4 เม.ย. 2020 เวลา 12:17 • สุขภาพ
ความกลัวและกังวลนำไปสู่การตีตรา
การตีตราปัจจุบันไม่ได้เกิดเฉพาะคนตะวันตกมีต่อคนเอเชียอีกต่อไปแล้ว แต่เกิดในประเทศเรานี่เอง
อย่างผู้ป่วยถูกไล่ออกจากห้องเช่ายกครัวเพราะติดโควิด
อย่างคนสิงคโปร์ถูกรุมทำร้ายในอังกฤษ
ปัจจุบันการตีตราเกิดทุกหย่อมหญ้าในประเทศเราเอง จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าสิ่งนี้ช่างเหมือนไวรัสเอชไอวีที่ในอดีต ผู้ติดเชื้อแทบไม่มีอนาคต แม้แต่อยู่ในสังคมยังไม่ได้
ในยุคนั้นมีหลายคนที่ฆ่าตัวตายเพราะเอชไอวี วันนี้มีอยู่บ้างที่ฆ่าตัวตายเพียงเพราะพบเชื้อไวรัสตัวนี้
หรือคนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ออกมาถือป้ายขับไล่ผู้ติดเชื้อที่หายแล้วกำลังจะกลับบ้านให้ไปอยู่ต่อถึง 1 เดือน
และที่เกิดสดๆร้อนๆคือคนไทยที่เข้ามาจากต่างประเทศ จากคนร้อยกว่าคนแต่ข้อความคอมเม้นจำนวนมากสื่อว่ามีเงินเดินทางไปก็ไม่ต้องกลับมา เราต้องการแบบนี้จริงๆหรือ จะโทษคนที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดนั้นไม่ถูกต้อง แต่ต้องโทษการสื่อสารด้วย และรัฐต้องแก้ไขด้วยการจัดการการกักตัวให้เรียบร้อย โดยห้ามไม่ให้เกิดการเหมารวมจนนำมาสู่การล่าแม่มดอีกครั้ง
เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องจัดการ ไม่ใช่สื่อใหญ่ที่เปิดการล่าแม่มดเสียเอง
เราจะกำจัดการตีตราได้อย่างไรในสังคม
มีหลายที่ที่พยายามลดการตีตราในสังคม กรมสุขภาพจิตได้ออกโปสเตอร์เพื่อลดการตีตรา
1. ไม่แบ่งแยกหรือรังเกียจ เชื้อชาติที่มาจากประเทศประสบวิกฤติ
2. เห็นใจผู้คนที่ขอกลับประเทศ
3. ไม่รังแกกัน ให้เมตตาและเห็นใจ
4. อย่าตีตราว่าเป็นตัวแพร่เชื้อ
5. ให้คนที่หายแล้วได้มาใช้ชีวิตตามเดิม
การตีตราเกิดจากอะไร
การตีตรา (social stigma) เป็นภาวะทางจิตที่เกิดจากความกลัว (fear) และความวิตกกังวล (anxiety) ในที่นี้จะโยงโรคติดเชื้อไปกับบุคคล เชื้อชาติ กลุ่มคน ทำให้เกิดการแบ่งแยก (discrimination)
ปรากฎการณ์นี้เราเห็นอยู่บ่อยกับ คนจีนในช่วงแรกของการระบาด กลุ่มผีน้อยที่ถูกมัดเหมารวมเป็นหนึ่งเดียว ทั้งที่ส่วนใหญ่ร่วมมือดีและไม่ติดเชื้อ และปัจจุบันจะเห็นว่ามีต่อคนป่วยที่หายแล้ว และคนเดินทาง
CDC เสนอวิธีลดการตีตรา ในมุมของผู้ปฏิบัติงาน
1. รักษาความลับผู้ป่วย ไม่บอกชื่อของผู้ป่วยและผู้สัมผัส
2. บอกความเสี่ยงและความไม่เสี่ยงของสินค้า สถานที่ ผู้คน
3. ทำให้ตระหนัก (awareness) แต่ไม่ตระหนก (fear)
4. ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกระจายของเชื้อ ซึ่งมีการสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อนและทางละอองฝอยในอากาศซึ่งต้องมีคนไอจามอยู่ใกล้ๆตัวเรา
5. บอกว่าพฤติกรรมการเล่นโซเชียลที่ไม่ดีก่อให้เกิดการตีตราคืออะไร
6. ระมัดระวังข้อความ รูปภาพใดๆที่ก่อให้เกิดการมัดเหมารวม (stereotype)
7. นำเสนอผู้ที่ถูกตีตราออกสื่อให้ทุกคนเห็นว่าไม่สมควรถูกตีตรา (คิดถึงตอนทักษิณกินไก่ทอด)
8. ขอบคุณบุคลากรที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
9. แบ่งปันกำลังใจ (social support) ให้แก่ผู้ถูกตีตรา สำหรับเราคือให้กำลังใจคนที่ติดเชื้อ และถ้าหายแล้วให้กำลังใจพวกเขาด้วย
อย่าทำให้ประเทศไทยที่ผู้คนโอบอ้อมอารีและมีเมตตากลับถูกไวรัสที่โจมตีปอด โจมตีความดีงามและมนุษยธรรมของเราไปด้วย
ความกลัวและความกังวลกำจัดได้ด้วยความรู้และปัญญา เมื่อเราเท่าทันโรคแล้ว รู้จักการป้องกันและทางหนีที่ไล่ ไวรัสไม่ว่าจะร้ายแรงเพียงใดก็ไม่อาจทำร้ายเราได้
เราสู้กับไวรัส ไม่ได้สู้กันเอง
โฆษณา