#แอบส่องโครงการเราไม่ทิ้งกันของพี่ยุ่น
#ใครได้ใครอด?
Cr. Time
เผยมาแล้ว แผนแจกเงินชดเชยรายได้ หรือโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ในฉบับของญี่ปุ่น ที่จะมีการช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ได้กระทบผลกระทบจากวิกฤติไวรัส Covid-19 จนขาดรายได้ หรือต้องปิดกิจการชั่วคราว หรือเผลอๆ อาจต้องปิดถาวร หากยังควบคุมโรคระบาดไม่ได้
ซึ่งพรรค LDP ที่เป็นพรรคฝ่านรัฐบาลของลุงชินโซ อาเบะ เสนอว่า ควรจ่ายให้ครอบครัวละ 3 แสนเยน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 84,000 บาท สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องหยุดงาน หรือรายได้ลดลงในช่วงที่เกิดวิกฤติไวรัสนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว
และเพื่อสะดวกในการใช้ ทางรัฐบาลเสนอว่าควรจ่ายเป็นเงินสดเลย และต้องจ่ายให้เร็วที่สุด โดยรัฐบาลตั้งงบกองทุนช่วยเหลือนี้ไว้ที่ 56 ล้านล้านเยน และจะชงเรื่องเพื่อลงมติในสภาให้ทันภายในสิ้นเดือนนี้ ผ่านเมื่อไหร่ ก็จ่ายได้ทันที
ฟังเท่านี้ หลายคนอาจจะหูผึ่งว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจ่ายเยอะดีจัง บ้านเราได้แค่ 5,000 ของญี่ปุ่นเขาจ่ายให้เกือบแสน
แต่ช้าก่อน ค่าครองชีพญี่ปุ่นเขาไม่เหมือนบ้านเรา ภาษีเขาก็จ่ายแพงกว่า และที่สำคัญ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้
ทางรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงหารือ เงื่อนไขในการให้สิทธิ์รับเงินเยียวยานี้ ว่าใครจะได้ ใครจะอด
เพราะทางญี่ปุ่นเขาต้องการจะชดเชยให้กับคนที่เดือดร้อน ขาดรายได้จริงๆ หรือภาคธุรกิจขนาดกลาง หรือขนาดย่อย ที่รายได้ตกอย่างชัดเจน และคาดว่าน่าจะมีครอบครัวญี่ปุ่นกว่า 10 ล้านครัวเรือน จาก 58 ล้านครัวเรือน ที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์นี้
แล้วใครกันที่จะอด?
คนกลุ่มแรกที่จะอดเลยคือ บรรดาข้าราชการ นักการเมือง ชาวคณะรัฐบาล เพราะไม่ได้หยุดงานกับเขา ยังได้รับเงินเดือนเต็ม ไม่มีผลกระทบเรื่องรายได้ ก็จะไม่เข้าเกณฑ์
กลุ่มเจ้าของกิจการรายใหญ่ ถึงแม้รายได้อาจจะลดลง แต่ก็ยังมีรายได้ในจำนวนที่มากพอที่จะพยุงธุรกิจ ก็อาจไม่เข้าข่าย
อีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังถกเถียงกันร้อนแรงคือ กลุ่มคนที่ทำงานในธุรกิจค้าบริการ แม้แต่นั่งดริ๊งค์ เชียร์แขก บาร์โฮส ธิดาชาวตู้ หรือดาราหนังผู้ใหญ่ ก็อาจไม่เข้าข่ายในการได้รับสิทธิ์
ในประเด็นนี้ มีหลายคนออกมาสนับสนุน และหลายคนไม่เห็นด้วย
Cr. China Daily
โดยฝ่ายที่สนับสนุนมองว่า ธุรกิจสีเทา ไม่ได้ส่งเสริมศีลธรรมในสังคม บางแห่งทำผิดกฏหมาย และอาจมีประเด็นการค้ามนุษย์ด้วย จึงไม่ควรได้รับสิทธิ์
แต่ฝ่ายที่ค้าน รวมถึงกลุ่มสายอาชีพในธุรกิจค้าบริการ แย้งว่า อาชีพสีเทาของพวกเขานี่แหละ ได้รับผลกระทบตรงๆ จากวิกฤติโรคไวรัสนี้เลย เพราะนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม สนับสนุนให้คนอยู่บ้าน ทำให้ลูกค้าลดลงมาก
แล้วอีกอย่าง ประชาชนทุกคนควรได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม โดยไม่คำนึงถึงอาชีพที่พวกเขาทำ ก็ในเมื่อธุรกิจเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายในญี่ปุ่น อาจจะมีบางที่ที่ทำผิดกฏหมาย แต่นั่นมันคนละเรื่องกับการขอสิทธิ์รับเงินชดเชยรายได้ ก็ในเมื่อพวกเขาก็มีครอบครัวต้องดูแลเหมือนกัน
ฟังดูก็มีเหตุผล แต่ทั้งนี้ก็ต้องเอาข้อมูลไปถกกันในสภาอีกที ที่น่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้งภายในสิ้นเดือนนี้ ใครจะได้ ใครจะอด ค่อยมาลุ้นกันอีกที
แต่จะให้ดีที่สุดคือ ได้รับผลกระทบไม่มาก สามารถประคองธุรกิจฝ่าพายุ Covid-19 ไปจนถึงฝั่งได้ น่าจะดีที่สุดนะค้า
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
