12 มี.ค. 2020 เวลา 02:40 • ข่าว
#ย้อนรอย9ปีมหันตภัยโทโฮคุ
Cr. Japan Times
เมื่อวานนี้ 11 มีนาคม เป็นวันครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์มหันตภัยที่ภูมิภาคโทโฮคุ ที่ครอบคลุม 3 จังหวัดหลัก อิวาเตะ มิยางิ และ ฟุกุชิมา นับเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในญี่ปุ่น 3 เหตุการณ์ซ้อนกัน ทั้งแผ่นดินไหว ทสึนามิ นิวเคลียร์ ที่เขาเรียกว่ามันเป็น Triple Disasters ในคราวเดียว 😓
ย้อนไปเมื่อเวลาบ่าย 2 โมง 46 นาทีของวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 ที่นอกชายฝั่งโทโฮคุ ห่างไปเพียง 70 กิโลเมตร ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ที่วัดแรงสั่นสะเทือนสูงถึง 9.0-9.1 แมกนิจูด นับเป็นค่าความรุนแรงระดับสูงที่สุดแล้ว
Cr. Storymaps
แรงสั่นสะเทือนไปไกลถึงโตเกียว อาคารสูงสั่นไหวรุนแรง จนผู้คนต้องรีบหนีตายหลบเข้าที่ปลอดภัย ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวอยู่เป็นประจำ แต่หลายคนก็บอกว่า นี่เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในชีวิตที่เคยประสบมาทีเดียว
หลังจากนั้นผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียว หายนะระลอก 2 ตามมาติดๆ ด้วยคลื่นทสึนามิที่สูงถึง 40 เมตรมาด้วยความเร็ว 700 กิโลเมตร/ชั่วโมง พัดถล่มชายฝั่งโทโฮคุ ที่ชาวเมืองได้รับการเตือนภัยล่วงหน้าแค่ไม่กี่นาที คลื่นทสึนามิกวาดทั้งเมืองหายวับไปกับตา ทิ้งไว้แต่ซากปรัก โคลมตมสุดลูกหู ลูกตา
Cr. Kyodo News
ชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศยังไม่ทันได้ทำใจ เช้าวันต่อมา มีเหตุเตือนภัยจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ เมืองโอคุมะ จังหวัดฟุกุชิมะ ให้ชาวเมืองในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าอพยพด่วน! เพราะเตาปฏิกรณ์เพื่อผลิตไฟฟ้ากำลังจะระเบิด!
เหตุเนื่องจากผลพวงของแผ่นดินไหว ทำให้เกิดทสึนามิ พัดถล่มโรงงานไฟฟ้า ทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าเข้าไปในเตาน้ำหล่อเย็นขัดข้อง เมื่อไม่มีระบบน้ำหล่อเย็น ความร้อนในเตาปฏิกรณ์ก็สูงขึ้นจนระเบิดในที่สุด 😢
1
นับเป็นปีแห่งความหายนะของญี่ปุ่นจริงๆ เพราะแผ่นดินไหวครั้งนั้น คือครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และรุนแรงเป็นอันดับ 4 ของโลก
1
ความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต และสูญหายกว่า 20,000 คน มีชาวญี่ปุ่นต้องทิ้งบ้านอพยพกันไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน บ้านเรือนเสียหายกว่า 4 แสนหลัง รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านเหรียญ
Cr. Storymaps
จนถึงทุกวันนี้ ผลกระทบจากเรื่องร้ายๆในวันนั้นยังปรากฏอยู่ แม้ว่าจะมีการซ่อมแซมเมืองที่โดนทสึนามิถล่มจนกลับมาอยู่อาศัยได้เกือบเหมือนเดิมแล้วก็ตาม แต่ยังมีเมืองที่ถูกทิ้งร้าง อย่างหมู่บ้าน โอคุมะ และ โทมิโอกะ ที่เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ที่ชาวบ้าน 90% ไม่กลับมา ด้วยความกลัวว่าพิษจากสารกัมมันตภาพรังสียังตกค้าง และไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดอีกเมื่อไหร่
1
Cr. https://blog.gaijinpot.com/uncut/this-is-what-its-like-to-tour-inside-the-fukushima-exclusion-zone/
และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวญี่ปุ่นไปแล้วว่าทุกปีจะมีงานไว้อาลัยเหตุการณ์เหตุการณ์ครั้งนี้ ที่โตเกียว และจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ
แต่ว่าปีนี้ เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลกลางยกเลิกการจัดงานที่โตเกียว เหตุเพราะวิกฤติไวรัส Covid-19 ที่ต้องงดการชุมนุม มีเพียงคำกล่าวไว้อาลัยจากนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กับคณะรัฐมนตรี 20 คน ในห้องทำงาน ส่วนการจัดงานในจังหวัดอื่นๆยังต้องเลื่อนไปก่อน หรือจัดเพียงงานเล็กๆ
ถึงแม้ปี จะดูเงียบๆ เหงาๆ แต่เชื่อว่ายังไงคนญี่ปุ่นก็จะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น ที่สร้างความสะเทือนใจ และผลกระทบไม่ต่างจากเหตุการณ์ปรมณูที่ฮิโรชิม่า และนางาซากิ เพียงแต่ครั้งนี้เกิดจากภัยธรรมชาติรุนแรง ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และคาดเดาได้ยากว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่
Cr. Kyodo News
แต่สิ่งที่ทำให้โลกต้องทึ่งคือชาวญี่ปุ่นสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม มีสติ มีระเบียบวินัยสูง มีความเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แม้จะเป็นผู้ประสบภัยเหมือนกัน แต่ก็ช่วยเหลือกันให้ผ่านวันเลวร้ายไปให้ได้
รวมถึงวิกฤติเชื้อไวรัสระดับโลกในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ถ้าเรามีสติ และมีจิตสาธารณะ ความเสียสละ อดทน เราก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกันนะค้า 😀
โฆษณา