23 มี.ค. 2020 เวลา 05:20 • ธุรกิจ
ถ้าเกิดว่า มี บริษัทที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณไม่ได้เป็นเพียงพนักงานของบริษัท แต่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท จะอยากทำงานด้วยรึเปล่า?
วันนี้ผมมี เคสที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำระบบ โปรแกรมใหม่ ๆ มาใช้ในบริษัท แต่ตัวโปรแกรมที่ดีนั้น ยังไม่น่าสนใจเท่าวิธีที่่ CEO ทำให้มันเกิดขึ้น
บริษัทที่จะเล่าถึงเป็นบริษัทขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีพนักงานประมาณ 300 คน และในสภาวะวิกฤต เหล่านี้ พนักงานสามารถทำงานแบบ Work form home ได้อย่างไม่มีปัญหา
เขามีระบบ Chat ของบริษัทใช้กัน ด้วยโปรแกรมที่มีชื่อว่า Slack และนอกจากนี้ยังมี app ที่ใช้งานร่วมกับ Slack ได้อย่าง Bonusly และ Krama
ในทุก ๆ ต้นเดือน เขาจะมี เงิน 200 บาท ส่งไปให้พนักงานทุกคน โดยที่ 200 บาทนี้ ไม่ใช่ให้พนักงานทุกคนเอาไปใช้ซื้อของนะครับ แต่ เอาไว้ให้พนักงานทุกคน นำเงินนี้ไปให้คนอื่น โดยผ่านโปรแกรมที่ว่ามา
เกณฑ์ การให้ ก็ง่าย ๆ ครับ ถ้าคนไหนทำดีกับคุณ หรือมีน้ำใจ ก็จะให้เงินเหล่านี้เป็นสิ่งตอบแทน
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยงาน หรือ ยกของ หรือ แค่ไปซื้อข้าวให้ ก็สามารถ ให้เงินนี้ ตอบแทนได้ ซึ่ง เงินเหล่านี้ เวลาที่ให้กับคนอื่น ก็จะถูก ประกาศแบบ สาธารณะ ซึ่งจะทำให้ทุกคนเห็นว่า ใครให้กับใคร
ระบบนี้สามารถ เพิ่มแรงจูงใจในการทำงานกับพนักงานได้เป็นอย่างดี เพราะมันทำให้ทุกคนคิดว่าถ้าฉันทำดีกว่าเดิม หรือมีน้ำใจ อาจจะได้เหรียญนี้กับเขาบ้าง ซึ่ง ถ้าพนักงานคนใด ที่ได้เหรียญเยอะกว่าก็จะรับรู้ได้ทางอ้อมว่า พนักงานคนนี้เป็นคนดี ทำให้ได้เหรียญเยอะขึ้น
ซึ่งการต่อยอดยังไม่จบแค่นี้ครับจากเงินที่ได้มาเหล่านี้ สามารถต่อยอด ไปแลกของรางวัลได้ยกตัวอย่างเช่น ตั๋วเครื่องบินในประเทศ และตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ
เพราะ CEO คิดว่า ทุกคนที่ทำงานหนัก นั้นหนีไม่พ้นการ Burn out ดังนั้นการพักผ่อนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ การมอบตั๋วเครื่องบินให้ คน ๆ นั้นไป พักผ่อนสักระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการ ชาร์จแบต พอกลับมาทำงานจะทำให้ การทำงานออกมาได้ดีกว่าเดิม
ดูน่าสนใจดีไหมครับ ระบบนี้ สำหรับผมแล้ว นี่คือการใช้เรื่องแรงจูงใจแบบภายในมาใช้ได้เป็นอย่างดีในปัจจุบัน คนไม่ได้สนใจแค่เพียงเรื่องเงินอย่างเดียวแล้ว คนสมัยนี้ ต้องการแรงจูงใจในด้านอื่น เพื่อเติมเต็มความต้องการบางอย่าง เช่น การเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก หรือ การตอบสนองความต้องการส่วนตัว
คนจึงไม่ได้เลือกงานเพียงเพราะให้เงินเดือนที่เยอะเพียงอย่างเดียว แต่เขาเลือกงานที่ สามารถ ทำให้เขาแสดงคุณค่าที่มีอยู่ออกมาได้อย่างเต็มที่ต่างหาก
การให้เงินสำหรับคนที่ทำดี คือการเติมเต็มด้านการให้คุณค่าความดีของคน และการทำให้เป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นง่าย ๆ ด้วยการให้เงินเพียงเล็กน้อย 200 บาท ซึ่งมูลค่าของสิ่งที่ได้ มันเกินกว่านั้นไปมากมาย
อีกทั้งยังต่อยอดไปถึงการนำเงินที่มีไปแลกของรางวัลต่าง ๆ ได้อีก ถ้าคิดภาพง่าย ๆ ก็คงเหมือน แสตมป์ เซเว่นแหละครับ คนบางคน ภูมิใจกับการได้สะสม เหมือนเป็น mission ที่ต้องทำให้สำเร็จ 
ผมว่าในเคสนี้ก็คงไม่ต่างกัน นอกจากจะจูงใจให้ทำดีแล้ว ยังสามารถนำความดีที่ทำไปแลกของที่เราอยากได้อีก
ต้องยอมรับเลยนะครับว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ เห็นแล้วอยากให้ที่ทำงานมีอะไรแบบนี้บ้างเลย
บริษัทที่ผมนำมาเล่า คือ บริษัท Bitkub ของคุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เลยนำมาแบ่งปันกันครับ
โฆษณา