7 มี.ค. 2020 เวลา 06:56 • ข่าว
#ศึกสายเลือดในKorean_Air
#เมื่อท่านหญิงถั่วแผลงฤทธิ์
Cr. eTurboNews
เมื่อไม่นานมานี้ ได้เคยแชร์เรื่องราวดราม่า เคร้าน้ำตาของตระกูล Lotte หนึ่งในกลุ่มอาณาจักรครอบครัวที่เรียกว่า Chaebol ที่กุมเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดในเกาหลีใต้ กันมาแล้ว มาวันนี้ ขอแชร์เรื่องราวศึกสายเลือดในตระกูล Chaebol อีก 1 ครอบครัว ที่กำลังเข้มข้นสุดๆ นั่นก็คือกลุ่มธุรกิจ Hanjin Group ของบ้านตระกูล Cho ที่เป็นเจ้าของสายการบิน Korean Air
ศึกสายเลือดนี้ ระเบิดขึ้นแทบจะทันทีหลังจากที่ โช ยัง-โฮ ผู้พ่อ จากไปอย่างกระทันหันเมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยทิ้งมรดกเป็นหุ้นในกิจการของ Hanjin Group ไว้ให้แก่ลูก 3 คน และ ภรรยา ตามสัดส่วนที่ต่างกันเล็กน้อย และ โช ยัง-โฮ ผู้พ่อก็ได้สั่งเสียด้วยวาจาก่อนตายไว้ว่า อยากให้ลูกชายคนรอง คือ โช วอน-แท หรือ Walter Cho เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดต่อจากพ่อ
ครอบครัวของ โช ยัง-โฮ ผู้พ่อก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ท่านโชมีลูกอยู่ 3 คน ได้แก่ ลูกสาวคนโต โช ฮยึน-อา หรือ Heather Cho ลูกชายคนกลาง คือ โช วอน-แท - Walter Cho และ ลูกสาวคนแล็ก โช ฮยึน-มิน หรือ Amy Cho และภรรยา ลี เมียง-ฮี ที่เป็นแม่ของลูกๆทั้ง 3 นี่แล
โดยธรรมเนียมคนเกาหลี ก็มักจะให้บุตรชาย เป็นคนสืบทอดกิจการอยู่แล้ว สัดส่วนผู้ถือหุ้นจากมรดก ก็บอก กลายๆว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดกิจการ ไล่เรียงดังนี้
Walter Cho - 6.52%
Heather Cho - 6.49%
Amy Cho - 6.47%
Lee Myung-hee - 5.31%
แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะนี่คือครอบครัว Cho แห่งตระกูล Hanjin Group นาค้า 😀
เพราะก่อนหน้าที่พ่อ โช ยัง-โฮ จะจากไป คนที่เข้ามาช่วยคุมกิจการบ้านตระกูลโฮ หรือพูดตรงๆก็คือ เข้ามามีอิทธิพลในบริษัทก็ บุตรสาวคนโต โช ฮยึน-อา หรือ ท่านหญิง Heather Cho ที่เคยดำรงตำแหน่งสูงถึงรองประธาน รองจากพ่อคนเดียว
แต่มันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ในประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้ว กับบริษัทระดับ Flagship เรือธงระดับประเทศ ที่ทำให้สายการบิน Korean Air ดังไปทั่วโลก เหตุเพราะถั่วถุงเดียว ในปี 2014 เมื่อ ท่านหญิง Heather Cho นั่งสายการบินของตัวเองเดินทางออกจากสนามบิน John F. Kennedy ในนิวยอร์ค เพื่อกลับเกาหลีใต้ ในขณะที่เครื่องบินกำลัง take off แอร์โฮสเตสสาวก็เอาถั่วแมคคาเดเมีย มาบริการให้ตามหน้าที่ แต่กลับไม่ได้แกะถุงเสิร์ฟมาบนจานหรูตามมาตรฐานชั้น First Class ให้เธอ
เท่านั้นก็เป็นเรื่อง ท่านหญิง Heather ปรี๊ดแตก กรี๊ดลั่นห้องผู้โดยสาร ปาถาดอาหารใส่หน้าแอร์สาว ผู้เคราะห์ร้าย แล้วเดินเข้าไปสั่งกัปตันให้ถอยเครื่องบินกลับสนามบิน เพราะเธอจะไล่แอร์สาวคนนั้นออกทันที
1
เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะผิดกฏหมายการบินระหว่างประเทศ ผิดกฏมาตรฐานความปลอดภัยทุกข้อ เพราะถ้าเครื่องบินต้องถอยกลับสนามบิน มันต้องเป็นเรื่องร้ายแรงระดับ เครื่องบินขัดข้อง หรือเกิดเหตุระดับจี้เครื่องบิน หรือก่อการร้ายเท่านั้น ไม่ใช่แค่เรื่องเสิร์ฟถั่วไม่ใส่จาน😑
