27 มี.ค. 2020 เวลา 06:17 • กีฬา
บ่ายนี้มีเรื่องเล่า: มาเกเลเล่ โรล
.. .. . .. ... . ... .. . ... .. .. ... .. . .. ...
.
"เขาไม่มีความสูงพอจะเล่นลูกกลางอากาศ และแทบไม่เคยจะจ่ายบอลไปไกลเกินกว่าสามเมตรด้วยซ้ำ" ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานของเรอัล มาดริดในยุคกาลาคติกอสเล่าถึงเหตุผลที่เขาต้องการขายมาเกเลเล่ออกไป
.
"นักเตะรุ่นใหม่ ๆ จะถูกดึงเข้ามาในเบร์นาเบว และชื่อของมาเกเลเล่จะค่อย ๆ เลือนหายไป"
.. .. . .. ... . ... .. . ... .. .. ... .. . .. ...
.
แม้จะเป็นส่วนเกินในสายตาของ เปเรซ ทว่ากับ เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือของเชลซีในเวลานั้นกลับมองเห็นคุณค่าในตัวของมาเกเลเล่เข้าแบบเต็มรัก
.
"โคล้ดคือนักเตะคนเดียวที่ผมต้องการอย่างแท้จริง" ขงเบ้งชาวอิตาเลียนกล่าว
.
"เมื่ออบราโมวิชเข้ามาใหม่ ๆ ผมเสนอชื่อนักเตะที่ต้องการไปคนแรกคือ 'โคล้ด มาเกเลเล่' เพราะว่าเขานั้นคือ ‘สถาปนิกแห่งกาลาคติกอส’ ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ นี่คือนักเตะที่เป็นกุญแจสำคัญตรงกลางสนาม เป็นคนที่เล่นเกมของตัวเองด้วยการหยุดคู่แข่ง และก็ค่อย ๆ สร้างเกมจากฝั่งตัวเองอย่างอัจฉริยะ"
.
หากคิดว่าคำพูดของรานิเอรี่ฟังดูเกินจริงไป สตีฟ แม็คมานามาน ก็เป็นอีกคนที่ออกโรงว่าเสียดายสุดชีวิตที่มาเกเลเล่ต้องย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ในตอนนั้น
.
"โคล้ด คือของขวัญสำหรับเกมฟุตบอล เขาคือคนที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เสมอต้นเสมอปลายในทุก ๆ นัด มาทุก ๆ ปี น่าเสียใจที่ทุกคนไม่เคยนึกถึงเขาเลย แต่ถ้าคุณไปถามนักเตะมาดริดในตอนนั้นนะ ว่าใครคือนักเตะที่ดีที่สุด ทุกคนจะตอบแบบเดียวกันนั่นคือโคล้ด"
.
เช่นเดียวกับ ซีเนอดีน ซีดาน ที่ถึงกับเปรียบเทียบการขาดหายไปของ มาเกเลเล่ ว่า เรอัล มาดริด นั้นกำลังสูญเสียหัวใจของทีมไปเลยทีเดียว
.
"คุณจะมีเบนท์ลี่ย์สีทองไปทำไม ในเมื่อมันไร้ซึ่งเครื่องยนตร์ชั้นดี"
.
การเสียมาเกเลเล่ไปคือจุดล่มสลายของกาลาคติกอส และกลายเป็นจุดเริ่มต้นรุ่งอรุณใหม่ของเชลซีในเวลาเดียวกัน
.. .. . .. ... . ... .. . ... .. .. ... .. . .. ...
.
หากเด็กรุ่นใหม่ไม่ทันดูการเล่นระดับโลกของ มาเกเลเล่ ว่าเนียนตาขนาดไหน ให้ลองนึกภาพของกองกลางตัวรับที่ยืนอยู่หน้าแผงกองหลังทั้ง 4 โดยที่ดาวเตะเลือดน้ำหอมคนนี้ จะคอยปัดกวาดครึ่งสนามฝั่งตัวเอง เสียบสกัดตัวรุกฝั่งตรงข้ามครั้งแล้วครั้งเล่า ตัดบอลแล้วตัดบอลอีก ก่อนจะปล่อยบอลออกไปให้เพื่อนร่วมทีมแบบง่าย ๆ ไม่หวือหวาแต่ทว่าแทบไม่เคยทำบอลเสียเลย
.
