23 มี.ค. 2020 เวลา 21:10 • บันเทิง
#พ่อที่ทำงานหนักที่สุดในโลก
พวกเราทราบหรือไม่ว่า
#ทำไมพ่อหลวงถึงป่วยหนักขนาดนี้
ไม่มีพื้นแผ่นดินไทยส่วนไหน
ที่พ่อไม่เคยเดินทางไป
 
#ต้องเข้าใจก่อนว่า
เรากำลังย้อนเวลากลับไป
มากกว่า 40-50 ปี
พื้นที่ภูเขา หรือแม้แต่จะพื้นราบ
ล้วนเป็นถิ่นทุรกันดาร
การเดินทางนั้นแสนยากลำบาก
บางแห่งข้าราชการยังไม่เคยไป
หรือไม่กล้าไป เพราะกลัวอันตราย
แต่สำหรับพ่อไม่มีคำว่า ” #ยกเลิก ”
แถมยังเสด็จฯ ออกนอกเส้นทางเป็นประจำ
ถ้าทีมถวายความปลอดภัยกราบบังคมทูลว่า
“ เสด็จฯ ไม่ได้ ไม่มีถนนตัดผ่านพระพุทธเจ้าข้า ”
พ่อจะตอบกลับทุกครั้งว่า #ฉันไปได้
 
#ไม่ว่าจะไปที่ไหน
พระองค์ท่านจะทรงอดทนเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะลำบากหรือเหนื่อยขนาดไหน
พระองค์ไม่ทรงแสดงออกถึง
#ความเหนื่อยล้าแม้แต่ครั้งเดียว
#เมื่อวันที่พ่อป่วย
ในปี พ.ศ.2518
พ่อป่วยอย่างหนัก มีไข้สูง
โดยอุณหภูมิไม่ลดลงนาน 1 สัปดาห์
คุณหมอวินิจฉัยว่า พระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรค
Scrub Typhus แปลตามตัวก็คือ “ไข้ป่า”
ป่วยขนาดว่า หมอผู้หญิงคนหนึ่ง
#ที่ได้ทำการรักษาพระองค์เดินร้องไห้ออกมา
#ได้แต่เฝ้ารอกระทั่งพ่อของเรามีพระอาการทุเลาลง
คุณหมอถวายคำแนะนำให้ทรงงด
พระราชกรณียกิจเป็นเวลา 30 วัน
#คงไม่คิดใช่ไหมว่าพ่อจะหยุดง่าย ๆ
#ต่อไปนี้คือความหมายของ
การทำงานที่พ่อได้กล่าวไว้
งานประจำต้องทำอยู่แล้ว
#ถึงไม่บอกให้ทำก็ต้องทำ
ไม่ต้องสั่งซ้ำอีก
จะประชวรหรือไม่ก็ต้องทำ
ตามนโยบายที่สั่งไว้แต่ต้น
#ห้ามทรยศและห้ามโง่ด้วย
#เห็นด้วยว่าทุกคนต้องเห็นแก่ตัว
ถ้าเห็นแก่ตัวโดยแท้ โดยบริสุทธิ์ใจ
ประเทศชาติก็รอด (ห้ามมีอคติ)
#แต่นี่ไม่ใช่การป่วยหนักจากการทำงาน
ครั้งเดียวของพ่อ
ในปี พ.ศ. 2538
พ่อต้องทรงรับการผ่าตัดใหญ่
เพราะหัวใจเต้นผิดปกติ
ใคร ๆ ก็รู้ว่าโรคหัวใจ
ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่น ๆ
อีกทั้งในสมัยนั้นการผ่าตัดหัวใจก็เสี่ยง
แต่ทุกอย่างก็เป็นไปโดยเรียบร้อย
แล้วทราบกันหรือไม่ว่าสาเหตุของ
#โรคหัวใจที่เต้นผิดปรกตินี้มาจากอะไร
ในปี พ.ศ. 2530
พ่อเสด็จฯ ไปเยี่ยมประชาชน
ที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
ทรงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากเป็นโรคคอพอก
ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกราบทูลว่า
มีการเอาเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกเป็นประจำ
แต่ชาวบ้านไม่ยอมใช้เพราะไม่รู้จัก กลัวจะเป็นอันตราย
