31 มี.ค. 2020 เวลา 11:04 • ธุรกิจ
เศรษฐกิจโลกหลังจากนี้ จะดำเนินไปในทิศทางใด ในมุมมองหมูน้อย
[EP.1 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว]
โดย พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณ หลังจากนี้จะไม่มีทางกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีกแล้ว
💙 ถ้าคุณเลือกยาเม็ดสีฟ้า เรื่องทุกอย่างจบ
คุณจะตื่นขึ้นบนเตียงนอนของคุณ ด้วยความเชื่ออะไรก็ตามที่คุณเชื่อ
❤️ ถ้าคุณเลือกยาเม็ดสีแดง คุณก็อยู่ในดินแดนมหัศจรรย์กับอลิซต่อไป และผมจะแสดงให้คุณดูว่าโพรงกระต่ายมันลึกแค่ไหน”
เมื่อ 2 - 3 วันก่อน ผมได้แวะไปทักทายคุณกู้ดจากเพจ Good Stories
เราแลกเปลี่ยนมุมมองเศรษฐกิจกันเล็กน้อย
ผมสัญญาไว้ว่าถ้าความคิดของผมตกผลึกแล้ว ผมจะเรียบเรียงออกมาเป็นบทความให้ทุกคนได้อ่านกัน วันนี้ผมเลยขอมาแชร์มุมมองส่วนตัวของหมูน้อยกันนะครับ
เศรษฐกิจโลกหลังจากนี้...จะดำเนินไปในทิศทางใด.......โดยมีเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นตัวจุดชนวนระเบิดที่โลกเราซุกเอาไว้ใต้พรหม
0. พื้นฐานความเข้าใจสำหรับสถานการณ์ในช่วงนี้
https://www.aljazeera.com/news/2020/01/timeline-china-coronavirus-spread-200126061554884.html
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของ Coronavirus สิ่งที่ตามมาคือ การลดกิจกรรม ที่มีโอกาสทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคเป็นวงกว้าง
อย่างเช่น การเดินทางข้ามประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ หรือแม้กระทั่งการท่องเที่ยว
เราจะสังเกตได้ครับ ว่า ประเทศจีนที่เป็นประเทศแรกที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้น ใช้มาตรการขั้นสูงสุด คือ การล๊อคเมือง อู๋ฮั่น และระงับการเดินทางออกนอกประเทศ
ในทันทีที่รู้ตัวว่า โรคนี้ไม่ใช่สิ่งที่รับมือได้ง่ายๆ
ซึ่งการที่จีนจัดการในลักษณะนี้....
ผมมองว่าคนทั้งโลกควรที่จะขอบคุณประเทศจีนเหลือเกินครับ
เพราะจีนทำให้คนทั้งโลก "สามารถซื้อเวลา"
เพื่อเตรียมการรับมือกับโรคระบาดในครั้งนี้ได้ต่ำๆ ก็ 1-2 เดือน
โดยระหว่างนั้นเอง จีนได้พบเจอกับโรคระบาดชนิดใหม่ซึ่งมีความใกล้เคียงกับ SARS
ในระยะแรก จีนไม่มีแม้กระทั่งวิธีการรับมือโรคใหม่นี้ หรือวิธีการรักษา
ชาวจีนได้ "สังเวย" อะไรหลายๆอย่างไป
จนทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ ณ ปัจจุบัน
ซึ่ง จุดนี้เอง ทำให้ผมมองว่าคนทั้งโลกควรที่จะขอบคุณประเทศจีนที่ทำให้เรามีแนวทางการรับมือ และรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในเบื้องต้น
1. ธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
จะได้รับผลกระทบมากมายมหาศาล
https://www.pata.org/webinar-recap-key-resources-coronavirus-travel-impact-and-managing-its-effects/
อย่างที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นครับว่า
เมื่อพูดถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19
หนึ่งในวิธีการควบคุมโรคระบาดของโรคนี้คือ
การลดกิจกรรมที่มีโอกาสทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคเป็นวงกว้าง เช่น การเดินทางข้ามประเทศ หรือ แม้กระทั่งการเดินทางข้ามจังหวัด
และในปัจจุบัน เราก็ได้เห็นกันแล้วครับว่า
หลายๆสายการบินทั่วโลก หยุดการให้บริการ
ในเส้นทางการบินระหว่างประเทศ
แม้กระทั่ง หยุดการให้บริการบางเส้นทาง
ในบางจังหวัดที่มีการควบคุมการเข้าออก
ซึ่งการที่มันเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น
ทำให้ธุรกิจที่มีความเกี่ยวพันกับการท่องเที่ยว
ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
คนแรกที่โชคร้าย คือ.......
