พริก🌶️🌶️🌶️ : พริกแห้ง พระเอกในครัว
กว่าจะเป็นพริกแห้ง...
จากข่าวลือที่ทางการจะประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง เราจะเห็นว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งที่แตกตื่นและพากันไปซื้อข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคกักตุน
แอดมินคิดถึงสิ่งที่ครัวเรือนควรจะมีหากเกิดภาวะที่จะต้องออกไปไหนไม่ได้ อยู่แต่ที่บ้านเหมือนเช่นในยามนี้
พระเอกของครัวไทยก็คือพริกแห้ง
เพราะพริกแห้งสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลาย แน่นอนว่าด้วยความแห้งของมันทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะสามารถเก็บไว้เป็นเสบียงได้นาน
เอาเข้าจริงแล้วหากเรามีผลิตผลทางการเกษตรที่เราปลูกเองให้พอเพียงกับสมาชิกในครอบครัว ไม่ต้องมากมายอย่างละต้นสองต้น แค่ให้พอกิน
หนึ่งในพืชผักสวนครัวที่ครัวเรือนไทยแทบทุกหลังจะต้องปลูกก็คือพริกขี้หนู
พริกขี้หนูสวนแท้ๆ เม็ดไม่ใหญ่ แต่ความเผ็ดนั้นไม่ได้เล็ก ตามชื่อ
แต่ในปัจจุบันหากเราไปเดินตลาด เราจะเห็นแต่พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ ลักษณะคล้ายๆ พริกชี้ฟ้า แต่แน่นอนว่ามันเป็นคนละชนิดกัน ความเผ็ดของพริกขี้หนูมีมากกว่าพริกชี้ฟ้า พริกหยวก ฯลฯ หลายเท่านัก
กลับมาที่พระเอกของเรา….พริกแห้ง
หลายคนที่เคยปลูกพริกไว้หลังบ้านหรือในกระถาง คงเคยได้สังเกตเห็นว่าเวลาที่ต้นออกดอกให้ผลผลิตนั้น จะมีจำนวนมากอยู่
หลายๆ ครั้งที่เรากินไม่ทัน....จนบางทีต้องปล่อยให้สุกคาต้น หรือบางทีที่เก็บมานั้นใส่ตู้เย็นเอาไว้ก็สุกแดงเน่าเสียไปก็มี
การทำพริกแห้งจึงเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ต้องการถนอมอาหารเอาไว้เป็นเสบียง ไม่ว่าจะในภาวะข้าวยากหมากแพง หรือเกิดศึกสงคราม
แล้วตอนนี้เราก็กำลังทำสงครามกับ covid 19
กรรมวิธีในการทำพริกแห้งนั้นไม่ยาก เพียงแค่คัดเลือกเม็ดพริกที่สุกแดง ไปตากแดดอย่างน้อย 3 วัน หรือสังเกตจากการที่ผลพริกแห้งทั้งผล
ใครมีปลูกไว้หลังบ้านเลือกเด็ดมาเอาที่สุกแดงแล้วเท่านั้น มาตากบนกระสอบฟาง พลาสติก หรือตะกร้าก็ได้
เลือกที่ว่างสักที่หนึ่งที่แดดจัด ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่พ้นหลังคาบ้าน
ก็จะทำให้เราได้พริกแห้งนั้นมาเป็นเสบียงไว้ใช้ทำกินในครัว โดยค่อยนำไปแปรรูปในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นพริกป่น พริกแกง เป็นต้น
การตากแห้งพริก ทำให้น้ำหนักของพริกหายไปเกือบ 3 ใน 4 ส่วน
แต่ความเผ็ดนั้นยังคงอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะมีเพิ่มขึ้นกว่าตอนผลสดด้วยซ้ำ
จากการทดลองเอาพริกขี้หนูเม็ดใหญ่พันธุ์เขียวดวงมณีที่สุกแดงแล้ว 100 กรัม หรือประมาณ 1 ขีด จะทำให้เหลือเป็นพริกแห้งเพียง 35 กรัมเท่านั้น
แต่อย่างน้อยในแง่ของการผลิต หากในช่วงที่ผลิตผลพริกขี้หนูล้นตลาด ราคาผลสดจากหน้าสวนตกไปถึงกิโลกรัมละ 7-8 บาท ผู้ปลูกพริกจะไม่สามารถอยู่ได้เพราะขาดทุน
ราคาที่เกษตรกรอยู่ได้อยู่ที่กิโลกรัมละ 15 บาทขึ้นไป
เพราะค่าแรงของการเก็บพริกนั้นสูงมาก อยู่ที่ 7-10 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว
เป็นปัญหาที่บ้านเราไม่เคยแก้ได้เลย ในเรื่องราคาสินค้าเกษตร
เพราะฉะนั้น การทำพริกแห้ง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่ไม่ควรคิดแต่ปลูกเพื่อขายผลสดอย่างเดียว
จะว่าไปพริกเป็นผลิตผลที่มีสารตกค้างสูงมาก เพราะเป็นพืชที่มีโรคแมลงศัตรูเยอะ จึงมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชค่อนข้างมาก ไว้ค่อยเล่าให้ฟัง
คนที่ไม่ได้ปลูกพริกไว้ในบ้าน ก็ลองเดินสำรวจดูในตลาด อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย เลือกเฉพาะผลพริกแดงมาสัก 1 กิโลกรัม ก็น่าจะพอเอาไว้ใช้ทำกับข้าวไปได้เป็นเดือน
แต่ก่อนตากขอแนะนำให้ล้างทำความสะอาดให้ดีเสียก่อน จากนั้นผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปตากตามที่บอกไว้ข้างต้น บ้านไหนมีเตาอบ ก็ใช้ได้เช่นกัน แต่อย่าใช้อุณหภูมิที่สูงและอบนานเกินไปจนไหม้
อุณหภูมิที่ใช้ในการอบ 50-70 องศาเซลเซียส อบนานประมาณ 4 ชั่วโมง ก็จะทำให้ได้พริกแห้งสีแดงสวยเหมือนกับตากแดด
พริกขี้หนูพันธ์ุเขียวดวงมณีในระยะผลสุกแดง
พริกแห้งตากแดดมาแล้ว 3 แดด
เรื่องของพริกแห้งและพริก ยังสามารถเล่าได้อีกหลายตอน…โปรดติดตาม
เรียนเกษตรแล้วได้ดี 8 เมษายน 2563 👩🌾🙏
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
