5 เม.ย. 2020 เวลา 07:05 • ธุรกิจ
ราคาน้ำมันดีดกลับ ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ที่ผ่านมา
เป็นเพราะอะไร ใครได้ประโยชน์ ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
Cr. Pexels by Pixabay
ก่อนอื่น ขอย้อนความว่าทำไมราคาน้ำมันโลกถึงลดลงในครั้งนี้
เดิมที ราคาน้ำมันโลก มีการปรับตัวขึ้นลงตลอดเวลา หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือความต้องการใช้น้ำมัน (Demand) ซึ่งหากมีมาก ราคาก็สูงขึ้น แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง
ตามทฤษฎีแล้ว ราคาน้ำมันต้องปรับตัวลง แต่กลุ่มประเทศผู้ผลิตไม่อยากให้ลดลงเยอะ จึงตกลงกันลดปริมาณการผลิต (Supply) เพื่อรักษาระดับราคา การเจรจามีขึ้นบ่อยครั้ง หลัก ๆ คือการหาสัดส่วนการผลิตที่ลงตัวต่อทุกประเทศ (ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ยอมกัน)
ทว่า ในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา การเจรจาปรับลดปริมาณการผลิต ระหว่างรัสเซียและกลุ่มประเทศ OPEC กลับหาข้อตกลงไม่ได้
เหตุผลหลักที่รัสเซียไม่ยอมลดปริมาณการผลิต เพราะ "สหรัฐ" ไม่ได้ลดการผลิตด้วย และการลดปริมาณการผลิตของรัสเซียและกลุ่ม OPEC จะทำให้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันไป เปิดช่องให้สหรัฐขยายตลาด Shale oil
ประเทศรัสเซียต้องการให้ทุกประเทศช่วยกันลด อยู่ในระบบโควตามาตรฐานเดียวกัน ไม่ควรมีประเทศใดลอยตัว ผลิตได้ตามใจ
ทั้งนี้ บางประเทศในกลุ่ม OPEC ได้เปิดก๊อกการผลิตมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศซาอุอาระเบีย เพื่อเป็นการตอบโต้ที่รัสเซียไม่ยอมตกลงในการเจรจาลดการผลิต
เดือน มี.ค. 63 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาลดลงไปมากกว่า 30% เพียงไม่ถึงสัปดาห์
เมื่อมีสงครามราคาเกิดขึ้น ผู้ที่มีต้นทุนถูกที่สุดจะได้เปรียบ
ระหว่าง 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ รัสเซีย OPEC และสหรัฐ สหรัฐมีต้นทุนการผลิตสูงที่สุด ทำให้เดือดร้อนมากที่สุด
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ผมคิดว่าเราอาจเห็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อและยาวนานมากกว่านี้ แต่ในปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่วิกฤตของทุกประเทศที่ต้องรับมือกับ COVID-19
สงครามราคาจึงเกิดสัญญาณสงบศึกชั่วคราวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
Cr. Donald J. Trump
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ได้ทวีตถึงสถานการณ์น้ำมันในวันที่ 2 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา ทำให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นทันที
การปรับราคาขึ้นครั้งนี้ สะท้อนถึงตลาดเชื่อมั่นว่าสงครามราคาของน้ำมันจะจบลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ Donald Trump ได้หารือกับทางรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ซึ่งส่งสัญญาณที่ดีและคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามราคาในเร็ว ๆ นี้
ในมุมมองของผม มีหลายกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากสงครามราคาครั้งนี้ แต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือประเทศรัสเซีย ที่ชนะทั้งในด้านการรักษาส่วนแบ่งตลาดอย่างที่ต้องการ แล้วยังบรรลุเป้าหมายในการดึงสหรัฐเข้ามาสู่การลดปริมาณการผลิตได้ด้วย
สำหรับประเทศไทย เราได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำมันถูกลง ทำให้ต้นทุนการผลิตหลายอุตสาหกรรมถูกลงมาก
สำหรับนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ คงมีหลายกลุ่มที่ได้รับกำไรจากความผันผวนของราคาน้ำมันในครั้งนี้
ก่อนจากกัน ผมได้นำภาพราคาหุ้น PTT หรือปตท. ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ให้ทุกคนดูความผันผวนของราคาหุ้นน้ำมันที่เกิดจากสงครามราคาในครั้งนี้ครับ
Cr. SET
สุดท้ายนี้ อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนและขอฝากช่องทาง FB ด้วยครับ
จบแล้วกับบทความนี้ Dinner Talks ขอกล่าวคำว่า "แล้วพบกันใหม่ครับ :)"
โฆษณา