#หยุดโควิดใน15 เมย.
คิดว่าหลายท่านคงจะได้เห็นวิดีโอคลิปของคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชที่ได้ออกมาอธิบายสถานการณ์ของโรคโควิด-19 และบอกว่าได้นำข้อมูล นี้ เสนอนายกรัฐมนตรีแล้วเป็นที่มาของการประกาศพระราชกำหนด สถานการณ์ฉุกเฉินในปัจจุบัน
เนื้อหาสำคัญของข้อมูลนี้ได้แบ่งสถานการณ์ออกเป็น 2 แบบใหญ่คือ
1. ถ้าเราไม่ทำอะไรปล่อยไปแบบนี้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่จะเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 33% และในวันที่ 15 เมษายนจะมีผู้ป่วยโรคไวรัสนี้ทั่วประเทศราว 350,000 คน มีผู้เสียชีวิตราว 7,000 คน จำนวนผู้ป่วยจะล้นโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ได้รับการรักษาที่ดีต้องนอนรอความตาย
2. ถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน อยู่บ้านไม่ไปพบปะสังสรรค์ ล้างมือ ดูแลความสะอาด จนลดอัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อใหม่ลงมาได้เหลือ 20% ต่อวัน
ในวันที่ 15 เมษายนประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดราว 24,000 คนมีผู้เสียชีวิตราว 500 คน จำนวนผู้ป่วยยังอยู่ในระดับที่หมอและโรงพยาบาลรับมืออยู่
อาตมภาพขอให้ความเห็นเพิ่มเติมดังนี้
เนื่องจากโรคนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่วันที่ 15 เมษายน ดังนั้นถ้าเราปล่อยให้อัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อเป็นวันละ 20% หลังวันที่ 15 เมษายนจำนวนผู้ติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นอีกจนกระทั่งล้นโรงพยาบาลทางออกที่ดีที่สุดคือ ทุกคนจะต้องช่วยกันปฏิบัติตามข้อแนะนำในการป้องกันโรค ซึ่งตอนนี้มีออกมามากมายตามสื่อต่างๆทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เหลือแต่เพียงว่าจะต้องช่วยกันปฏิบัติ ตามข้อแนะนำนั้นอย่างจริงจังและลดอัตราผู้ติดเชื้อใหม่ให้ต่ำลงอีกให้ได้
ถ้าลดอัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันเหลือ 10% ในวันที่ 15 เมษา ยนเราจะมีผู้ป่วยโรคนี้ราว 10,000 คน
ถ้าลดอัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อใหม่เหลือวันละ 7% ในวันที่ 15 เมษายนประ เทศไทยจะมีผู้ป่วยโรคนี้ราว 5,000 คน
และที่ดีที่สุดก็คือ หากช่วยกันจนกระทั่งลดอัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อใหม่ เหลือวันละ 1% จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันจะน้อยกว่าจำนวนผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้วกลับบ้าน เพราะผู้ป่วยโรคนี้โดยเฉลี่ยใช้เวลารักษาในโรง พยาบาลราว 3-4 สัปดาห์
จำนวนผู้ป่วยในแต่ละวันจะลดลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายโรคนี้จะหมดไปจากประ เทศไทย
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัยที่เป็นไปไม่ได้ เพราะขนาดเกาหลีช่วงแรกพลาด ปล่อยให้โรคระบาดไปถึง เกือบ 10,000 คน ยังสามารถควบคุมโรคนี้จนกระทั่งปัจจุบันอัตราการติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่เหลือเพียงประมาณวันละ 1 % เท่านั้น โดยไม่ต้องปิดประเทศไม่ต้องห้ามคนออกจากบ้าน มีการควบคุมพิเศษเฉพาะในพื้นที่เชื้อระบาดรุนแรงเท่านั้น
ประเทศไทยโชคดีที่อยู่ในเขตร้อน ทำให้เชื้อไวรัสนี้ระบาดได้ยากกว่าประเทศในเมืองหนาวมาก และผู้ป่วยก็จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าทำให้อัตราการ ตายในประเทศไทยต่ำ ในยุโรปและอเมริกาตอนนี้เขาก็รอลุ้นให้เข้าหน้าร้อนอุณหภูมิสูงขึ้น จะได้ช่วยยับยั้งการระบาดของไวรัส แต่หน้าร้อนของยุโรป และอเมริกาอุณหภูมิก็แค่ราว 30 องศา แต่บ้านเราตอนนี้อุณหภูมิ 38-39 องศา เชื้อไวรัสออกจากตัวคนมาเจออากาศขนาดนี้พักเดี๋ยวก็ตาย
ดังนั้นประเทศไทยยังมีโอกาสมาก ขอแต่เพียงให้ชาวไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเท่านั้น เราจะสามารถหยุดยั้งโรคไวรัสโควิดนี้ได้ แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือ “ชาวไทยทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่ง ครัด”
#หยุดโควิดใน 15 เมย.
โดย : พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ (แพทยศาสตร์ จุฬาปี 2528)
- 43
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
