26 มี.ค. 2020 เวลา 02:32
นี่คือการสรุปความสำหรับการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ จากรองนายกรัฐมนตรี วิศณุ เครืองาม ในการอธิบายให้เข้าใจอำนาจ ขอบเขตของกฎหมายนี้ให้มากขึ้น ซึ่งผมจะยกแค่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของประชาชนมาสรุปความเท่านั้น ซึ่งจะมีเนื้อหาทั้งที่อยู่ในช่วงเวลาถ่ายทอดสด และไม่มีในถ่ายทอดสด เนื่องจากผมเองอยู่ในห้องแถลงข่าวที่ศูนย์โควิด-19 ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะได้เนื้อหาจากที่ผู้สื่อข่าวถามกลับไปยังรัฐมนตรีแล้วได้คำตอบกลับมาด้วย
📣 การประกาศครั้งนี้เป็นการประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก ระยะเวลา 1 เดือนเศษ สาเหตุที่ต้องประกาศบังคับใช้ทั่วประเทศเพราะมีการระบาดของไวรัสทั่วทั้งประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้
❓คำถามคือว่า เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่าจะมีการนำ พ.ร.ก. ฉุกเฉินนี้มาใช้ แต่ทำไมถึงมีการทิ้งเวลาไว้ 2 วัน ถึงจะเริ่มบังคับใช้ แสดงว่ามันไม่ฉุกเฉินจริงๆ ใช่หรือไม่
⭕ คำตอบก็คือ เพราะว่าจะต้องให้เวลาหน่วยงานต่างๆ เตรียมตัว ในการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมที่สุด แม้จะมีการประสานไปยังส่วนต่างๆ แล้ว รวมทั้งการบอกประชาชนว่า จะใช้กฎหมายนี้แล้วนะ เมื่อรู้แช้วจะได้เตรียมความพร้อมก่อนจะบังคับใช้ในตอนเที่ยงคืนนี้เป็นต้นไป
ต่อมาว่าด้วยเรื่องของคำสั่งของ พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ ที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับประชาชน
คือคำสั่งหรือข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับนี้มีข้อย่อยๆ ประมาณ 16 ข้อ และลงในราชกิจานุเบกษา โดยสรุปจะมีผลกับกับประชาชนโดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ ห้ามทำ ให้ทำ ควรทำ
🔈**มาตรการเกี่ยวกับการ “ห้ามทำ”**
❎ ห้ามเข้าพื้นที่เขตกำหนด หมายถึงการห้ามเข้าพื้นที่ที่มีการสั่งปิด เช่น สนามกีฬา สถานบันเทิง เป็นต้น ซึ่งมีคำสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ไปก่อนหน้านี้แล้วทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่หากจังหวัดใด ผู้ว่าฯ ยังไม่ได้สั่งห้าม หรือสั่งปิด ก็ต้องสั่งปิดทันที
แต่การสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องสั่งห้ามหรือปิดเหมือนกันทุกแห่งเสมอไป เพราะมันมีความเหมาะสมแตกต่างกัน เช่น สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างหาดต่างๆ ก็ต้องมีการพิจารณาเป็นแห่งๆ ไป ยกตัวอย่างหาดบางแสน ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมารวมตัวชุมนุมก็ต้องให้ทางจังหวัดพิจารณาว่าจะปิดหรือไม่ แต่หากเป็นหาดที่ไม่ได้มีผู้มาท่องเที่ยวก็อาจจะไม่ต้องสั่งปิด ให้ดูความเหมาะสมเป็นจุดๆ ไป
หากใครที่ฝ่าฝืนเข้าไปในสถานที่สั่งปิดแล้ว จะมีโทษหนักกว่ากฎหมายปกติ ซึ่งจนถึงวันนี้มีการประกาศปิดสถานที่ต่างๆ ไปแล้ว 20,000 แห่งทั่วประเทศ
