25 มี.ค. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #ศึกนี้สำคัญที่สุด ]
คนตุรกีรู้กันดีว่า ฟาติห์ เตริม คือผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในวงการฟุตบอลของประเทศ
นอกจากประสบความสำเร็จพอตัวเมื่อครั้งเป็นนักเตะแล้ว พอเปลี่ยนบทมาเล่นกุนซือกลับต่อยอดทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ
เขากุมบังเหียนทีมชาติตุรกีถึง 3 รอบ ในขณะเดียวกันเวียนมาคุมกาลาตาซารายสโมสรใหญ่สุดและโด่งดังมากสุดของลีกเติร์กอีก 4 หน
ไม่นับไปแผ่บารมีถึงกัลโช่ เซเรีย อาได้ทำงานกับเอซี มิลานในยุคที่มีสตาร์ดังล้นทีม หลังทำผลงานได้น่าพอใจตอนคุมฟิออเรนติน่ามาก่อน
ช่วงพีกสุดของ เตริม คงจะเป็นการพาทัพเติร์กทะลุถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 2008 ก่อนจะพ่ายเยอรมันอย่างน่าเสียดาย 2-3 แถมเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เล่นเอาสะอื้นกันทั้งทีม
ส่วนในระดับสโมสรไม่ต้องบรรยายให้เสียเวลา ครองแชมป์ลีกสูงสุด 8 สมัย เคยทำได้ 4 สมัยรวดอีกต่างหาก รวมทั้งยูฟ่า คัพหรือยูโรปา ลีกในปัจจุบันที่เข่นอาร์เซน่อลลงได้ในการยิงจุดโทษตัดสินเมื่อปี 2000
ไม่ผิดหากจะบอกว่า เตริม สร้างตัวเองให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้เพราะฟุตบอล
ขณะเดียวกันเมื่อผนวกกับบุคลิกที่ดูขรึม ดูจริงจังและมีสไตล์การพูดปลุกเร้าให้คนคล้อยตามได้อย่างดี เขาจึงเป็นที่ครั่นคร้ามและเกรงใจของชาวเติร์ก
แต่กว่าจะเดินมาไกลขนาดนี้ สองข้างทางของ เตริม ต้องฝ่าขวากหนามแหลมคมและอุปสรรคสารพัดเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าดีพอ
เขาเกิดที่เมืองอดาน่า เมืองใหญ่สุดทางตอนใต้ของประเทศ แต่มาจากครอบครัวที่ขัดสนปากกัดตีนถีบ จนดิ้นรนไต่เต้าไปเล่นให้กับอดาน่า เดมิสปอร์สโมสรใหญ่สุดในย่านนั้น
แต่เขาได้เงินค่าจ้างไม่เต็มหน่วยตามสัญญา เพราะต้องกู้ล่วงหน้าไปใช้จ่ายก่อนแล้ว พอรับแต่ละครั้งจึงเหลือใช้ไม่เท่าไร
อย่างไรก็ตามเงินอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ กระนั้น เตริม ไม่ยอมแพ้ ใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปีหลังจากก้าวขึ้นทีมชุดใหญ่ของอดาน่าจนได้เป็นกัปตันทีม โดดเด่นมากในตำแหน่งสวีปเปอร์หรือเซนเตอร์แบ็กตัวสุดท้ายในระบบ 3 คน
จนปี 1974 กาลาตาซารายทีมดังแห่งอิสตันบูลทาบทามไปร่วมด้วย แต่น่าเหลือเชื่อว่าตลอด 11 ปี เตริม ไม่เคยคว้าแชมป์เติร์กลีกาหรือลีกสูงสุดมาครองได้เลย
พอแขวนสตั๊ดเขาได้รับการแนะนำให้เรียนโค้ช กระทั่งได้รับวิชาจาก จุ๊ปป์ แดร์วัลล์ ปรมาจารย์ชาวเยอรมันที่ตอนนั้นโยกจากเยอรมันตะวันตกมาคุมกาลาตาซารายพอดีในช่วงปี 1984
