4 เม.ย. 2020 เวลา 08:54 • สุขภาพ
ไทม์ไลน์ "กัก-ไม่กัก" สุดวุ่นวายที่สุวรรณภูมิ
ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้ตรวจสอบย้อนรอยกรณีความวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังมีผู้โดยสารที่เป็นคนไทยเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจำนวนมาก ไม่ยอมเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ หรือ state quarantine ตามมาตรการใหม่ของรัฐบาล จนเกิดการโต้เถียงด่าทอกัน สุดท้ายต้องให้ตำรวจ ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ เกิดขึ้นจากเที่ยวบินช่วงบ่ายถึงค่ำวานนี้ (3 เม.ย.63) มีผู้โดยสารคนไทยเดินทางเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 158 คน จาก 5 เที่ยวบิน คือ JL0031 จากญี่ปุ่น จำนวน 73 คน / NH0847 จากญีปุ่น 18 คน / TG0641 จากญี่ปุ่น 12 คน / QR0832 จากกาตาร์ 11 คน และ / SQ0976 จาก สิงคโปร์ 44 คน
ผู้โดยสารไทยกลุ่มนี้ไม่ยอมเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ อ้างว่าพวกตนเดินทางก่อนที่มาตรการใหม่ของรัฐบาลจะประกาศใช้ และยังได้รับใบรับรองการเดินทางจากสถานทูต สถานกงสุล รวมถึงใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าพร้อมบินครบถ้วนตามมาตรการเก่า ส่วนมาตรการใหม่ที่ต้องให้กักตัวทุกคน พวกตนไม่ทราบมาก่อน เพราะอยู่ระหว่างเดินทาง
การพูดคุยเจรจาไม่เป็นผล จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน ประกอบกับผู้โดยสารต้องรอนาน เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดกล้าตัดสินใจ จึงต้องมีฝ่ายทหารยศนายพลเข้าเจรจา สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้ตัดสินใจอนุญาตให้ผู้โดยสารกลุ่มนี้กลับไปกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขยายวงไปกว่านี้ แต่ทางเจ้าหน้าได้บันทึกทำประวัติ ทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ สามารถตรวจสอบได้
มีรายงานว่าในคืนเดียวกันนั้น ทางกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มแรก 158 คน มี 6 คนยินยอมถูกกักตัว จึงเหลือผู้โดยสาร 152 คนที่ยังไม่เข้ากระบวนการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้เวลาถึง 18.00 น.วันนี้
ต่อมาเวลา 22.00 น.เมื่อคืน (3 เม.ย.63) หลังจากเกิดปัญหากับผู้โดยสารกลุ่มแรกจนเป็นข่าวดังในโซเชียลมีเดีย พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่งจาก พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ลงไปตรวจสอบด้วยตนเอง จึงมีการสั่งการให้ทุกหน่วย ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร มาช่วยกันควบคุมสถานการณ์ เพราะเกรงว่าสถานการณ์จะบานปลาย เนื่องจากมีเที่ยวบินที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มาลงสนามบินสุวรรณภูมิอีก 3 เที่ยวบิน
ประกอบด้วย ไฟลท์บินจากประเทศเกาหลีใต้ ไฟลท์บินจากประเทศญี่ปุ่น และไฟลท์บินจากสหรัฐอเมริกา รวมผู้โดยสารคนไทย 214 คน แต่กลุ่มนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อย จึงนำผู้โดยสารทั้งหมดไปยังสถานกักกันอ่าวดงตาล ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงมีประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ห้ามอากาศยานทุกชนิดเข้าทำการบินเข้ามายังประเทศไทย จึงเท่ากับเป็นการปิดการเดินทางทางอากาศโดยเด็ดขาด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีบุคคลที่โดยสารมาจากเที่ยวบินประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ แล้ววัดอุณหภูมิพบว่ามีไข้จำนวน 3 ราย อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีจากจุดคัดกรอง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า ขาวนี้ไม่เป็นความจริง เพราะผู้โดยสารทุกคนได้ผ่านขั้นตอนการตรวจคัดกรองโรค ของกรมควบคุมโรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนมาถึงขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทางของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
โฆษณา