❎ ห้ามผู้คนจากทุกประเทศ ทุกสัญชาติ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทุกๆ ช่องทาง ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ซึ่งหมายถึงทั้งท่าเรือ สนามบิน หรือตามเขตชายแดน
ยกเว้นผู้ที่มีสัญชาติไทย หรือว่าเป็นคนไทยที่จะสามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญมาตราที่ 39 กำหนดว่า บุคคนสัญชาติไทยมีสิทธิที่จะสามารถเดินทางกลับประเทศได้ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เพียงแต่จะต้องมีเอกสารรับรองต่างๆ เช่น ใบรับรองทางการแพทย์ เพื่อให้ตัวเองสามารถขึ้นเครื่องบินได้ (Fit to Fly) ซึ่งตอนนี้เครื่องบินที่เดินทางเข้าประเทศไทยก็แทบจะไม่มีแล้ว ฉะนั้นถึงแม้ว่าอยากจะกลับประเทศแต่ก็อาจจะลำบากมากขึ้น เพราะไม่ได้มีไฟต์บินเข้ามา ส่วนชาวต่างชาติก็จะไม่มีสิทธิเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว
1
ยกเว้นนักการทูตจากประเทศต่างๆ และครอบครัวสามารถเข้ามาได้ เพราะจะต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์เหมือนคนไทย และหาเครื่องบินเดินทางเข้ามาให้ได้นั่นเอง
ผู้ลำเลียงการขนส่งสินค้าที่เข้ามาทางชายแดน ยังสามารถลำเลียงขนส่งสินค้าเข้ามาได้ และต้องกลับออกไปโดยเร็ว
ผู้ที่เป็นคนขับรถขนส่ง นักบิน ลูกเรือ ก็ยังเข้าได้ แต่ก็ต้องรีบออกไปโดยเร็วเช่นกัน
บุคคลที่ได้รับการยกเว้นจากนายกรัฐมนตรี แต่จะต้องมีเอกสารหลักฐานต่างๆ ประกอบถึงจะเข้ามาได้
❎ ห้ามการชุมนุมหมู่คนจำนวนมากๆ เพราะการชุมนุมในที่ต่างๆ ถือเป็นจุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส
ห้ามเผยแพร่ข่าวปลอมหรือ Fake News เกี่ยวกับโควิด ที่จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคมและเกิดความเสียหายขึ้น แต่การแสดงความเห็นอื่นๆ การแสดงความเห็นทางการเมืองยังสามารถทำได้ตามปกติ ตราบใดที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย
🔈**มาตรการเกี่ยวกับการ “การให้”**
☑️ ให้ส่วนราชการเตรียมการให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลัง เตรียมบุคลากร สถานที่ เตรียมยา หรือแม้แต่โรงแรม ศาลาวัด หอประชุม หรืออาคารของเอกชน เพื่อที่จะเตรียมเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อกักกันและรักษาโรค ซึ่งตอนนี้มี โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลทหาร โรงพยาบาลตำรวจ หรือแม้แต่โรงพยาบาลเอกชนได้เตรียมเตียงรักษา ห้องรักษา หรือแม้แต่โรงพยาบาลสนามไว้แล้ว
🔈**มาตรการเกี่ยวกับการ “ควรทำ”**
🔷 ข้อกำหนดฉบับที่ 1 ถือเป็นการบอกกับประชาชนว่า ว่าสิ่งไหนที่ประชาชน ควรทำ หรือเป็นคำแนะนำ ยังไม่ได้เป็นการห้ามทำ แต่ยกเว้นบุคคล 3 ประเภท ที่แนะนำไม่ควรออกจากบ้านหากไม่จำเป็นได้แก่
- บุคคลที่อายุเกิน 70 ปี
- บุคคลที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคระบบทางเดินหายใจ
- เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 5 ขวบลงมา
🔷 ขอให้บุคคลเหล่านี้อยู่แต่ในบ้าน เพราะเป็นบุคคลที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย และออกจากบ้านมาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