จากนั้นชื่อของ เตริม โด่งดังมากขึ้นตามลำดับ จนอิทธิพลของเขาไม่ได้ถูกตีกรอบแค่ในวงการฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้บุคลิกที่นิ่งเงียบ แต่แววตาแข็งกร้าวดุดันและพร้อมบวกอยู่เสมอแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เขาจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ
เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาไม่พอใจขึ้นมาจะไม่พูดพร่ำให้เสียเวลา มักจะใช้กำลังตัดสินทันที เพื่อนฝูงคนใกล้ชิดมักจะรู้เรื่องนี้ดี เช่นเดียวกับลูกทีมอีกหลายคน จนไม่มีใครกล้าหือ
เตริม สามารถกำราบพวกแตกแถวไร้วินัยได้อย่างดี จนกระทั่งไปแพ้ภัยตัวเองช่วงนั่งเก้าอี้กุนซือเอซี มิลาน
เขารับงานช่วงฤดูร้อนปี 2001 และพอไปถึงก็ปรับเปลี่ยนอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างทันที แบบไม่เห็นหัวลูกทีมขาใหญ่บางคนที่อิทธิพลล้นทะลักเหมือนกัน
ตาริโบ เวสต์ กองหลังทีมชาติไนจีเรีย ที่ย้ายไปอยู่ก่อน เตริม ไม่กี่เดือนเคยออกมาพูดเองว่ามิลานเวลานั้นมีนักเตะหลายคนตั้งตัวเป็นมาเฟีย พวกเขาสามารถกดดันบอร์ดบริหารให้ทำตามความต้องการไม่ยาก
ในเมื่อมีประสบการณ์ตรงเห็นทุกอย่าง เวสต์ จึงกล้าพูดเรื่องนี้ผ่านสื่อ
ส่วน เตริม เข้ามาปรับแท็คติกและระบบการเล่นให้เป็นแบบโททั่ล ฟุตบอลที่ ไรนุส มิเชลส์ เคยคิดค้นเอาไว้ จนนำฮอลแลนด์ประสบความสำเร็จครองยูโร 1988
เขาไปดึง รุย คอสต้า ซึ่งเคยร่วมงานและรู้มือกันดีที่ฟิออเรนติน่า มาเป็นศูนย์กลางในแนวรุก ด้วยสูตร 4-3-1-2 แต่เหลวไม่เป็นท่า เพราะเกมรับหละหลวมมากเสียประตูง่ายเหลือเกิน
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมจู่ๆเกมรับมิลานที่เหนียวแน่นมั่นคงจึงโดนเจาะง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเมื่อคุณดูชื่อกองหลังในเวลานั้นอย่าง เปาโล มัลดินี่ หรือ อเลสซานโดร คอสตากูร์ต้า แล้วคงพอจะเดาได้ไม่ยาก
สองคนนี้คือลูกหม้อมิลาน อีกทั้งเป็นคีย์แมนที่น่าจะกำหนดทิศทางได้ในระดับหนึ่ง
จากที่จะมาเป็นมาเฟียที่มิลาน กลับกลายเป็นว่าโดนขาใหญ่คุมซอยชุดเดิมเล่นงานจนสะบักสะบอม
ดังนั้นเป็นกุนซือที่นั่นได้แค่ 6 เดือนก็ต้องระเห็จออกมา
แต่เหตุการณ์ที่ยืนยันถึงความเกรี้ยวกราดบ้าเลือดของ เตริม ต้องย้อนไปยังกลางปี 2017
ระหว่างที่ง่วนกับการคุมทีมชาติตุรกีอยู่ที่อิสตันบูล เขาได้รับโทรศัพท์จากลูกเขย ซึ่งเปิดร้านขายสเต็กอยู่ที่อลาคาติ เมืองตากอากาศชื่อดังว่ามีเรื่องกับร้านอาหารข้างๆที่ติดกัน
แทนที่จะค่อยๆถามไถ่ต้นตอของเหตุทะเลาะ เตริม ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นเลือดขึ้นหน้าขับรถเหยียบมาจากเมืองหลวงเป็นระยะทาง 350 กิโลเมตร หวังจะมาเคลียร์เอง
มาถึงปุ๊บ เตริม พร้อมด้วยการ์ดอีก 2 คนที่หิ้วมาด้วย รวมถึงลูกเขยไปถล่มร้านอาหารคู่กรณีข้างๆทันที มีการชกต่อยตะลุมบอนกันจนบาดเจ็บไปถึง 4 ราย
น่าสนใจไม่แพ้กันคือเจ้าของร้านอาหารดังกล่าวที่มีเรื่องกันชื่อ เซลาฮัตติ อายด็อกดู ซึ่งเคยเป็นประธานสโมสรอดาน่า เดมิสปอร์ทีมแรกของ เตริม มาก่อน
