21 มี.ค. 2020 เวลา 05:00 • ธุรกิจ
ในวิกฤตินี้ COVID19 ให้อะไรกับคนไทยและชาวโลก
ที่มา: สสส
ตอนนี้เราจะพบข้อความที่เขียนประมาณว่าพบผู้ป่วย 300 ราย ตาย 1 ราย วิตกจริต 60 ล้านคน ที่มีการ Share กันต่อๆในโลก Social กันทั้ง Face Book Line Instagram และสื่ออื่นๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะขนาดว่า “ยุคใหม่ฯ” เป็นคนที่มีโอกาสได้พูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ถี่มาก ได้รับรู้แนวทางการรับมือการโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
ยังเคยมีประสบการณ์การเป็นใข้หวัดใหญ่มาถึง 2 ครั้ง ที่ต้องถึงขนาดเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว รู้จักอุบัติการณ์ของโรค และรู้เรื่องหลายเรื่องที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ ก็ยังไม่วายวิตกจริตกับข่าวที่เสพอยู่ทุกวันเลย
รู้อยู่แล้วว่ายังไงโอกาสได้สัมผัสโรคนี้มีสูงและเราก็ควรได้สัมผัสด้วยเพื่อให้ร่างกายมีโอกาสสร้างภูมิต้านทาน แต่ต้องเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีโอกาสรับเชื้อด้วย พร้อมกับไม่ทำตัวให้เข้าไปอยู่ในโอกาสเสี่ยง
แต่พอย้อนกลับมาดูจะเห็นข้อดีของสถานการณ์นี้ หลายอย่างที่จะทำให้คนไทยและชาวโลกสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้แบบที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต หลังจากที่เราควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้แล้ว
สิ่งที่”ยุคใหม่ฯ” รู้สึกได้ในครั้งแรกคือ เหมือนโลกจะเตือนชาวโลกว่าพวกเราทำร้ายโลกมากเกินไปแล้วนะ ใช้ทรัพยากรอย่างบ้าคลั่ง ทำร้ายสิ่งแวดล้อมอย่างหนักหน่วง รวมถึงทำร้ายชาวโลกด้วยกันในการการก่อมลพิษมากมาย ซึ่งโลกเราก็ต้องปรับสมดุลโดยมีเหตุการณ์บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
ที่มา: Urbaneco.org
ครั้งนี้คณะกรรมการผู้บริหารโลกและประธาน (ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีตัวตนอยู่ที่ไหน) ได้มีมติใช้พี่โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นญาติสนิทกับพี่ซารส์และพี่เมอร์ส ที่ได้ออกมาปรับสมดุลประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มาส่งสารตักเตือนชาวโลกอีกครั้งว่าพวกคุณได้ใช้สิ่งที่พวกคุณอาศัยอยู่สร้างประโยชน์ส่วนตนมากเกินไปแล้วนะ และสารเหล่านี้ก็ทำให้เราโลกและชาวไทยได้เรียนรู้ว่า
1.การแพร่ระบาดของโรคนี้ง่ายมากเพียงการไปอยู่ในที่คนมากๆในที่แคบๆ นั่นก็คือสถานบันเทิงต่าง รวมถึงสนามมวยและการจัดงานต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้แม้จะสร้างรายได้ให้หลายคนๆ สร้างเงินสร้างงานมากมาย
แต่อย่าลืมว่าเป็นหนึ่งในการทำร้ายสิ่งแวะล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่แม้ใครจะพูดอย่างไรก็ไม่มีใครสนใจทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนครั้งนี้แม้ไม่มีการบอกว่าใดๆจากคณะกรรมการบริหารโลกว่าให้หยุดหรือเว้นช่วงบ้าง แต่ก็ต้องหยุดโดยปริยาย
2.ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ที่ต้องบอกว่าแบบอย่างที่ดีคือคนที่เป็นคนที่เกิดมาก่อนที่มีวุฒิภาวะ แล้วทนงตนว่ารู้เรื่องอะไรดีๆมาก่อน มีชีวิตที่ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ในอดีตใครก็พูดไม่ได้เตือนไม่ได้ ทั้งยังส่งต่อความคิดนี้สู่รุ่นลูกรุ่นหลานอีก ซึ่งเราจะเห็นได้จากผู้ที่แพร่เชื้อตัวนี้ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน ที่ไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม
วันนี้คนกลุ่มนี้ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองโดยปริยายและได้รับบทเรียนครั้งใหญ่หลวง ทำให้รุ่นลูกรุ่นหลานที่ได้รับการส่งต่อการเป็นของคนรุ่นนี้มาต้องกลับมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยไม่ต้องมีใครบังคับ
3.มลพิษต่างๆ ที่เรารนณรงค์มายาวนานให้ช่วยกันรักษาโรคใบนี้ จากผลกระทบจากฝีมือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 มลพิษทางน้ำ มลพิษทางอากาศ การก่อขยะพลาสติก และอีกมากมายที่เป็นการทำร้ายโลกใบนี้ เราจะพบว่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น การก่อมลพิษจากการเดินทางทางเครื่องบิน รถยนต์ การผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมที่แอบปล่อยของเสียต่างๆ ฯลฯ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
4.สถานการณ์สร้างวีระบุรุษวีรสตรี อย่างเช่น การดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ไช่ อิง เหวิน ที่เป็นต้นแบบให้ชาวโลกเห็นความสำคัญของการเตรียมการ การวางคนให้ถูกงาน การมองผลลัพธ์ที่ใหญ่ นั้นคือประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน สุดท้ายทุกฝ่ายก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
หรือการปิดประเทศของจีนที่ลึกๆแล้วเขามีระบบการจัดการระหว่างการปิดประเทศที่ยอดเยี่ยม สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้อาจจะทำให้จีนผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกทั้งทางเศรษฐกิจ การทหาร การแพทย์และเทคโนโลยีได้เร็วขึ้น
5.ทำให้เราเห็นว่าใครที่ทำงานเพื่ิอคนไทยอย่างแท้จริง ที่ทำงานอย่างหนักและไม่ได้เรียกร้องความสนใจใดเลย ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แม้ว่าอาจจะมีข่าวคราวหลายๆครั้งที่อาจจะเป็นที่ไม่พอใจกันบ้าง แต่ส่วนมากแล้วเขาเหล่านั้นได้ทุ่มเทอย่างมากมายเพื่อคนไทย
ที่มา; Twitter
6.ทำให้เราเห็นว่าใครที่ฉวยโอกาส ทำให้เราสามารถคัดคนได้เลยในสถานการณ์นี้ ทำให้เรารู้ว่าภายในจิตใจคนเหล่านั้นแท้จริงแล้วเป็นคนเช่นไร ที่ในอดีตเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน เพราะในอดีตไม่มีเหตุการณ์อะไรให้เขาเหล่านั้นแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา
ที่มา: Nation Online
7.ทำให้เราเห็นว่าการบ่นการต่อว่าการป้ายสีหรือการทำให้เสียกำลังใจ ไม่ได้ช่วยอะไรให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย ทั้งยังทำให้เราแย่ลงด้วยซ้ำ
8.ทำให้เราเห็นน้ำใจของคนไทยที่ออกมาช่วยเหลือกันอย่างที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน ที่ออกมาจากใจอย่างแท้จริง และ “ยุคใหม่ฯ” ได้เห็นถึงน้ำใจของชาวไทยที่มีต่อจีนในช่วงวิกฤติที่เราไม่เคยได้ข่าวหรือเป็นข่าวในวงแคบในหลายเรื่อง
ที่มา: Line forward
ที่มา: Line forward
ที่มา: Line forward
และสุดท้ายคือทำให้เห็นอนาคตประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้ว่า เราเป็นประเทศที่มีดีเพียงพอในการเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งทั้งทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ ด้วยพื้นฐานความเป็นคนไทยที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีให้กันและกัน
ที่มา: มติชน
ต่อไปเรามาพิจารณาข่าวที่รับมาว่าสิ่งนี้จะสร้างผลในแง่ที่ดีอย่างไร ในแง่ที่สร้างสรรค์ได้อย่างไร หรือแม้แต่ในแง่ที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างไรในสถานการณ์นี้ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยกันอย่างไร กันดีไหมครับ
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
โฆษณา