🚍 เรื่องการเดินทาง คือไม่ได้ห้ามการเดินทางอย่างเบ็ดเสร็จ แต่มาตรการนี้จะมีการทำให้การเดินทางมีความยากลำบากมากขึ้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการเดินทางของประชาชน ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ในพื้นที่รอยต่อข้ามจังหวัด ส่วนประชาชนที่อาศัยยานพาหนะเดินทางจะต้องนั่งห่างๆ กัน ตาม หลัก SocialDistancing และเจ้าหน้าที่จะสามารถเรียกให้ตรวจอุณภูมิได้ตลอดเวลาทุกๆ ครั้ง
และการเดินทางไปไหนมาไหนนั้นประชาชนต้องมีการพกมือถือเพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว และพกบัตรประชาชน เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่สามารถลงทะเบียนตรจวสอบได้ทุกเมื่อ
❎ ส่วนเรื่องการปิดประเทศ ยืนยันยังไม่ปิดประเทศ เพราะเราเปิดให้คนไทยกลับเข้ามาได้ ยกเว้นชาวต่างประเทศห้ามเดินทางเข้ามา และคนไทยที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์
❎ การปิดเมือง ก็ยัง ยังสามารถเดินทางได้อยู่ แต่จะใช้มาตรการทำให้ประชาชนยุ่งยากลำบากในการเดินทาง เพื่อไม่อยากให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้สะดวก ป้องกันการเคลื่อนย้ายของประชาชนไม่ให้กระจายเชื้อ และถ้ามีการตรวจพบว่าอุณภูมิสูงระหว่างเดินทาง ก็จะให้ลงจากรถและส่งไปกักกันทันที
❎ การปิดบ้าน ก็ยัง ยกเว้นบุคคลคน 3 เภทอย่างที่กล่าวไป แต่คนทั่วไปยังไปทำงานได้ตามปกติ
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายสนับสนุนให้เปิดและขอร้องว่าอย่าปิด อย่าหยุดทำงานด้วย เช่น โรงงาน เปิดทำการตามปกติ ธนาคาร ร้านอาหาร(ซื้อกลับไปกินที่บ้าน) ห้างสรรพสินค้า (เปิดแค่แผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน) การบริการขนส่งสินค้ายังทำได้ตามปกติ การซื้อหาอาหารได้ตามปกติ ประชาชนยังไปซื้อได้ตามปกติ แต่ห้ามกักตุนสินค้า
ธุรกิจหลักทรัพย์ สถาบันการเงิน สถานที่ราชการ โรงพัก โรงพยาบาล ยังเปิดตามปกติ
❓คำถามว่าวันนี้ประกาศเคอร์ฟิวหรือยัง วันนี้ยังไม่ได้ประกาศเคอร์ฟิว การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่เหมือนกับเคอร์ฟิว แต่การเคอร์ฟิวจะมีการประกาศบังคับใช้ในระยะต่อไป
🤔 ส่วนเรื่องความกังวลในทรัพย์สิน การปล้น จี้ ลักทรัพย์ ตอนนี้ได้ตั้งเพิ่มเข้มงวดมากขึ้น เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่เข้มข้นกว่าเดิม และมีบทลงโทษทางกฎหมายที่เฉียบขาด
🤔 ส่วนกรณีของลูกหนี้ธนาคาร สินเชื่อต่างๆ ได้หารือกับกระทรวงการคลังว่าห้ามยึดทรัพย์ สั่งฟ้อง หรืออายัดทรัพย์ ซึ่งจะมีช่วยเหลือเยียวยาลูกหนี้ต่อไป
💵 ส่วนเงินช่วยเหลือ 5,000 กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ทุกคนสามารถลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างรายวัน หรือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และหากมีการลงทะเบียนเกิน 3 ล้านคน ก็จะขยายเป็น 4 ล้าน 5 ล้าน 6 ล้านคน ไปเรื่อยๆ และยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาว่าหมดเขตเมื่อใด
🎈งานบวช งานแต่ง งานศพ หรืองานที่มีกำหนดการณ์มาแล้ว ยังสามารถจัดได้ แต่ให้อยู่ในความเหมาะสมและมีมาตรการป้องกันการระบาดด้วย
โฆษณา