เชื่อกันว่าทั้งสองน่าจะมีเรื่องบาดหมางกันอยู่แล้ว กระทั่งสบโอกาสจะแก้แค้น เตริม จึงด่วนมาถึงไม่รีรอจัดการเลย
อายด็อกดู เจ็บใจมาก เพราะตัวเองโดนรังแกหาเรื่องก่อนชัดเจน การใช้กำลังความรุนแรงเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง
"ผมต้องการให้ เตริม กับพวกของเขาโดนจับกุมและลงโทษตามกฎหมาย ผมขอย้ำคำนี้เลย" อายด็อกดู ทุบโต๊ะลั่นด้วยความโกรธสุดขีด
ส่วน เตริม นั้นมีกล้องวงจรปิดมัดตัวชัดเจนว่าผิดเต็มๆ ได้แต่เสียงอ่อยบอกว่ารู้สึกเสียใจที่ทำลงไปเช่นนั้น แต่หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้และคิดว่าจำเป็นต้องทำอีก เขาก็ยังจะลุยต่อ
พูดทำนองนี้แสดงให้เห็นเลยว่า เตริม ไม่ได้สำนึกเลยสักนิดเดียว
ว่ากันว่า เตริม รับค่าจ้างจากสมาพันธ์ฟุตบอลตุรกีถึงเดือนละ 290,000 ยูโร ซึ่งถือว่าสูงมากๆ เมื่อกับค่าแรงขั้นต่ำของชาวเติร์กที่ตกเดือนละ 500 ยูโรเท่านั้น
เงินและอำนาจที่มีอยู่ในมือ ทำให้ เตริม มั่นใจมากๆว่าจะช่วยให้แก้ปัญหาต่างๆได้
แล้วก็จริงอย่างนั้น เตริม แค่จ่ายค่าปรับ ไม่ได้โดนลงโทษหนักถึงขั้นติดคุก เพียงแต่ว่าเพื่อภาพลักษณ์อันดีทางสมาพันธ์ตุรกีเลยขอแยกทางด้วย
แต่ตกงานไม่นาน เตริม ก็หวนกลับคุมกาลาตาซารายเป็นครั้งที่ 4 และพาทีมครองแชมป์ลีกสองสมัยรวดทันที
อย่างไรก็ตามมาฤดูกาลนี้ การขับเคี่ยวแย่งแชมป์เร้าใจเข้มข้นมากๆ ผ่าน 26 นัดกาลาตาซาราย อยู่ดับ 3 เท่านั้นยังตามหลังแทร็บซอนสปอร์และอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์
แล้วลีกต้องหยุดลงชั่วคราวเพราะไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก แต่กว่าจะประกาศปิดไปก่อน ก็ปล่อยให้เกมเตะกันยืดเยื้อมาพักใหญ่
นอกจาก จอห์น โอบี มิเกล ที่อยู่ไม่ไหวกลัวติดเชื้อ จนต้องยกเลิกสัญญาเองกับแท็บซอนสปอร์ เตริม นี่แหล่ะเป็นอีกคนที่ออกมาเรียกร้องให้เบรกไปก่อน ไม่อย่างนั้นอาจลำบากกันหมด
สิ้นเสียง เตริม ไม่เท่าไรลีกประกาศหยุด แต่หลังจากนั้นไม่นานอีกเช่นกัน เตริม เจอข่าวร้ายที่สุดเมื่อตรวจเจอไวรัสโควิด-19
"ไม่ต้องห่วง ผมปลอดภัยดี" เตริม กล่าวไว้สั้นๆแค่นี้ตามสไตล์ไม่พูดเยอะ
อย่างไรก็ตามด้วยวัย 66 ปี ทำให้หลายคนอดวิตกไม่ได้ว่าจะเจออะไรบ้างระหว่างรักษาตัว ในเมื่อไวรัสตัวนี้คร่าชีวิตผู้สูงอายุไปมากมายหลายหมื่นคน
ตลอดชีวิตไม่ว่าจะตอนเป็นนักเตะหรือกุนซือเขาแทบไม่กลัวอะไรเลย จิตใจแข็งแกร่งมากๆ ผ่านศึกมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
บางทีนี่อาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากสุดครั้งหนึ่งในชีวิตของ เตริม แล้ว
เอาใจช่วยให้หายไวๆ เพราะนี่คือบุคลากรฟุตบอลที่สำคัญสุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของตุรกี
ฟุตบอลกำลังรอเขากลับมาอีกครั้ง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา