4 มี.ค. 2020 เวลา 15:57 • ความคิดเห็น
การกดขี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์
จากเหตุการณ์นับไม่ถ้วนชวนให้หมองเศร้าตั้งแต่ต้นปีจนวันนี้ ไวรัสโควิดที่ทำให้คนเอเชียกลายเป็นสัตว์ประหลาดในสายตาคนยุโรปบางคน บางคนถูกทำร้ายร่างกาย หลายคนถูกไล่ออกจากร้านเพราะถูกมองว่าเป็นตัวเชื้อโรค
นักศึกษาชาวสิงคโปร์ถูกต่อยในอังกฤษ dailymail
นักศึกษาที่ออกมาชุมนุมเพราะรับการกดขี่โดยรัฐไม่ไหว ทั้งการริดรอนสิทธิในการพูด การวิจารณ์ การปั่นโซเชียลด้วยทีม IO เพื่อมุ่งเน้นกำจัดฝ่ายตรงข้าม การทำลายเสียงเลือกตั้งและการรวมตัวของประชาชนของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง
ข่าวสด
การผูกขาดการค้าเหล้าเบียร์ สนามบินและค้าปลีกของบริษัทใหญ่ในประเทศ
การกราดยิงที่โคราชมาจากการกดขี่โดยนายทหารผู้มีอำนาจ
Hate Speech จากคนสองรุ่น ฝ่ายหนึ่งว่าคนแก่เป็นไดโนเสาร์ คนแก่ว่าหนุ่มสาวว่าชังชาติ ทั้งที่ต่างแค่เพียงอุดมการณ์ทางการเมือง อนุรักษ์นิยมก็เห็นว่ารัฐบาลนั้นไม่ยุติธรรม และบริหารแบบขายผ้าเอาหน้ารอด เพียงแต่เห็นว่ายังไม่มีคนอื่นที่เหมาะสม ล้มรัฐบาลไป ขี้หมูขี้หมาก็ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอยู่ดี ทู่ซี้ทำงานหาเงินปิดตาข้างเดียว เอาเวลาไปหาความสุขเท่าที่ทำได้ไม่ดีกว่าหรอกหรือ
การมองว่าตนเหนือกว่า ผู้อื่นด้อยกว่า การริดรอนสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น นั่นคือการกดขี่
เพจเฟซบุ๊ค เหรียญทอง แน่นหนา
การกดขี่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่แบบที่กล่าวมา เรื่องเล็กๆอย่างคนพิการขึ้นรถเมล์อย่างไร? หรือนักศึกษาหญิงใส่กางเกงมาสอบไม่ได้ หรือครูเป็นตุ๊ดถูกกีดกันไม่ให้ทำงาน (คำว่าตุ๊ด บางคนยังมองว่าไม่เหมาะสม นี่ก็เป็นอีกรูปแบบการกดขี่ หรือแม้แต่คำว่าสาวประเภทสอง ยังสามารถมองว่ากดขี่ได้ด้วยซ้ำ เหมือนว่าประเภทหนึ่งนั้นดีกว่าประเภทสองหรืออย่างไร) นี่ก็เป็นเรื่องเล็กๆที่ไม่เล็กสำหรับบางคน
เพจเฟซบุ๊ค the sidewalk
ทำไมถึงจั่วหัวว่าการกดขี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์
1
ผมจะเกริ่นเรื่องของเอนโทรปี
ในทางอุณหพลศาสตร์ หรือ Thermodynamics กฎข้อที่สองของมันบอกไว้ว่า แนวโน้มของเอนโทรปีของระบบปิดจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงสูงสุด
เอนโทรปีสามารถมองว่าเป็นความไร้ระเบียบ เช่น ลองสังเกตห้องนอนของผู้อ่าน หลังจัดห้อง ห้องจะดูสะอาดน่าอยู่ พอเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ห้องสวยๆจะเริ่มรกขึ้นๆ จนสุดท้ายเราจะทนไม่ไหวต้องมาจัดห้องอีกครั้ง
หรือ คิดถึงไพ่โป๊กเกอร์ที่เรียงมาอย่างดีตั้งแต่ เอซ สอง ไปจนถึง แจ๊ค ควีน คิง ไล่ไปตั้งแต่โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก ข้าวหลามตัด เราเผลอทำไพ่หล่นลงพื้น แล้วเก็บขึ้นมาใหม่ ความไร้ระเบียบจะสูงขึ้น สามดอกจิกอาจโผล่มาด้านบน แจ๊คโพธิ์ดำไปอยู่กับควีนโพธิ์แดง
อย่างไรก็ตามเราก็ยังพอเดาได้อยู่ว่า เลขยังเรียงจากน้อยไปมาก โพธิ์ดำส่วนใหญ่ยังอยู่หน้าโพธิ์แดง ดอกจิกและข้าวหลามตัด
พอหล่นครั้งที่สอง ความไร้ระเบียบก็จะเพิ่มขึ้นอีก พอหล่นไปซักสิบครั้ง (พอดีมืออ่อนไม่ค่อยมีแรง) ไพ่ที่เรียงกันสวยๆก็สับกันมั่วจนเราเดาไม่ออกอีกต่อไปว่าไพ่ถัดจากไพ่ใบก่อนหน้าคือหน้าอะไร
ในทางทฤษฎีข้อมูล Entropy ถูกนำมาใช้อธิบายขนาดการขนส่งข้อมูล โดยใช้ขนาดเป็นบิท (bit)
ลองมาดู ข้อความชุดนี้ที่เป็นระเบียบสุดๆกัน
AAAA
ข้อมูลชุดนี้เป็นอักษร A ทั้งหมด เราสามารถส่งข้อมูลไปได้โดยใช้เพียง 0 บิท เพราะถ้าเราเป็นผู้รับสารเราสามารถเดาได้ทันที่ว่าข้อมูลที่ส่งมาต้องเป็นอักษร A ตัวต่อไปก็เป็นอักษร A ไม่ว่าจะส่งมาเท่าไหร่ก็เป็นตัว A เราจึงไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลอะไรใหม่ไปให้ผู้รับสาร
ในทางกลับกัน ถ้าเราต้องการส่งข้อมูลนี้
ABAB
เราจะใช้กี่บิทกัน เราจะใช้เพียง 1 บิทเท่านั้น โดยส่งไปว่า 1,0,1,0 โดยที่ A คือ 1 และ B คือ 0 ตัวอักษรละบิทเท่านั้น
กลับมาที่ Thermodynamics การที่จะลดเอนโทรปีนั้นสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มเอนโทรปีภายนอกโมเลกุลที่วิ่งไปอย่างวุ่นวายในระบบจะจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยขณะที่ระบบภายนอกจะวุ่นวายเพิ่มขึ้น
เมื่อห้องไร้ระเบียบถึงขีดสุด คุณคงต้องเว้นงานอื่นแล้วหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดห้อง เก็บหนังสือเข้าชั้น เอาผ้ามาเช็ดฝุ่น คุณเสียเหงื่อเสียพลังงาน วุ่นวายอยู่คนเดียวกับการจัดห้องให้เรียบร้อยสวยงาม
แล้วเอนโทรปีเกี่ยวอะไรกับการกดขี่ จากทั้งหมดที่กล่าวมา เอนโทรปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา การที่จะจัดระเบียบหรือลดเอนโทรปีลง ต้องใช้พลังงานและความพยายามในการจัดให้เกิดระเบียบขึ้น
โอกาสที่คนสองคนเจอกันโดยมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างเสมอภาคนั้นยากกว่ามากและอาศัยความพยายามของเราในการกลับคืน
Impact
เราต้องระลึกไว้เสมอว่าต้องคิดดี พูดดี และทำดีกับคนอื่นๆ ไม่ดูถูก หมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรี ยกตนข่มท่าน หรือด้อยค่าผู้อื่น
โอกาสที่การกระทำหรือคำพูดจองเราจะกดขี่ผู้อื่นนั้นมีมาก ยิ่งเรามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะกดขี่คนอื่นก็มีมากเท่านั้น เหมือนกับเอนโทรปีที่แนวโน้มสูงขึ้น สิ่งนี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์
จะมองว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเหมือนลูกบอลบนยอดเขา มีแนวโน้มมากกว่ามากที่ลูกบอลจะหล่นไปไม่ฝั่งใดก็ฝั่งหนึ่ง กดขี่เขาหรือถูกกดขี่
อย่างไรก็ตามหากเราเอาใจเขามาใส่ใจเรา ใช้พลังงานนิดนึงเพื่อให้เกิดการพูดดีและทำดี โลกที่ไม่เป็นธรรมชาตินั้นก็อาจสวยงามกว่าก็เป็นได้
คนพิการจะไม่ถูกมองว่าเป็นคนอีกชนชั้นที่คนปกติมีเวทนาอยู่ตลอด หากเขามีถนนหนทางที่สามารถช่วยให้ใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ
ผู้หญิงจะไม่ถูกไล่ออกจากห้องสอบเพราะใส่กางเกงมา ถ้าเรายกเลิกกฎนี้
ตุ๊ดจะไม่ถูกกีดกันให้เป็นครู ถ้าผู้บริหารมองเห็นความเป็นจริงของโลก มีปัญญา และสื่อช่วยกันลดการสร้างให้ตุ๊ดเป็นตัวตลก
1
Hate Speech จากความเห็นต่างทางการเมืองจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเราหันหน้าคุยกันทีละประเด็นอย่างปราชญ์
โควิดจะไม่ทำให้คนสิงคโปร์ถูกต่อย หรือคนจีนถูกไล่ออกจากร้านอาหาร หากทุกคนเข้าใจว่าการเกิดโรคอุบัติใหม่นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่บนโลก และถ้าเกิดขึ้นมาต้องร่วมมือร่วมใจกัน
วิกฤติการเมืองจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอย ถ้านักการเมืองเล่นเกมส์ตามกติกา เคารพประชาชนและเสียงของคนกลุ่มน้อยและชายขอบ
ใช้ความพยายามเล็กน้อย ใส่พลังงานเข้าไปในระบบอีกนิด โลกจะน่าอยู่ขึ้นมาก โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เช่น ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนที่จะพูดคำถัดไป
โฆษณา