21 มี.ค. 2020 เวลา 02:00 • การศึกษา
คุณภาพชีวิตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ "ความรัก"
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรัก ก็ถือเป็นความรู้สึกรูปแบบหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน ซึ่งถ้าคิดอย่างผ่านๆ แล้วมันก็เหมือนเป็นเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ในความจริงแล้ว ความรักมีอิทธิพล และมีอำนาจมากพอที่จะชักนำชีวิตคนคนหนึ่งได้เลยทีเดียว
ในทางวิทยาศาสตร์นั้น ความรักคือกลไกอย่างหนึ่งที่เกิดจาก “ฮอร์โมน” ทั้ง 4 ชนิดที่สมองผลิตออกมา ก็คือ โดปามีน อดรีนาลีน เซโรโทนิน และอ็อกซิโทซิน ซึ่งผสมกันอย่างลงตัวจนเกิดเป็นความรู้สึก “รัก” ซึ่งในที่นี้ มันก็มีทั้ง “การตกหลุมรัก”ที่เต็มไปด้วยลุ่มหลง และ “ความรัก” ที่เป็นความรู้สึกอันบริสุทธิ์
สำหรับการตกหลุมรักนั้น สมองจะหลั่งฮอร์โมนคือ “โดปามีน” , “อดรีนาลีน” และ “เซโรโทนีน” ซึ่งสารเคมีทั้งสามชนิดนี้ก็ออกฤทธิ์เหมือนสารเสพติดไม่มีผิด
โดยมันส่งผลให้มีพลังงานล้มหลามมากกว่าปกติ , หัวใจเต้นแรง , คิดถึงคนที่กำลังตกหลุมรักบ่อยๆ จนบางครั้งก็แทบจะคิดถึงอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงหมกมุ่น และสนใจเรื่องของคนคนนั้นที่กำลังตกหลุมรักถึงแม้ว่ามันจะขัดกับรสนิยมที่เคยมีก็ตาม เรียกว่าหน้ามืดตามัวเลยก็ได้
อีกทั้งความรู้สึกเหล่านี้ก็มีฤทธิ์ผลักดันให้กล้าที่จะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้เลยทีเดียว และหากปล่อยให้มันครอบงำหนักมากเกินไป ก็อาจทำให้หน้ามืดหน้าตามัว ไม่มีสติยั้งคิดจนเผลอทำอะไรไม่ดีลงไปก็เป็นได้
แต่ถึงจะอย่างไร สารเคมีเหล่านี้ก็จะคงอยู่แค่ชั่วคราวประมาณ 2 เดือน – 2 ปีเท่านั้น แล้วก็สลายหายไป….
และในอีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีอีกฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความรัก นั่นก็คือ “อ็อกซิโตซิน” (oxytocin) ที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดความห่วงใยและความผูกพันธ์ ถือเป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์มากกว่าอารมณ์ที่เกิดจากโดปามีน , อดรีนาลีน และเซโรโทนิน
ซึ่งความรักระหว่างสามี-ภรรยาที่อยู่ด้วยกันนานๆ และความรักระหว่างพ่อ แม่ และลูก ก็เป็นอิทธิพลจากอ็อกซิโทซินเช่นกัน
นอกจากนี้ อ็อกซิโทซินก็ยังมีประโยชน์ทำให้ความเครียดลดลง , มีความห่วงใยต่อผู้อื่นมากขึ้น และส่งผลให้มีความโรแมนติคในจิตใจมากขึ้น
และโดยรวมแล้วความรักก็ยังมีประโยชน์อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว ทั้งมีความสุขมากขึ้นจากการได้ใช้เวลากับคนที่รัก , มีเป้าหมายในขีวิตที่จะทำเพื่อใครสักคน รวมไปถึงเป็นกำลังใจดีๆ ให้กันและกัน ทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตและเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นด้วยจากการที่ได้รับความรักจากใครสักคน
แต่ทั้งนี้ ความรักก็คืออำนาจทางความรู้สึกที่เป็นเหมือนดาบสองคม หากรักด้วยความลุ่มหลง หน้ามืดตามัว ก็อาจถูกมันชักพาให้ไปในทางที่ไม่ดี เช่น เกิดความหึงหวง หรือการก่ออาชญากรรม ทำร้ายคนรัก และสุดท้ายก็พบกับความทุกข์ทรมานและความสูญเสีย
1
ในทางตรงกันข้าม หากรักด้วยความมีสติ ตั้งมั่นอยู่บนความเป็นจริง ความรักก็จะกลายเป็นมิตรภาพ ความห่วงใย และความปรารถนาดีที่ส่งต่อให้กับผู้อื่น และนำพาให้เกิดแต่สิ่งดีๆ ขึ้น นั่นอาจกล่าวได้ว่าชีวิตจะเป็นไปในทางที่ดีหรือร้าย ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับ "วิธีรัก" นั่นเอง
อยากรู้เรื่องอะไร อยากอ่านบทความเเบบไหน ส่งคำถามมาให้ "สมองไหล" ได้ง่ายๆ เพียง “กดลิ้ง” ข้างล่างนี้ได้เลย
โฆษณา