20 มี.ค. 2020 เวลา 09:28 • กีฬา
[ #สีเทาเราจะตายกันหมด ]
บ่ายวันหนึ่งในต้นปี 1996 ที่อากาศหนาวเหน็บ ฟ้าขมุกขมัวอึมครึม ไร้แสงแดดเหมือนอย่างเคย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขับรถมาออฟฟิศที่แคร์ริงตันแต่เช้าตรู่เป็นปกติ หลังจากถอดโค้ตแขวนเรียบร้อย จึงหยิบปึกเอกสารที่เลขานำมาวางไว้ให้ ดูรายละเอียดต่างๆ
ระหว่างนั้นเองเหลือบไปเห็นกองจดหมาย ที่มีอยู่หลายร้อยฉบับเลยลองมาเปิดอ่านดูเรื่อยๆ ส่วนใหญ่แล้วมาจากแฟนบอลมากมายจากทั่วโลก ที่มาร่วมอวยพรยินดี ให้กำลังใจหรือแม้แต่แนะนำทักท้วงเรื่องการซื้อผู้เล่น
มีอยู่ฉบับหนึ่งมาจากผู้หญิงชื่อ เกล สตีเฟนสัน เป็นศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญเรื่องกายภาพทางสายตา ทำงานอยู่ที่ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ลิเวอร์พูลแต่เธอเป็นแฟนตัวเอ้ของแมนฯยูไนเต็ด
เนื้อหาในจดหมายแนะนำ เฟอร์กี้ ว่าไม่ควรใช้ชุดสีเทาลงแข่งเด็ดขาด ในฤดูกาล 1995/96 แข้งปีศาจแดงเคยใส่เสื้อนี้ ซึ่งเป็นเธิร์ดคิทหรือชุดแข่งที่ 3 ลงโม่แข้งบ้างและผลงานไม่ค่อยสู้ดีนัก
เกล อธิบายรายละเอียดอีกหลายอย่าง แม้จะใช้ศัพท์เทคนิคเฉพาะทาง แต่ เฟอร์กี้ พอจะเข้าใจได้ไม่ยาก
ประเด็นที่ว่าสายตาคนเรานั้น มักจะมองเห็นสีที่โดดเด่นกว่าสีโทนอึมครึมหม่นหมอง มันคือเรื่องจริง เพราะมีผลการวิจัยออกมายืนยันเรื่องนี้แล้ว
ธรรมชาติมนุษน์นั้นมักจะ "เหลือบ" อยู่เสมอ แล้วทีนี้ลองนึกถึงนักฟุตบอลที่อยู่ในสนามและต้องสอดสายตาหาเพื่อนร่วมทีม ไม่ใช่เป็นการมองแบบเต็มๆทุกครั้ง
ฉะนั้นถ้าสีที่เตะตากว่า มีจุดเด่นเห็นได้ดีทั้งตอนกลางแดดหรือต้องแสงไฟ ย่อมช่วยได้อย่างแน่นอน
อ่านไปพลาง เฟอร์กี้ เห็นคล้อยตามด้วย เกล ไม่ได้กล่าวลอยๆ อีกทั้งนี่เป็นระดับศาสตราจารย์สอนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยชื่อดัง
หลังจากนั้นไม่นานนักจึงติดต่อกลับไป พร้อมทั้งเชิญมาคุยด้วยในเบื้องต้นก่อน
การสนทนาเป็นไปด้วยดี เกล พูดจาฉะฉาน ฉลาดหลักแหลมมากๆ ให้ความรู้เรื่องการมองเห็นอย่างดีเยี่ยม ซึ่งนั่นย่อมเป็นประโยชน์กับแมนฯยูไนเต็ดมากๆ
เธอบอกเลยว่าพร้อมช่วยเหลือสโมสรที่ตามเชียร์มาตลอดตั้งแต่เด็ก ตรงนี้ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับ เฟอร์กี้ เข้าไปอีก
จึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับ มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ เพื่อจะแต่งตั้ง เกล มาทำงานแบบพาร์ทไทม์ โดยจะคอยแนะนำนักเตะเรื่องการใช้สายตา ก่อนจะได้รับความเห็นชอบ
บางทีเราอาจมองข้ามไป ไม่คิดเลยว่าเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้จะยิ่งใหญ่เหลือเชื่อ
13 เมษายน 1996 ทัพแมนฯยูไนเต็ดยกพลไปหวดเกมพรีเมียร์กับเซาธ์แฮมป์ตันที่เดอะ เดลล์สนามแห่งเก่า โดยใช้ชุดสีเทาลงสู้ศึก