จากเหตุการณ์นั้น รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ต้องออกมาเคลียร์กับทางสนามบินที่สหรัฐ สายการบิน Korean Air ถูกสอบสวนอย่างหนัก เกิดกระแสต่อต้าน กลุ่มครอบครัว Chaebol อื่นๆในเกาหลีใต้ โช ยัง-โฮ ผู้พ่อ ต้องออกมาก้มหัวขอโทษสังคม และถูกผู้ถือหุ้นกดดันจนต้องลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ถูกลดบทบาทมาอยู่แค่เบื้องหลัง ส่วนท่านหญิง Heather ถูกปลดออกจากตำแหน่งรองประธานบริษัท แล้วต้องเข้าไปสงบสติในคุกอีก 5 เดือน
1
หลังจากนั้น ก็มีข่าววงในออกมาแฉเรื่อยๆ ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ท่านหญิง Heather ปรี๊ดแตก แหกแอร์บนเครื่องบิน เรื่องปาถั่วนี่ยังน้อย เพราะเธอเคยเขวี้ยงชามบะหมี่ใส่แอร์บนเครื่องมาแล้ว
นั่นคือวีรกรรมของ Heather ที่จะหลอนติดตัวเธอไปตลอดชีวิต ดั่งคำคมที่ว่า ปลาหมอตายเพราะปาก ฉันใด ทายาทก็ตายเพราะถั่ว ฉันนั้น
แต่วันนี้ Heather เธอกลับมาแล้ว
การที่พ่อ โช ยัง-โฮ กำชับว่าให้น้องชาย Walter Cho ดูแลกิจการต่อ อาจไม่ใช่เพราะเป็นธรรมเนียมของเกาหลีเพียงอย่างเดียว แต่พ่อโช อาจต้องการกัน Heather ออกจากอำนาจบริหารงานโดยรวมในบริษัท โดยที่มีภรรยา (แม่) และ น้องสาวคนเล็ก ที่สนับสนุนน้องชาย
แต่นั่นอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นวางใจได้ 100% เพราะในบ้านนี้ ไม่ใช่จะมีแค่ Heather ที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์ แต่ดูเหมือนจะประสาทกินกันทั้งบ้าน 😱
1
Amy Cho น้องสาวคนเล็กเคยอารมณ์แตกจนคลุ้มคลั่ง อาละวาดสาดน้ำใส่หน้าเอเจนซีโฆษณากลางที่ประชุมมาแล้ว ส่วน Walter Cho ทะเลาะกับแม่ แล้วก็คว้าแจกันเขวี้ยงใส่หน้าบ้านจนเป็นข่าวซุบซิบกันไปทั่ว สุดท้ายก็ไม่พ้นผู้เป็นแม่ที่ต้องออกหน้ามาขอโทษสังคมกับเรื่องวุ่นวายในครอบครัว
1
และเมื่อ โช ยัง-โฮ ผู้พ่อจากไป Heather ต้องการอำนาจในการบริหารกลับคืนมาในฐานะบุตรคนโต แต่น้องชายไม่ยอม เธอจึงกว้านซื้อหุ้นเพิ่ม และรวบรวมพันธมิตรผู้ถือหุ้น เพื่อให้กลายเป็นเสียงข้างมากในการปลดน้องชายออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด แล้วแต่งตั้งคนอื่นที่เธอคัดเลือกไปนั่งแทน
แต่ก็มีผู้ถือหุ้นบางรายที่ไม่ต้องการให้ Heather กลับมากุมอำนาจในบริษัท โดยเฉพาะสายการบิน Delta ที่ถือหุ้น Korean Air อยู่ราวๆ 11% ก็รีบซื้อหุ้นเพิ่ม เพื่อโหวตสวนฝ่ายของ Heather โดยที่มี Walter น้องสาว และ แม่ ที่ไล่รวบรวมพันธมิตรฝ่ายของตัวเอง
ด้วยเหตุนี้เลยทำให้หุ้นของ Korean Air ราคาสูงขึ้น สวนกระแสตลาด แต่ไม่ใช่เพราะบริษัททำกำไรอะไร แต่เป็นเพราะศึกการเมืองในตระกูลโดยแท้
3
ล่าสุดมีการประเมินว่า หุ้นส่วนในฝ่ายของ Heather ถือไว้ได้ 32% ส่วนฝ่ายของ Walter มีอยู่ 33.45% การประชุมผู้ถือหุ้นใหญครั้งต่อไปกำหนดไว้วันที่ 27 มีนาคม ที่จะถึงนี้
Cr. Straits Times
ศึกสายเลือด Hanjin ยังอีกยาว แต่ชาวบ้านเกาหลีใต้นั้นยิ้มไม่ออก เพราะนี่คือกลุ่มเครือข่ายธุรกิจที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ แต่เอาไปฝากไว้ในมือคนที่ผีเข้า ผีออกอย่างนี้จะดีหรือ และเริ่มมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ทำอะไรสักอย่างกับกลุ่มธุรกิจ Chaebol เช่น ออกกฏหมายป้องกันการกินรวบตลาด หรือจำกัดการเข้าซื้อกิจการธุรกิจรายย่อยได้ไหม หรือ ห้ามการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงโดยพิจารณาจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพียงอย่างเดียว
1
ก็เป็นเรื่องที่น่าจับตา กับศึกสายเลือดใน Korean Air ครั้งนี้ ว่าจะออกถั่ว หรือ แจกัน หรือจะมีอะไรบินออกจากห้องประชุมกันอีกนะค้า 😀
แหล่งข้อมูล
โฆษณา