26 มี.ค. 2020 เวลา 15:12 • ปรัชญา
พลังงานที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้...โดยไม่ใช่เรื่องเร้นลับ
ในช่วงที่ยังต้องทำงานไม่ได้หยุดหรือ WFH เหมือนหลาย ๆ ท่าน มีรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ด้วยกันซึ่งเป็นสายบุญ นำวัตถุมงคลมามอบให้ 3 ชิ้น บอกให้เก็บไว้บูชาเป็นขวัญและกำลังใจ
วัตถุมงคลชิ้นแรกเป็นพระผงสีขาว ขนาดประมาณเหรียญบาท ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธชินราช ด้านหลังเป็นรูปพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่ ทราบว่า พระผงนี้ ชื่อ พระคำข้าว จัดสร้างโดยพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี เมื่อประมาณ ปี 2533 - 2534 (ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพในปี พ.ศ.2535) เหตุที่ได้ชื่อว่าพระคำข้าว เพราะส่วนประกอบสำคัญขององค์พระ คือ ข้าวสุกที่หลวงพ่อเคี้ยวฉันและเจริญสติภาวนา จากนั้นจึงคายออกมาเก็บไว้สร้างวัตถุมงคลแจกจ่ายลูกศิษย์
วัตถุมงคลชิ้นที่สอง เป็นพระผงสีแดง ขนาดใกล้เคียงกับพระคำข้าว ด้านหน้าเป็นรูปพระปางสมาธิ ดูเหมือนจะเป็นหลวงพ่อโสธร แต่ทราบว่า ชื่อ พระหางหมาก จัดสร้างที่วัดเดียวกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน โดยที่มาของชื่อ พระหางหมาก เพราะส่วนประกอบสำคัญ คือ ชานหมากที่หลวงพ่อเคี้ยว ที่ทำให้พระมีสีแดง ๆ
วัตถุมงคลชิ้นที่สาม เป็นแหนบทองเหลือง รูปพระสงฆ์ มีอักษรระบุชื่อ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ผู้ให้บอกว่า ได้รับจากแจกจากหลวงพ่อเมื่อประมาณปี 2532
สรุปแล้ววัตถุมงคลสามชิ้น เป็นวัตถุมงคลที่สร้างโดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือชื่อทางการ คือ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติที่รุ่นพี่คนที่มอบวัตถุมงคลนั้นให้ผมมา แกเคารพนับถือ และในส่วนตัวผมเองก็เคารพนับถือด้วยเหมือนกัน เพราะเคยฟังเทปธรรมะคำสอนของท่าน โดยเฉพาะเรื่องการฝึกสมาธิิ
สำหรับเหตุผลที่รุ่นพี่แกมอบวัตถุมงคลทั้งสามชิ้นให้ผม รวมถึงคนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังต้องทำงานท่ามกลางความเสี่ยงต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 เพราะในบรดาลูกศิษย์และคนที่นับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำมีความเชื่อ (ย้ำ! ว่าเป็นความเชื่อ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) อยู่อย่างหนึ่งว่า วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้าง ได้มีการอธิษฐานจิตให้มีพลังงานปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่าง ๆ รวมถึงภัยจากรังสีนิวเคลียร์
รุ่นพี่แกบอกว่า แกพอมีเก็บไว้อยู่ เลยเอามาแบ่งปันแจกจ่าย อย่างน้อยก็เป็นเกราะป้องกันหรือบำบัด บรรเทาอาการจิตตก สติกระเจิดกระเจิง ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันและรักษาสุขภาพที่เราทำกันอยู่แล้ว
ผมรับวัตถุมงคลทั้งสามชิ้นมาจากรุ่นพี่ แล้วทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น ซาบซ่านขึ้นมา
ที่มาของพลังงานที่ก่อให้เกิดความรู้สึกดังกล่าว จะมาจากพลังงานในวัตถุมงคลหรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะไม่ได้มีความสามารถในการจับพลังงานวัตถุมงคลได้
แต่ที่แน่ ๆ ที่ผมสัมผัสได้ คือ พลังแห่งมิตรภาพ ความห่วงใย และน้ำใจของรุ่นพี่ ที่ถูกส่งมอบมาพร้อมกับวัตถุมงคล ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่า โดยเฉพาะในยามที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้
และขอแบ่งปันพลังงานนี้แผ่ออกไปให้ผู้อ่านทุกท่าน และพี่น้องร่วมสถานการณ์ทุกคนในยามนี้ ขอให้มีพลังก้าวต่อไปด้วยกันครับ
โฆษณา