เดอะ เดลล์ขึ้นชื่อว่าเป็นของแสลงของพวกสโมสรใหญ่ มักจะปราบเซียนอยู่เป็นประจำ ดังนั้น เฟอร์กี้ จึงกำชับลูกทีมไว้แล้วว่าต้องรอบคอบรัดกุม เพราะช่วงนั้นบดบี้กับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดอย่างดุเดือด
แต่แล้วแค่ 11 นาที เคน มองเคา เซนเตอร์แบ็กเติมสูงมาทำประตูให้นักบุญออกนำ 1-0 ก่อนที่ นีล ชิปเปอร์ลี่ย์ กองหน้าตัวหลักบวกเพิ่ม 2-0 ในอีก 12 นาทีต่อมา
เฟอร์กี้ หัวเสียอย่างมาก เดินงุ่นง่านโวยวายโหวกเหวกอยู่ที่ข้างสนาม สั่งการอยู่ตลอดเวลา แต่อาการของลูกทีมยังไม่ดีขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฟอร์มร้อนแรงเหลือเกิน 16 นัดหลังสุดทุกรายการไม่แพ้ไม่ว่า แต่ยังคว้าชัยถึง 15 ด้วย
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
สถานการณ์มาทรุดหนักก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาที แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ทำแสบกดจมตาข่ายให้เซาธ์แฮมป์ตันนำโด่ง 3-0
บรรยากาศในห้องแต่งตัวฝั่งทีมเยือนที่เดอะ เดลล์เต็มไปด้วยความตึงเครียดอย่างมาก
เฟอร์กี้ เดินเข้ามาแล้วตะโกนบอกทุกคนแผดลั่นไปทั่วว่า "ถอดชุดนั้นเดี๋ยวนี้เลย ทุกคนเปลี่ยนทันที"
"ชุดนี้มันไม่ไหวแล้ว เชื่อสิว่ามันเรื่องของวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราจำเป็นต้องเชื่อมัน"
ครึ่งหลังแข้งปีศาจแดงเปลี่ยนจากชุดเทา มาเป็นชุดลายทางแนวตั้งน้ำเงินสลับขาว ท่ามกลางความแปลกใจของเร้ด อาร์มี่ที่ตามมาเชียร์ แต่ดูเหมือนจะเป็นที่ขบขันของเหล่าเดอะ เซนต์ทั้งหลายที่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องเคล็ดลับความเชื่อ
แม้จะไม่อาจดึงแต้มออกมาได้ แต่ ไรอัน กิ๊กส์ ยังกดประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 89 ไม่ทำให้แบกความปราชัยย่อยยับกลับแมนเชสเตอร์มากเกินไปนัก
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะดวลกับเซาธ์แฮมป์ตันในเกมดังกล่าว ปีศาจแดงแพ้ในลีกมาแล้ว 5 นัดด้วยกัน
3 ใน 5 เป็นการใส่เสื้อสีเทานี่แหล่ะลงเล่น ไม่จะเป็นพ่ายแอสตัน วิลล่าตั้งแต่นัดแรก แพ้ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อล แถมยังไม่อาจเข่นเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์อีกต่างหาก
แล้วความพ่ายแพ้นัดที่ 6 มันทำให้แมนฯยูไนเต็ดกำลังนำจ่าฝูงก็จริง แต่โดนนิวคาสเซิ่ลตามจี้เหลือแค่ 3 คะแนนเท่านั้นเอง
เฟอร์กี้ ประกาศิตหลังจากนั้นว่าห้ามใส่ชุดสีเทาอีกเป็นอันขาดในอีก 3 เกมที่เหลือ
ปรากฏว่าแมนฯยูไนเต็ดกลับมาเข้าฝักดังเดิม กวาดชัยรวด 3 นัดไล่ตั้งแต่เชือดลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 ถล่มฟอเรสต์ 5-0 ก่อนปิดจ็อบอย่างสมบูรณ์แบบบุกไปทุบมิดเดิ้ลโบรช์ 3-0 ฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
และพวกเขาใส่ชุดลายตั้งฟ้าขาวอีกต่างหาก
ก่อนจะจบฤดูกาลด้วยการใส่เสื้อแดงบดลิเวอร์พูลซึ่งอยู่ในเสื้อขาว 1-0 ผงาดเอฟเอ คัพอีกรายการ เป็นการครองดับเบิ้ลแชมป์สมัยที่สองของ เฟอร์กี้ ด้วย
สมาคมฟุตบอลอังกฤษสั่งปรับเงินแมนฯยูไนเต็ด 10,000 ปอนด์ข้อหาเปลี่ยนชุดแข่งกลางคัน
แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องเงินค่าปรับ เฟอร์กี้ พูดติดตลกกับลูกทีมเลยว่ามันช่างเป็นหนึ่งหมื่นปอนด์ที่คุ้มค่ายิ่งนัก
แม้เราไม่อาจบอกถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ที่ชัดเจนคือผลของเกมเมื่อใส่เสื้อสีเทามันแย่จริงๆ
หลังจาก เฟอร์กี้ ให้สัมภาษณ์นักข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนชุดในครึ่งหลังว่ามาจากสีเทามองไม่ใช่ตามหลักการของสายตาปกติแล้ว
ชุดอัปยศนั้นถูกนำไปเลหลังขายในราคาถูกในอีกไม่กี่วันต่อมา ลดกระหน่ำเกิน 50 เปอร์เซนต์ด้วยซ้ำ แต่ก็ยังขายดีไม่น้อย
มีพวกหัวใสซื้อไปสะสมและปล่อยประมูลในเวลาต่อมา อย่างน้อยนี่คือชุดแห่งประวัติศาสตร์ แม้จะเป็นด้านที่ไม่ดีเลยก็ตาม
เกล สตีเฟ่นสัน ศาสตราจารย์ผู้อยู่เบื้องหลังได้รับการยกย่องจาก เฟอร์กี้ และบรรดาบอร์ดบริหารมากๆ
เธอจะเข้ามาสโมสรสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพื่อช่วยเหลือนักเตะและเพิ่มศักยภาพในการใช้สายตาให้ถูกต้อง
วิสัยทัศน์การมองเห็นสำหรับนักเตะอาชีพมีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ นักเตะแมนฯยูไนเต็ดแต่ละคนต่างคล้อยตามไปด้วย
เกล จัดให้ผู้เล่นฝึกการออกกำลังด้านสายตา ด้วยรูปแบบต่างๆที่ไม่มีใครแทบจะเคยรู้มาก่อน
"ลองคิดภาพฝูงชนขนาดนี้อยู่ข้างหลังคุณสิ มันมีสีต่างๆ ที่คุณสามารถมองเห็นได้เร็วกว่าสีอื่นๆ"
"ถ้าคุณใส่สีเทา พวกนักเตะจะมองหาเพื่อนร่วมทีมตัวเองลำบาก จะหนักมากเข้าไปอีกเมื่อมีผู้คนเยอะแยะปะปนกัน"
เกล ยังเข้ามามีส่วนร่วมในการคัดเลือกสีชุดแข่งของแมนฯยูไนเต็ดในแต่ละฤดูกาลอีกต่างหาก
ปี 2006 ยังช่วย พอล สโคลส์ ที่กำลังมีปัญหาเรื่องการมองเห็น จนสายตากลับมามีศักยภาพเช่นเดิม
ในปี 2015 เกล เสียชีวิตด้วยวัย 65 ปี จากอาการป่วยที่ทรุดลงอย่างหนัก เฟอร์กี้ ไปร่วมงานศพด้วยความโศกเศร้าอย่างมาก โดยมี เวย์น รูนี่ย์ กับ ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นผู้นำนักเตะอื่นไปร่วมอาลัย
เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอของทีมกล่าวเชิดชูคุณความดีที่ เกล ได้ช่วยแมนฯยูไนเต็ดจนประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
เกือบ 20 ปีที่ เกล รับใช้แมนฯยูไนเต็ด จากจุดเริ่มต้นในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งที่มีความห่วงใยเรื่องสีเสื้อและมันกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างน่าทึ่ง
"จะไม่มีใครที่ยูไนเต็ดลืม เกล อย่างแน่นอน"
สารสั้นๆจาก เฟอร์กี้ แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นชัดเจนทุกถ้อยคำอยู่แล้ว
เช่นเดียวกับชุดสีเทา จะไม่มีใครลืมมันได้เลยเช่นเดียวกัน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา