17 มี.ค. 2020 เวลา 12:43 • ปรัชญา
อวสานของโลกที่เรารู้จัก
ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้นจากการถลุงแร่ในหุบเขาแถบชร็อบไชส์ ตามมาด้วยสิ่งทอและเครื่องจักรไอน้ำของเจมส์ วัตต์
ต่อมาก็เกี่ยวข้องกับการใช้งานเช่น โทรศัพท์ของอเล็กซ์ซานเดอร์ เบลล์ หลอดไฟของโทมัส เอดิสัน
เมื่อนวัตกรรมได้เปลี่ยนรูปแบบและพัฒนามาถึงระดับหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ นั่นคือ การผลิตตั้งแต่รถไฟ รถยนต์จนถึงเครื่องบิน
กระแสการปฏิวัติอุตสาหกรรมขยายไปทั่วโลกจากอังกฤษไปยุโรปและอเมริกา ขยายมาเอเชียโดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงจีนในปัจจุบัน
สู่โรงงานผลิตที่ขนาดใหญ่และอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนปัจจุบัน การพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตผู้คน ยกระดับสุขภาพและการศึกษา การขยายเมืองและการค้าขายระหว่างประเทศ
จากวิทยุทรานซิสเตอร์จนมาถึงจุดเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ จากเกมวิดีโอไปถึงโทรศัพท์มือถือ
Cr:pixabay
จนถึงปี 1990 World Wide Web ได้เกิดขึ้นมา
และเราก็ก้าวเข้ามาสู่ยุคดิจิทัลซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราในปัจจุบันนั่นคือการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตเช่นการซื้อขายสินค้าออนไลน์ หาความรู้ทาง Google และโลกที่ไร้พรมแดนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Facebook ที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในตัวเราแทบทุกมิติของการใช้ชีวิต
เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป ด้วยความรวดเร็วที่แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง ทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ทุกวันนี้นอกจากการหาเงินเพื่อดำรงชีพแล้ว เราต่างมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังที่ว่า เราจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น
แต่มาวันหนึ่งโลกมีบางอย่างผิดปกติขึ้นเรากำลังเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย การระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงอย่างไร
ตอนนี้เรากำลังเอาโชคชะตาไปฝากไว้กับระบบที่ยังไม่พร้อมในหลายๆด้าน หากเราป่วยต้องนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลเพื่อรอการตรวจตามขั้นตอนและ
ทันทีที่เราได้รับการยืนยันว่าไม่มีอาการอะไรที่น่ากังวล
เราก็จะหายหน้ากันไปจนกระทั่งพบปัญหาใหม่
จำได้ไหมว่าในขณะที่เรายังรู้สึกดีไม่ติดโรคและสุขภาพยังแข็งแรง เราพบแพทย์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
Cr: Pixabay
โลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เราจะได้เห็น
การรวมกลุ่มของอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ โมเดลธุรกิจ เพื่อมาตอบสนองความต้องการของคนเกี่ยวกับสุขภาพในเชิงพาณิชย์มากขึ้น
การป้องกันโรคจะมีประสิทธิภาพมากกว่าและมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการรักษาเช่นการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยป้องกันโรค
การวัดความดันเป็นประจำด้วยนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ เป็นต้น
Big data ข้อมูลในปริมาณมหาศาลที่ใช้เพื่อวินิจฉัยโรคระยะไกล ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การดูแลสุขภาพเป็นบริการที่ไม่แพงจนเกินไป เทคโนโลยีจะเป็นตัวการเปลี่ยนแปลงโลกที่แท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขค่อนข้างจำกัด มีบุคคลากรทางการแพทย์น้อย Big data ที่มีก็สามารถวินิจฉัยโรคได้เร็ว ง่าย และราคาถูก ในอนาคตจะช่วยให้การรักษาสุขภาพของโลกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ทว่า..การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ความคิดของหลายๆคนเปลี่ยนไป หลายคนหลงใหลเทคโนโลยีแห่งอนาคตจนลืมความเป็นจริงในปัจจุบัน และก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่ยังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ไม่ยอมที่จะเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งความคิด
การทำความเข้าใจกับกระแสโลกในปัจจุบัน จะแยกผู้นำออกจากผู้ตามอย่างชัดเจนขึ้น สำหรับผู้ที่อืดอาดและย่ำอยู่กับที่จะถูกโดดเดี่ยวในที่สุด
#ลุงแมน
โฆษณา