Lock หรือไม่ Lock ดี?
เมื่อวานนี้ “ยุคใหม่ฯ”ได้มีโอกาสใช้บริการรถแท็กซี่ และได้พูดคุยกันในช่วงเวลาที่สั้นมากเพราะจากเดิมที่ต้องใช้เวลาเดินทาง 30-45 นาที แต่วันนี้ใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็ถึงที่หมายแล้ว เพราะรถโล่งมาก
สิ่งที่แท็กซี่ท่านนี้แบ่งปันมาคือ ความชัดเจนของนโยบายรัฐบาล จะปิดหรือจะเปิดจะ Lock หรือไม่Lock ขอให้มันชัดเจนไปเลย เพราะหากไม่ชัดทางสหกรณ์แท็กซี่จะจะดูว่ารถที่เช่ามายังขับรับผู้โดยสารอยู่เขาก็จะเก็บค่าเช่าเต็ม แต่หากประกาศมาให้ชัดเจนเขาก็จะได้หยุดการเก็บค่าเช่าชั่วคราวให้
ตอนนี้รายได้จากเดิมวันละ 2,700 บาทโดยเฉลี่ย ทุกวันนี้ได้ไม่ถึงพัน หักค่าใช้จ่ายแล้วมีเงินเหลือวันละไม่ถึง 200 บาท
ข้างต้นเป็นอีกมุมของคนที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ Lock Down ส่วนอีกส่วนที่ส่งผลกระทบคือมีคนที่ไม่มีรายได้ที่ต้องนำมาใช้จ่ายเพราะไม่ได้ทำงาน การ Lock Down จึงส่งผลกระทบกับเขา
ไม่ว่าหวยจะออกอะไรล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบทั้งทางบวกและลบเสมอ แต่ในทางปฏิบัติแล้วมันยากมากในการตัดสินใจของผู้นำ เพราะมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลายด้านที่พิจารณา และเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้เกิดความผิดพลาดได้มากคือระยะเวลาในการตัดสินใจที่สั้นมาก อีกทั้งเป็นเหตุการณ์ที่ใครก็ไม่เคยเจอมาก่อน ทุกอย่างล้วนแต่พึ่งมีประสบการณ์ทั้งสิ้น
อ่านหลายรอบสถาพเลยเป็นแบบนี้
เรื่องนี้ทำให้ “ยุคใหม่ฯ” นึกถึง 2 เรื่อง.ขึ้นมาในสถานการณ์นี้ นั่นคือการตัดสินใจนั้นมาจากวิธีคิดหรือแกนความคิดแบบไหน เพื่อส่วนรวมหรือเพื่อพวกพ้อง และการจัดลำดับความสำคัญ
มีโอกาสได้อ่านและนำไปปฏิบัติในหลายเหตุการณ์จากหนังสือ 7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงประสิทธิภาพยิ่ง ในเรื่องของการคิดแบบชนะ/ชนะ (Things Win-Win) ซึ่งเป็นเรื่องเรื่องที่เข้ากับสถานการณ์เช่นนี้มาก
การตัดสินใจซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีผิดพลาดไปบ้าง ด้วยข้อมูลประสบการณ์ที่มี แต่หากยึดหลักแบบ “ชนะ-ชนะ” แล้วเราจะพบว่าสิ่งนั้นจะนำพาไปสู่วิธีการที่คนส่วนมากจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี ซึ่ง “ยุคใหม่ฯ” ก็ไม่ปฏิเสธว่าอาจจะมีผลกระทบกับบางฝ่ายบ้าง แต่ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่คิดที่ตัดสินใจของผู้ที่มีอำนาจจะคิดจากพื้นฐานอะไรเป็นที่ตั้ง
ในสถานการณ์นี้ด้วยระยะเวลาที่ต้องเร่งรีบในการตัดสินใจ สิ่งที่ต้องทำคือการสั่งการลงไปให้เร็วที่สุด การคาดหวังความสมบูรณ์แบบเราจะไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย
ดังนั้นสิ่งที่คนไทยเราต้องทำนั่นก็คือการให้ความร่วมมือกับมาตรการที่ออกมา การเรียนรู้และปฏิบัติตนไม่ให้เกิดความเสี่ยง และหากตนเองมีความเสี่ยงก็ต้องปฏิบัติตนเองด้วยการไม่ออกไปไหน เชื่อว่าอีกไม่นานสถานการณ์ก็จะดีขึ้น
สิ่งหนึ่งที่ “ยุคใหม่ฯ” ได้ข้อมูลมาจากบุคลากรทางการแพทย์หลายท่านก็คือ แม้โรคนี้จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ผลกระทบอาจจะรุนแรง แต่ลองสังเกตดูดีๆว่าคนติดเชื้อมีจำนวนมากกว่าที่เสียชีวิตหลายเท่า และคนติดเชื้อที่มีอาการหนักหรือเสี่ยงเสียชีวิตก็เป็นคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและมีโรคแทรกซ้อน