#พ่อจึงให้นำเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกด้วยมือตัวเอง
เมื่อชาวบ้านได้รับเกลือพระราชทาน
จึงยอมเชื่อว่าเกลือชนิดนี้กินได้จนแพร่หลายต่อกันมา #ปัจจุบันไม่มีคนป่วยโรคคอพอกที่สะเมิงแล้ว
#แต่กลับเป็นพ่อเองที่ป่วย
ได้รับเชื้อ "ไมโครพลาสมา" จากที่นั่น
ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวเต้นผิดปกติ และเป็นโรคเรื้อรัง
แม้คณะแพทย์จะพยายามเท่าใด
ก็ไม่อาจถวายการรักษาให้หายขาดได้😞
พี่เคยรับสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
"ฉันขึ้น - ลงสะเมิงอยู่หลายปี
จนได้รับเชื้อไมโครพลาสมา
ซึ่งในที่สุดทำให้ฉันเป็นโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ
#จนเกือบต้องเสียชีวิต..."
#พ่อไม่เคยหยุดทำงานหนัก
แม้กระทั่งตอนปอดอักเสบอยู่บนเตียงคนไข้
เมื่อครั้งเกิดอุทกภัยใหญ่ทั่วประเทศ
ซึ่งเรื่องนี้พ่อเคยกล่าวไว้ว่า
#ระวังนะ อย่าไปรังแกธรรมชาติ
หากไปรังแกมากๆ เขาจะโกรธเอา
และเขาจะทำร้ายเรา
โลกต่างยกย่องพ่อว่าเป็น
#กษัตริย์นักพัฒนาผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก
แต่ก็เพราะสาเหตุนี้จึงทำให้
พ่อป่วยเป็นโรคมากมาย
สุดท้ายโรคทั้งหลายนี้ก็เป็นส่วนที่นำพา
#ให้พ่อจากพวกเราไปบนฟ้า
เมื่อวันที่ 13 เดือนสิบ ปี พ.ศ. 2559
#มีบางคนกล่าวไว้ว่า
วิกฤติที่พวกเราพบเจอครั้งนี้นั้นหนักหนา
แสนสาหัสนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งถ้าคิดแล้วก็คือ ตั้งแต่เมื่อพ่อ
ได้ครองราชย์ได้เข้ามาดูแลพวกเรา
บัดนี้พวกเราทุกคน
#ได้เผชิญปัญหาที่หนักเช่นเดียวกับที่พ่อ
เคยคิดแก้ไขปัญหาด้วยตัวคนเดียว
#ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พวกเราจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
#เราจะไปให้ได้
#เราจะห้ามทรยศและห้ามโง่
#เราจะเห็นแก่ตัวเพื่อประเทศชาติ
#เราจะไม่รังแกธรรมชาติที่พ่อรักษาไว้
พวกเราจะสามัคคีก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน
#ไม่มีใครทำเพื่อคนไทยได้เท่าในหลวงพระองค์นี้
๗๐ ปีแห่งทศพิธราชธรรม
๗๐ ปีบารมีเพื่อปวงประชา
มันเริ่มมาจากเห็นรูปนี้เเล้วนึกถึงเพลงต้นไม้ของพ่อ
ขอบคุณที่มา
The King of Thailand.
“รอยพระยุคลบาท บันทึกความทรงจำของ
พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร”
สวัสดิ์ วัฒนายากร อดีตองคมนตรี
สุเมธ ตันติเวชกุล
เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
ขอบคุณภาพวาด
คิดถึงพ่อ...
อรุณสวัสดิ์ครับพ่อเเม่พี่น้อง
โฆษณา