25 มี.ค. 2020 เวลา 05:46 • การศึกษา
เจิงซานฆ่าคน
เจิงซาน เป็นศิษย์คนหนึ่งของขงจื๊อ เจิงซานมีชื่อเสียงมาก ในความเป็นคน กตัญญูต่อบิดา มารดา เจิงซานเป็นคนสุขุม รอบคอบมาก ทั้งการพูดจาและการทำกิจการงานต่างๆ มารดา ของเจิงซานจึงมีความเชื่อถือและไว้วางใจ เจิงซานเป็นอันมาก
อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่มารดาของเจิงซานกำลังนั่งทอผ้า อยู่ในบ้านก็มี เพื่อนบ้านคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาบอกว่า “เจิงซานฆ่าคน”
แต่เมื่อมารดาของเจิงซานได้ยิน นางกลับไม่ตระหนกตกใจ อะไรเลย นางยังคงนั่งก้มศีรษะทอผ้าต่อไปตามปกติ พร้อมกับ กล่าวตอบไปอย่างเยือกเย็น ว่า “ไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ท่านต้องฟังมาผิดแน่ ๆ เจิงซานลูกของฉันไม่มีทางฆ่าใครได้”
เพื่อนบ้านคนนั้นเห็นทีท่าของมารดาเจิงซานสงบนิ่ง ไม่มี อะไรเปลี่ยนแปลง และไม่เชื่อคำพูดของตนโดยสิ้นเชิงก็จนปัญญา ได้แต่เดินคอตกกลับบ้านไป
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก็มีชายอีกคนหนึ่งวิ่งมาที่บ้านของ มารดาเจิงซาน แล้วแจ้งข่าวเรื่องเจิงซานฆ่าคนอีกครั้ง ซึ่งชายคนนี้ คือเพื่อนสนิทของมารดาเจิงซานและเขามีตํ่าแหน่งในสังคมสูงมาก คำพูดของเขาโดยส่วนใหญ่ล้วน เชื่อถือได้ แต่ทว่ามารดาของเจิง ซานซึ่งมีความเชื่อถือในบุตรชายของตน มากกว่ายังคงไม่เชื่อข่าว นี้ นางยังคงนั่งทอผ้าต่อไปตามเดิม
หลังจากเพื่อนของมารดาเจิงซานเดินจากไปไม่นานนัก ก็มี ชายอีกคนหนึ่ง วิ่งเข้ามาเหงื่อท่วมตัว ละลํ่าละลักบอกมารดาของ เจิงซานว่า “ขณะนี้เจิงซาน ลูกชายของเธอถูกจับได้แล้ว”
มารดาของเจิงซานได้ยินคำพูดนี้แล้ว ความเชื่อมั่นที่มีต่อ บุตรชายของตนก็สั่นคลอน เธอตกใจจนใบหน้าซีดเผือด รีบลุก จากเครื่องทอผ้า ชายผู้นั้น แนะนำมารดาของเจิงซานให้รีบหนีไป โดยเร็วเพราะกฎหมายในสมัยนั้น ครอบครัวของฆาตกรจะต้อง ได้รับโทษเช่นเดียวกับฆาตกร
ในเวลานั้นเอง เจิงซานเดินทางกลับมาถึงบ้านพอดี เขาได้ บอกมารดาว่า “หลังจากที่ผมเลิกเรียน ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า ฆาตกรที่ฆ่าคนนั้นมีชื่อและนามสกุล เดียวกันกับผม เขาชื่อเจิงซานเหมือน กัน คนอื่น ๆ อาจจะเข้าใจผิด
คิดว่าเป็นผมที่ไปฆ่าคนเสียแล้ว”
มารดาของเจิงซานจึงกล่าวกับลูกชายว่า
“แม่รู้ว่าลูกไม่ไป ฆ่าใครแน่นอน แต่ใคร ๆ ก็พูดอย่างนั้นจนกระทั่งแม่เองก็เริ่ม คล้อยตาม เชื่อตามข่าวลือนั้นไปแล้ว ข่าวลือนี่ช่างน่ากลัวจริง ๆ”
ท่านทั้งหลาย...
ในยุคปัจจุบันถือเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร กระแสข่าวเป็น เรื่องที่มีพลังมากจนน่ากลัว ลองสำรวจดูเถิดว่า ในแต่ละวันเรา ได้หลงเชื่อคล้อยตามข่าวลือ หรือความคิดเห็นของบุคคลทั้งหลาย ที่เผยแพร่ พูดต่อ ๆ กันมาโดยไม่มี หลักฐานชัดเจนไปบ้างแล้ว หรือไม่ มากน้อยเพียงใด แม้คนที่หนักแน่น หรือเรื่องที่เห็นอยู่ ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ยังอาจสั่นคลอนได้ด้วยกระแสข่าว
จากนิทานเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า ขนาดความเชื่อถือของแม่ที่มี ต่อลูกที่ประพฤติดีมาตลอดชีวิต ยังสั่นคลอนได้ด้วยการพูดซำๆ ของคนเพียง ๓ คน แล้วหากกระแสข่าวที่เกิดจากแหล่งข่าว เดียวกันที่เป็นเท็จ แต่ถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนหลากหลาย สาขาซำๆ กัน เราเสพข่าวนั้นแล้วจะเข้าใจผิด หลงเชื่อคล้อย ตามหรือไม่
ดังนั้นการตัดสินคนจึงต้องดูที่การกระทำคุณธรรมของเขา ที่แสดงออกมา ตลอดชีวิต มิใช่เพียงข่าวที่พูดต่อ ๆ กันมา ให้ยึดหลักว่า “บัณฑิตย่อมใคร่ ครวญอย่างรอบคอบโดยเหตุและ ผลจนชัดเจนดีแล้วจึงเชื่อ”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา