ่มเอิบ เรียก "ปิติ"
..
..
มีนักสมาบัติ จำนวนหนึ่ง
เมื่อทำสมาธิ ถึงจุด
เกิดความคล่องใน "ความคิด"
ความคิด "ตรึก ตรอง "
ในปัญหาใด ไม่มีอาการขัดข้อง
นักสมาบัติ ที่ทำสมาธิ แล้วมีความคล่องใน การ
พินิจพิจารณา ตรองในปัญหา เมื่อประสบปัญหา
ก็ เข้าสมาธิ
..
..
มีจำนวนมาก
ขณะทำสมาธิ ถึงทุกจุดแล้ว
ปัญญายังขบ ไม่แตก
ปล่อยละสิ
หลับไป ทับไปบนปัญหา
ตื่นมา โล่ง
เอ เรื่องแค่นี้ ทำไมเราคิดไม่ออก
มาคิดปัญหา ออกตอนตื่น
..
..
และมีอีกจำนวนหนึ่ง
ทำสมาธิ ขั้นไหน ก็คิดปัญหาไม่ออก
ทิ้งปัญหาปลายเท้า
หลับฝัน มีเสียงคนคุยกันในฝัน
"เธอทำอย่างนี้สิ
ถ้าไม่ได้ ก็ทำอย่างนี้"
ตื่นมา นำแนวทางในฝัน ไปใช้
ถ้าในวงการ หมอยา
เรียก "ยาผีบอก"
...
...
สมาธิ แต่ละระดับ
มีคำอธิบาย ไว้ในคัมภีร์ เรียบร้อย
ของโรงเรียน พระพุทธโฆษาจารย์
(พระพุทธโฆษาจารย์ เป็นชาวไทใหญ่ ไปศึกษาพระไตรปิฎก ยุคปลายพระพุทธศาสนาในอินเดีย
ท่านอาจารย์ก็ลองเชิง ถ้าจะมาเรียนที่นี่
ไหนลอง ปล่อยของ ที่มีให้ ฉันดูหน่อยดิ
นักศึกษาใหม่
ก็ เขียนวิธีการทำสมาธิ ปีนั้นตรงกับ
ปี พุทธศักราช1,100
อาจารย์ได้ยล สำนวน วลี นักศึกษาใหม่
ถึงกับอุทาน อิยะ
แนวทาง ของพระพุทธโฆษาจารย์ ก็นำมาใช้กัน
ในแบบเถรวาท ตั้งแต่นั้น
ถึงบัดนาวว์ ก็ยังคงใช้กันอยู่ ไม่มีคำว่าตกยุค
สำหรับคัมภีร์ ของพระพุทธโฆษาจารย์)
...
...
เมื่อนักภาวนา
สามารถเข้าถึง ปิติ สุข หรือบางท่าน
อาจทำได้ถึง เอกัคคตา (อุเบกขา)
เป็นการ ทำได้สม่ำเสมอ คล่อง
ในคัมภีร์ เรียก วสี
_ ชำนาญในการ นึกน้อมไป (นึกว่าจะเข้า)
_ ชำนาญในการ ทรงอารมณ์ ปิติ สุข อุเบกขา
_ ชำนาญในการ เลื่อน(เปลี่ยนจาก ปิติ ไป สุข
(หรือ สุข ไปอุเบกขา ท่านว่า ชำนาญในการ
เลื่อนห้องฌาน)
_ ชำนาญในการออกจากสมาธิ(ออกจากห้องฌาน)
_ ชำนาญในการ จำอารมณ์/พิจารณา ห้องฌาน
ในแต่ละห้อง มีลักษณะอย่างไร
..
..
เมื่อชำนาญในวสี 5
ตามที่กล่าวข้างต้น
บุคคลนั้น
สามารถถึง ปิติ ถึงสุขได้อย่างสบาย
เมื่อควบคุมสุขได้
ใจ ก็เป็นของบุคคลผู้นั้น
ใจ มิได้ถูกผูก ถูกมัด ไว้กับสิ่งอื่น