กลุ่มธุรกิจ "โรงแรม"
หากพูดลึกลงไปอีก กลุ่มที่ได้รับผลกระทบกลุ่มแรกจริงๆคือ โรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนระดับสูง
อย่าลืมนะครับ การแพร่ระบาดมันเกิดขึ้น
ในช่วง High season ของการท่องเที่ยว ซึ่งก็คือเดือน 12 - 3
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเกิดการแพร่ระบาดขึ้นทั่วโลก การ Booking ของโรงแรมทั้งหลาย
ถูกยกเลิกกันระนาวจากนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ
(ปัจจุบันนี้ แม้แต่นักท่องเที่ยวในประเทศก็หมดสิทธิ์ไปเที่ยวแล้วครับ)
ทีนี้ ผู้บริหารโรงแรมจะทำอย่างไรเมื่อเจอสภาวะแบบนี้ ในเมื่อ "ไม่มีรายได้ แต่ยังมีรายจ่ายประจำ"
สิ่งที่เค้าต้องทำคือ การหักใจลดรายจ่ายให้เหลือน้อยที่สุด
เพื่อให้...กิจการสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้
เพื่อให้...วันที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง โรงแรมจะสามารถให้บริการได้ตามปรกติ
ผมจะให้ทุกท่านได้ดู ข้อมูลจริงที่ออกมาจากกรมท่องเที่ยวและกีฬาซึ่งแสดงถึงปริมาณนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินที่หายไปครับ
ถ้าตาลายดูแค่บรรทัดสุดท้ายก็พอครับ 😬
ผมสรุปให้ท่านว่า ปริมาณ นักท่องเที่ยว และ รายได้หายไปประมาณ 42-43%
ผลกระทบในภาคธุรกิจมันจะไม่จบที่ 42% ครับ เพราะเงิน 1 บาท มันสามารถทวีคูณในระบบเศรษฐกิจได้อีกหลายเท่า
ไม่นับในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่ใช้รายได้
หมุนเวียนในธุรกิจเพื่อการชำระหนี้ที่มีต่อภาคธนาคาร....นั่นทำให้ปัญหาลูกโซ่เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่ม โรงแรมเท่านั้นที่เกิดปัญหาขึ้น ในส่วนของสายอาชีพ "บริษัททัวร์" ก็โดนไปเต็มๆ เริ่มจากบริษัทที่ทำงานร่วมกับกลุ่มทัวร์จากประเทศจีนโดนไปก่อนเพื่อน
ลดเงินเดือนระดับบริหารลง 40-70%
ลดเงินเดือนพนักงานลงอีกส่วน
จนในที่สุด บริษัททัวร์ที่เน้นทัวร์จีนก็ต้องหยุดงาน ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก หรือธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
หรือแม้กระทั่ง "Youtuber / Blogger " ที่ทำด้านการท่องเที่ยว
จังหวะนี้ถ้าใครไม่มีสต๊อคงานที่ถ่ายไว้ล่วงหน้า ก็ได้รับผลกระทบเข้าไปเต็มๆ
แต่สิ่งที่เรากำลังจะเจอ มันไม่ใช่เพียงแค่
จีนควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้วนักท่องเที่ยวจะกลับมาเที่ยวไทยตามปรกตินี่สิครับ
ขณะนี้เป็นช่วงเวลาประมาณ ต้นเดือนเมษายน คือเดือน 4 เป็นช่วงที่หลายๆประเทศเริ่มเกิดการแพร่ระบาด
เรามาลองใช้การประมาณการว่า
ประเทศอื่นๆก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 2- 3 เดือน เพื่อให้การระบาด COVID-19 สงบลง
นั่นคือการลากยาวไปถึงเดือนกรกฎาคม!
