7 เม.ย. 2020 เวลา 15:37
The Skeleton key ปิดประตูหลอน (2005)
หนึ่งในหนังหักมุม ที่ทำเอาหลายคนอึ้งกับการเฉลยในตอนจบ
คำเตือน ⚠️ บทความนี้เป็นการเปิดเผยเนื้อเรื่องทั้งหมด Spoil
แคโรไลน์ ผู้ช่วยพยาบาลสาว กำลังดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายอยู่ที่ นิวเจอร์ซีย์ เมื่อคนไข้ของเธอเสียชีวิต แคโรไลน์ได้บอกกับจิลล์เพื่อนสนิทของเธอว่า กำลังจะหางานใหม่ เพราะโรงพยาบาลที่เธอทำงานให้นั้น ดูแลเอาใจใส่คนไข้ไม่ดีเท่าที่ควร
บ้านของคนไข้ ที่แคโรไลน์ไปดูแลนั้นอยู่ที่ นิวออร์ลีน ตัวบ้านค่อนข้างเงียบสงบ และห่างไกลเมืองสักหน่อย เมื่อไปถึง เธอได้พบกับลุค มาร์แชล ทนายของไวโอเลต ผู้เป็นเจ้าของบ้าน
โดยคนป่วยที่แคโรไลน์ต้องมาดูแลก็คือ เบน สามีของไวโอเลต ซึ่งมีอาการสมองอัมพาตจากอุบัติเหตุที่ห้องใต้หลังคา เขาต้องนั่งรถเข็นและพูดไม่ได้ มาร์แชลพยายามขอร้องให้แคโรไลน์รับงานนี้ เนื่องจากไวโอเลตพลาดคนดูแลที่ไม่ยอมรับงานมาถึง 4 คนแล้ว
แคโรไลน์เห็นแก่เบน เธอจึงยอมรับงาน วันต่อมาเมื่อขับรถมายังบ้านระหว่างแวะเติมน้ำมัน เธอได้เห็นเหตุการณ์แปลกๆ เช่น การนำผงอิฐโรยรอบสถานที่ และหญิงชราท่าทางประหลาด แต่แคโรไลน์ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก
เมื่อมาถึงบ้าน ไวโอเลตได้เล่าให้แคโรไลน์ฟังว่า เธอซื้อบ้านต่อจากพี่น้องคู่หนึ่ง ที่ได้รับบ้านนี้เป็นมรดก ระหว่างนั้นแคโรไลน์ก็ได้เจอรูปเก่าเป็นรูปเด็กชายหญิงถ่ายคู่กับคนรับใช้ผิวสีในบ้าน และลงชื่อหลังรูปว่า ปาป้าจัสติฟาย และมาม่าเซซี่
ไวโอเลตได้มอบกุญแจให้แคโรไลน์ 1 ดอก ซึ่งสามารถไขประตูได้ทุกบานในบ้าน และระหว่างที่ทำสวน ไวโอเลตได้ขอให้แคโรไลน์ไปหยิบเมล็ดพันธุ์ให้ ทำให้แคโรไลน์พบห้องๆหนึ่งที่ไม่สามารถไขได้ ไวโอเลตจึงบอกว่าห้องนั้นปิดตั้งแต่ตอนเธอย้ายเข้ามาอยู่แล้ว
คืนนั้นเอง แคโรไลน์ได้ยินเสียงบางอย่าง เมื่อชะโงกออกไปดู เธอพบว่าเบนกำลังคลานเพื่อหนีออกจากบ้าน แคโรไลน์พยายามร้องห้าม แต่เบนก็ตกลงไปจากหลังคา
ไวโอเลตเข้ามาช่วยและบอกให้แคโรไลน์เข้าไปเอารถเข็น แคโรไลน์บังเอิญเจอเข้ากับผ้าที่เขียนข้อความว่า ช่วยด้วย เธอจึงแอบเก็บซ่อนไว้ และระหว่างพยายามช่วยเบน เธอก็สังเกตเห็นว่าเบนต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเธอ
เช้าวันต่อมา เมื่อมาร์แชล มาที่บ้าน แคโรไลน์จึงนำผ้าผืนนั้นออกมาดู แต่ไม่พบร่องรอยใดๆบนผ้าเลย แคโรไลน์เริ่มสงสัยเกี่ยวกับเบนมากขึ้น จึงตัดสินใจไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเบน ที่ห้องใต้หลังคากันแน่
แคโรไลน์พบว่าในห้องนั้นมีซากสัตว์ รูปเจ้าของบ้านคนเก่า แหวนรูปงู และคัมภีร์บางอย่างอยู่ เมื่อนำไปเล่าให้จิลล์เพื่อนของเธอฟัง จิลล์บอกว่านั่นน่ะเป็นของวูดู ถ้าเราไม่เชื่อ มันก็ทำอะไรเราไม่ได้ แคโรไลน์ขอให้จิลล์พาไปยังร้านของป้า ที่ขายของเกี่ยวกับไสยศาสตร์ และได้ซื้อกระจกมาติดภายในบ้าน
ไวโอเลตสั่งให้นำกระจกออกให้หมด และยอมเล่าให้แคโรไลน์ฟังว่า เจ้าของบ้านคนเก่าคือท็อป และมีคนรับใช้ที่ชื่อจัสติฟายและเซซี่ ซึ่งทั้งสองคนนับถือวูดู
3
วันหนึ่งคนรับใช้ทั้งสองได้นำบทสวดวูดูมาสอนให้ลูกๆของท็อปที่ห้องใต้หลังคา ในขณะที่กำลังจัดงานเลี้ยง เมื่อคนอื่นๆรู้เข้าและเห็นคนรับใช้ทั้ง2 อยู่ในสภาพที่พูดไม่รู้เรื่อง จึงจับทั้ง 2 คนแขวนคอและเผาไฟทั้งเป็น
ต่อมา ท็อปและภรรยาก็ได้ฆ่าตัวตาย ทิ้งไว้เพียงลูกทั้ง2 คนพี่น้อง ซึ่งได้เติบโตและขายบ้านให้ไวโอเลตอีกทอด และได้ถอดกระจกออกหมด เนื่องจากเชื่อว่า วิญญาณของคนรับใช้จะปรากฏให้เห็นในกระจก และต้องเอาผงอิฐแดงมาโรยรอบบ้านเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย
แคโรไลน์ออกตัวว่าเธอไม่เชื่อเรื่องนี้นัก และแอบนำกระจกให้เบนส่อง เขาแสดงท่าทีตกใจมาก แคโรไลน์เริ่มสงสัยถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น และได้ตัดสินใจกลับไปยังร้านขายของไสยศาสตร์อีกครั้ง และได้ซื้อของที่เจ้าของร้านแนะนำมา
เธอได้นำของมาทำพิธี จนเบนสามารถพูดได้แต่แค่สั้นๆเท่านั้น เขาบอกกับแคโรไลน์ว่าช่วยพาออกไปจากที่นี่ และชี้มือไปยังไวโอเลตว่าเป็นคนที่เขากลัว
มาร์แชลได้พาแคโรไลน์ไปหาคนที่ช่วยดูแลบ้านคนเก่า เธอบอกกับแคโรไลน์ว่าคู่พี่น้องเจ้าของบ้านมีพฤติกรรมแปลกๆ พอเธอลาออกมา พวกเขาก็หัวใจวาย และคนที่ทำร้ายเบน อาจจะเป็นภรรยาของเขาอย่างไวโอเลตเองก็ได้
ขากลับ ณ ปั๊มน้ำมันที่แคโรไลน์เคยแวะ เธอพบหญิงชราคนเดิม ซึ่งเล่าว่าเธอรู้จักกับจัสติฟายและเซซี่ ทั้งคู่ใช้เวทมนตร์วูดู ต่อชีวิตให้ตนเองโดยแลกกับการสังเวยชีวิตคนอื่น แคโรไลน์ขอให้มาร์แชลช่วยเธอพาเบนหนี แต่มาร์แชลก็ยังดูไม่เชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้น
แคโรไลน์พยายามล่อให้ไวโอเลตเดินข้ามเขตที่โรยอิฐแดงไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เธอจึงวางยานอนหลับไวโอเลต โดยแคโรไลน์ได้พบผ้าที่เธอเคยเจอ พร้อมสัญลักษณ์แปลกๆบนพื้น และปอยผมของเธอใต้เตียงเบน
ไวโอเลตฟื้นขึ้นมา และพยายามไล่ยิงแคโรไลน์ แต่ไม่สำเร็จ แคโรไลน์พาเบนหนีออกมาได้ และพาไปหามาร์แชล ไวโอเลตได้โทรมาพอดี ระหว่างรอมาร์แชลคุยโทรศัพท์ แคโรไลน์ก็พบว่ามาร์แชลมีรูปที่แอบถ่ายเธอไว้และมีแหวนรูปงูที่เธอเคยเจอที่ห้องใต้ดิน
แคโรไลน์ตกตะลึง ทันใดนั้นเธอก็ถูกมาร์แชลรัดคอจนหมดสติไป และพามาหาไวโอเลต เมื่อรู้สึกตัวแคโรไลน์พยายามโรยอิฐแดง และทำพิธีต่อเพราะเชื่อว่าจะทำให้เธอรอด
ไวโอเลตก็ได้เข้ามาเฉลยว่า เพราะเธอเชื่อ พิธีนี้จึงสำเร็จ มาร์แชลเริ่มสวดบทสวด ไวโอเลตหยิบกระจกให้ส่อง แคโรไลน์พบว่าในกระจกสะท้อนเงาของเจ้าของบ้านคนเก่าและเซซี่ จากนั้นไวโอเลตก็ดันกระจกมาที่เธอจนแตก
แคโรไลน์ฟื้นขึ้นมา หยิบบุหรี่มาสูบพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ขอบใจมากนะนังหนู" มาร์แชลถามขึ้นมาว่า "เซซี่ เรียบร้อยนะ" และเธอก็ตอบกลับมาว่า "ฉันสบายดี จัสติฟาย" ถึงตอนนี้เรื่องได้บอกให้เรารู้ว่ามาร์แชลนั้นถูกจัสติฟายใช้ร่างมาก่อนแล้ว และทั้งคู่ก็ลวงแคโรไลน์มาเป็นเหยื่อให้เซซี่นั่นเอง
1
ไม่ใช่แค่แคโรไลน์และมาร์แชล เด็ก 2 พี่น้องเองก็โดนใช้ร่างตั้งแต่งานเลี้ยง พ่อแม่ของทั้งคู่ที่จับคนรับใช้ฆ่าจุดไฟเผาทั้งเป็น จึงเท่ากับฆ่าลูกตัวเอง ที่อยู่ในร่างของคนรับใช้
ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว วิญญาณของแคโรไลน์และมาร์แชลตัวจริง ก็ต้องติดอยู่ในร่างของเบน และไวโอเลต ซึ่งตอนนี้เป็นอัมพาตไปแล้วทั้งคู่ ส่วนเซซี่และจัสติฟายก็ได้ร่างใหม่สมใจ
The end
โฆษณา