ถ้าจะให้ผมนิยาม คงเรียกเขาว่าเป็นพวก "นักเตะระหว่างบรรทัด" ที่สมบูรณ์แบบคนนึงในวงการเลยน่าจะเห็นภาพชัดที่สุด
.
แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง, ลีก คัพ 2 ครั้ง พ่วงด้วยการได้นักเตะยอดเยี่ยมของเชลซี จากการโหวตโดยเพื่อนร่วมทีมอีก 1 ครั้ง คือรางวัลที่การันตีว่า มาเกเลเล่ ประสบความสำเร็จมากแค่ไหนที่อังกฤษ
.
"มาเกเลเล่เป็นคู่แข่งที่รับมือยากมาก ๆ เขาจะยืนลึกลงไปเกินครึ่งสนาม แทบจะเป็นหนึ่งในกองหลังเลยด้วยซ้ำ" แมตต์ ฮอลแลนด์ อดีตแข้งชาร์ลตันที่เคยบู๊กับมาเกเลเล่สาธยาย
.
"เขาเป็นคนแรก ๆ ในอังกฤษเลยที่ยืนต่ำขนาดนั้น จนทำให้เกิดการเลียนแบบมากมาย เพราะโค้ชหลาย ๆ คนเริ่มที่จะให้ลูกทีมปรับมาใช้แท็คติคการยืนแบบมาเกเลเล่แทบทั้งสิ้น จนเป็นที่มาของคำว่า 'มาเกเลเล่ โรล'​ หรือการเล่นแบบมาเกเลเล่ ที่แพร่หลายในยุคนั้น"
.
"แต่น่าเสียดาย ที่ไม่มีใครทำได้ดีเท่ากับมาเกเลเล่สักคน" แมตต์ทิ้งท้าย
.. .. . .. ... . ... .. . ... .. .. ... .. . .. ...
.
มาเกเลเล่ อาจไม่ได้เป็นสตาร์ที่มีความโดดเด่นในสนามเหมือนคนอื่น ๆ แต่การมีอยู่ของเขาคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สตาร์ดวงอื่นส่องแสงเปล่งประกาย
.
เราจะรู้ถึงความสำคัญของสิ่งที่มีอยู่ในมือ ก็ในวันที่เราสูญเสียมันไปแล้ว อย่างที่กาลาคติกอสของ เปเรซ ได้ค้นว่าการผลักไส มาเกเลเล่ ออกจากทีม คือความผิดพลาดอย่างมหันต์
.
นักเตะธรรมดาที่ไม่มีออร่าของซูเปอร์สตาร์เหมือนคนอื่นอย่าง มาเกเลเล่ กลับทิ้งช่องโหว่รูใหญ่ไว้ให้ตรงกลางสนาม
.
รูโหว่ที่หาคนมาปกปิดได้ยาก
เพราะมันคือรูโหว่ที่ชื่อว่า 'มาเกเลเล่ โรล'​ ซึ่งมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รังสรรค์มันออกมาได้ไร้ที่ติอย่างแท้จริง
.. .. . .. ... . ... .. . ... .. .. ... .. . .. ...
#เขียนโดย | Mr.X_วีว่าซอค
.
#ถ้าคุณเป็นนักอ่านเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับฟุตบอลไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันต้องไม่พลาด #ทุกบ่ายโมงของทุกวัน #บ่ายนี้มีเรื่องเล่า #มุมนักอ่าน เราจะพาคุณไปพบกับเรื่องเล่าฟุตบอลของ Mr.X คอลัมนิสต์หน้าใหม่ไฟแรง ผู้สั่งสมประสบการณ์มากว่า 35 ปีบนถนนสายนี้ และไม่เคยเขียนให้ค่ายไหนมาก่อนเลย
#โคล้ดมาเกเลเล่ #เชลซี #เรอัลมาดริด #พรีเมียร์ลีก #วีว่าซอค #vivasoc
www.vivasoc.com เว็บฟุตบอลปลอดพนัน
โฆษณา