1 เม.ย. 2020 เวลา 11:12 • ประวัติศาสตร์
โรงเลี้ยงเป็ดไฟไหม้
cr:pixabay
ถ้าใครเคยอ่านตอนที่เราเขียนเรื่องทำโรงเลี้ยงเป็ด วันนี้จะมาเล่าต่อนะคะ
ตอนสร้างเสร็จใหม่ๆแค่นี้ 30000
หลังจากที่เลี้ยงเป็ดไม่ประสบผลสำเร็จ โรงที่เราสร้าง พ่อก็ทำเป็นโรงเลี้ยงไก่แทน ซึ่งปัจจุบัน พ่อต่อเติมเยอะมากๆ เป็น มีทั้งไก่ชน ไก่เนื้อ และมีน้องเป็ดตัวผู้ 1 ตัวเมีย 4 ไว้กินไข่
พ่อก็เลี้ยงแล้วก็ขายให้นายหน้าที่มารับไปส่งลาว เราเคยจดรายการอาหารไก่ และแกลบ และสรุปเงินตอนขายได้ มันขาดทุน บางรอบก็ได้กำไรไม่กี่ร้อย
เราขอให้พ่อเลิกเพราะเห็นแกเหนื่อย แต่พ่อไม่ยอม ฮ่าๆๆๆ ตามประสาคนแก่บอกเหงา
และแล้ว จู่ๆ วันนึง
13 กุมภาพันธ์ 63
เรากำลังจะออกจากโรงพยาบาล เพราะปอดรั่วต้องนอน โรงพยาบาล 4 คืน ก็รอพ่อมารับ ตอนนั้นดีใจมาก แบบว่า ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เย่ๆๆๆ
และแล้วเหมือนภูเขาไฟถล่ม
แม่โทรมา.......
"ลูก!!!!! ไฟไหม้สวน"
"เล้าเป็ด ไหม้หมดเกลี้ยงเลย"
เอิ่มมมม... ความสุขหายไปแล้ว กำลังอยู่ในภาวะช็อค และมึนๆ อึนๆ นึกในใจฝันไปป่าววะ ฮ่าๆๆๆ
แม่ส่งรูปมา
เอิ่มมม.... ไหม้จริงๆ
ตอนนั้นนั่งขำ ขำทั้งน้ำตา คือ กำลังขำในโชคชะตา ว่า เฮ้ย!! พึ่งออกจากโรงพยาบาล รายรับก็ไม่มี ใช้เงินเก็บมาระยะนึงละ มาเจอไฟไหม้เล้าเป็ด ที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงเงินช้านตอนเป็นมนุษย์เงินเดือน
ไหม้หมดเกลี้ยงเลย นี่มันอะไรในชีวิต ฮ่าๆๆๆๆ
พอตั้งสติได้ เออ ช่างมัน ดีออก พ่อจะได้ไม่ต้องเลี้ยงละ อยู่บ้านเฉยๆปลูกผักพอ
นึกขึ้นได้ น้องขุนทองหมาสวนตายมั๊ยเนี่ย ปกติพ่อมัดมันไว้ที่เล้าเป็ด
เดชะบุญมันหนีรอดออกมาได้
ขุนทองรอดตายแล้ว
ถามแม่อะไรเสียหายบ้าง
ก็มี ไก่ ร้อยกว่าตัว ทั้งไก่ชนไก่เลี้ยง ที่รอดก็มีมันบินหนีทัน
แม่เป็ด 2 ตัวกำลังนอนกกไข่ หนีออกมาไม่ทันตาย
สายยางสูบน้ำ อันละพันกว่าบาท นี่ก็ซื้อตอนทำงาน
บันไดเหล็ก 3500 นี่ก็ซื้อตอนทำงาน
ชะอมหลายสิบต้นไหม้เกรียม กลายเป็นชะอมทอดกรอบ ฮ่าๆๆๆ
ผักหวานป่า ไหม้ไปสองต้น แต่ๆๆๆๆ ความอัศจรรย์ของน้องผักหวานป่า หลังจากไฟไหม้ นึกว่าจะเสียชีวิตตามน้องชะอม
ไม่จร้า เจริญงอกงามยิ่งกว่าเดิม งงในงง ฮ่า
ผักหวานออกยอดดีมากๆหลังไฟไหม้
ประเมินค่าเสียหายก็ค่อนข้างเยอะค่ะ หลายหมื่น
เทศบาลช่วยเหลือ 5000 บาท
แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้น พ่อของเราเอง มิได้เลิกล้มความตั้งใจที่จะเลี้ยงไก่ต่อ พ่อก็ยังคงมุ่งมั่นทำเล้าไก่เอง ด้วยความที่พ่อเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้น ชาวบ้านที่ใจดี ก็ขนไม้ ขนกระเบื้อง มาให้เยอะมากๆ และมาช่วยพ่อสร้างด้วย
เราก็คงไม่สามารถทำสิ่งใดได้ เนื่องจากเป็นความสุขของพ่อ ก็ปล่อยแกทำไป
ไฟไหม้ในครั้งนี้ทำให้เราได้ข้อคิดหลายๆอย่าง
อย่างแรก....
อย่าไปจมกับ ความสุขหรือความทุกข์นาน เพราะ มันไม่ยั่งยืนจริงๆ
.... ดูเราสิ ดีใจสุดๆ ออกจากโรงพยาบาล ดีใจได้แค่เสี้ยววินาที ความทุกข์ก็ถาโถมมาโดยมิได้ตั้งตัวเลยทีเดียว
อย่างที่สอง....
อย่าไปยึดติดกับสิ่งของ สิ่งของที่เราหามา วันนึงมันก็เสื่อมสลายไปตามกาลและเวลา ตราบใดที่เรามีลมหายใจเราก็หาใหม่ได้
อย่างที่สาม....
ดูผักหวานป่าสิ โดนไฟไหม้เกรียม แต่กลับงอกงามกว่าเดิม
เราต้องอึดและผ่านความเลวร้ายของโลกใบนี้ไปให้ได้ แล้วเราจะต้องเจอความงามงามของชีวิตแน่นอน
จริงๆ ชีวิตก็มีทั้งทุกข์ และ สุข แค่เราจะมักจมกับความทุกข์จนบางทีความสุขอาจเข้าไม่ถึงเรา
ออกจากความทุกข์ให้ไว เพื่อรอความสุขกันดีกว่านะคะ
ฝากติดตามด้วยน๊า.......
โฆษณา