คนที่มีสุขภาพดีที่ติดเชื้อแล้วเสียชีวิตหรือมีอาการหนัก พบว่ามีสัดส่วนต่ำกว่า 1% ด้วยซ้ำ คนที่ติดเชื้อบางส่วนก็สามารถหายได้เอง สิ่งที่ต้องทำคือข้อควรระวังกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เว้นระยะห่าง และทำตัวเองให้แข็งแรง รวมถึงหากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงก็กักตัวเองได้เลย ซึ่ง “ยุคใหม่ฯ” ได้แบ่งปันไว้ที่
ส่วนในการแก้ปัญหาก็ต้องเน้นไปที่เป้าหมายที่แท้จริง ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่ทำให้ผู้คนหลงประเด็นเช่น รถติด ก็ต้อสร้างถนนให้มากขึ้น หรือการลดความแออัดยัดเยียดของสถานที่ แก้ปัญหาด้วยการขยายพื้นที่ เป็นต้น แต่หลงลืมไปว่ารถติดเกิดจากการติดขัดของระบบการจราจรและการกระจุกตัวของประชากรที่ไม่กระจายออกไป
ส่วนพื้นที่แออัดต้องทำให้คนอยู่ไม่แออัด ไม่จำเป็นต้องสร้างหรือขยายพื้นที่ เราสามารถจัดพื้นที่ นำเอาอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้ออกไปก็ได้ เพื่อลดความแออัด เป็นต้น
เรื่องนี้สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเรื่อง COVID19 ได้โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่ไม่ซับซ้อนคือ
1.เรื่องสำคัญที่สุดคือคือเราต้องการคือลดการระบาดของโรคและสามารถควบคุมโรคได้ในที่สุด
2.ลำดับต่อมาคือทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบหรือหากเกิดผลกระทบให้เกิดให้น้อยที่สุด
หลังจากนั้นก็ค่อยๆแบ่งย่อยลงไปว่าอะไรที่จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ตาม 2 หัวข้อข้างต้น ทว่าสิ่งที่สัมผัสได้จากการดำเนินการของรัฐบาลในครั้งนี้คือ การที่ไม่มีแกนของแนวคิดที่ชัดเจนตัดสินใจตามกระแส
แต่สิ่งที่ทำให้ใจชื้นขึ้นมาคือ ทราบมาว่าหน่วยงานที่ทำงานมาอย่างต่อเนื่องที่เป็นผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง เขามีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว เพียงแต่ยังมองไปที่ข้อแรกเป็นสำคัญ
ลองมาดูสิว่าหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน เราจะหลงทางกันไหม กระแสจะมีผลกระทบได้ขนาดไหน จะทำให้เรากล้ายืนหยัดในสิ่งที่เชื่อมั่นหรือไม่ล่ะ
“ยุคใหม่ฯ” เชื่อว่าทิศทางการทำงาน นโยบายและวิธีการปฏิบัติจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตอนนี้เข้าใจว่าทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย หลายครั้งก็ทำไปแบบไร้ทิศทางหลายครั้งก็ได้ผล ซึ่งเห็นผลดีมากกว่า
สิ่งที่อยากจะให้คนไทยทำในตอนนี้คือ
1.การร่วมมือร่วมใจกันในการปฏิบัติตัวตามประกาศที่ออกมาจากทางการ
2.ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากความเสี่ยงพร้อมกับทำร่างกายให้แข็งแรง
“สิ่งที่สำคัญมากๆคือการ่วมส่งกำลังใจให้คนที่ทำงาน เพื่อให้เขาเหล่านั้นที่เสียสละเพื่อพวกเราจะได้มีพลังไปต่อ”
ในแกนวิธีข้างต้นเป็นแกนที่ใช้ในการทำการตลาดยุคใหม่ ที่มีพื้นฐานมาจากการการคิดแบบ ชนะ/ชนะ ที่จะสร้างให้เกิดความยั่งยืนกับธุรกิจ ที่ได้รับการพิสูจน์จากธุรกิจชั้นนำของโลกที่สามารถดำรงตนอยู่ได้มาอย่างยาวนาน เพราะยึดแนวทางนี้
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