คาดว่าถึงเวลานั้น ทุกประเทศทั่วโลก
จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้
ประเด็นคือ หลังจากนั้นมันก็จะยังไม่มีการท่องเที่ยวเกิดขึ้น เพราะกลัว import cases เหมือนที่จีนเป็นในปัจจุบันนี้ครับ
ปัจจุบันกลุ่มที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศจีน เป็นผู้ที่ติด COVID กัน ปัจจุบันก็แตะๆ 1000 เคสแล้ว กลุ่มนี้เองมีโอกาสทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 เกิดขึ้น
ในระหว่างที่ประเทศอื่นกำลังวุ่นวายกับการควบคุมโรคระบาด พี่จีนจะเริ่มฟื้นตัวได้ก่อน แต่มันจะเริ่มจากภายในประเทศ ล่าสุดตัวเลข PMI ภาคการผลิตเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว
ดังนั้น สิ่งที่ ธุรกิจที่เกี่ยวพันกับการท่องเที่ยว ของเราและของทั่วโลกกำลังจะเจอไม่ใช่เพียงแค่ อีก 3-4 เดือน (รวมเป็น 7 เดือน) ที่ไม่มีรายได้ แต่! มันอาจจะลากยาวไปจนถึง
"ช่วงที่มีวัคซีนตัวสมบูรณ์พร้อมใช้กับมนุษย์"
ต่ำๆผมประเมินว่าลากยาวไปถึงช่วง Q1- mid Q2 ปีหน้า
นั่นคือสิ่งที่เรากำลังจะเจอครับ
ยังไม่นับเรื่องที่เหล่าสายการบินทั่วโลกกำลังจะล้มละลาย
https://www.aviation24.be/miscellaneous/covid-19/coronavirus-covid-19-crisis-will-fly-most-airlines-into-bankruptcy-by-the-end-of-may/
เมื่อสายการบินล้มละลายสิ่งที่ตามมาคือ
การฟ้องล้มละลายพร้อมขายกิจการเพื่อชำระหนี้ หลังจากนั้นสายการบินก็จะหยุดให้บริการ
สิ่งที่ตามมาหลังจาก จบเรื่อง COVID สายการบินที่ล้มละลายก็จะยังกลับมาให้บริการไม่ได้
การท่องเที่ยวโดยใช้การเดินทางทางอากาศยาน ก็จะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง กว่าจะเข้ารูปเข้ารอย
สิ่งที่ผมกล่าวจนถึงขณะนี้ มันมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนมหาศาลครับ และ...นั่นเป็นเพียงแค่ คนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเท่านั้น
คนเหล่านั้น ก็มีค่าใช่จ่ายที่ต้องจ่ายไปในแต่ละวัน ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
...หลายๆคนมีหนี้ที่ต้องชำระกับทางธนาคาร
...หลายๆคน ต้องนำรายได้มาจุนเจือครอบครัว ...ไหนจะต้องหาอุปกรณ์ที่ทำให้ตัวเองปลอดภัยจากโรคอีก
ส่วนตัวผม "เผาเงิน" กับการป้องกันตัวเองจาก COVID ไประดับนึงเลยครับ
การปิดกรุงเทพฯ แล้วมีคนเดินทางออกจากต่างจังหวัด สำหรับหลายๆคนที่ด่าเค้าเรื่องการแพร่ระบาดของโรค
เราได้มองถึงเรื่องที่ว่า เค้าจะใช้ชีวิตอย่างไรหรือไม่ครับ สำหรับคนที่รับค่าจ้างรายวัน
เขาเหล่านั้นจะอยู่อย่างไร
เรื่องแจกเงิน 5000 ผมเป็นเรื่องที่ดีนะครับ
อย่างน้อยมันก็พอการบรรเทาทุกข์
ให้เขาเหล่านี้ได้ในระดับนึง
แต่! คำถามที่ตามมาคือ
ยอดคนลงทะเบียนเท่าไหร่ และ รัฐจะแจกเงินไปได้อีกนานเท่าไหร่...?
งบประมาณประเทศปี 2563 นี้
มีหลายส่วนที่ไม่สามารถใช้งานได้ตามปรกติ ถ้าเราไม่สลับงบประมาณเหล่านั้นมาเพื่อรองรับสถานการณ์เรื่องชีวิตและเศรษฐกิจในภายภาคหน้า
คนที่ตายเพราะ COVID-19 กับคนที่ตายเพราะพิษเศรษฐกิจที่ตามมา มันอาจจะเทียบกับไม่ติด
และผมบอกได้เลยนะครับว่า
งบประมาณของประเทศในปี 2564 มันจะน้อยกว่า ปี 2563 ไปอีกเยอะ
นั่นเป็นเพราะ ... ในเมื่อไม่มีรายได้
ใครจะมี "เงิน" ที่ไหนไปจ่ายภาษีกันละครับ ...
ไทยเราได้ชื่อว่าทุนสำรองระหว่างประเทศแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลก
แต่ถ้าใช้ไป...อย่างไม่ฉลาด
ต่อให้มีมากกว่านี้อีก 10 เท่า ก็ไม่เพียงพอ
แม้แต่อเมริกา ก็ยังเอาตัวเองแทบไม่รอด
เพราะเรื่องนี้มันดันไปจุดชนวนหายนะอีกเรื่องขึ้นมาจนได้ (to be continued)
วันนี้ผมเสนอมุมมองส่วนหนึ่งให้ทุกท่านประมาณนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับการ
เตรียมความพร้อมรับมือ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
ณ เวลานี้ ทัศนคติที่ดี จะต้องมาพร้อมกับวิธีการที่ถูกต้องและรัดกุมเท่านั้น
และเราจะผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
หมูน้อย
reference

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา