9 เม.ย. 2020 เวลา 16:18 • ธุรกิจ
ราคาทองพุ่งปิ๊ดด +58.10 จุด (+3.45%) ทันทีเมื่อ Fed ธนาคารกลางสหรัฐ ได้ประกาศนโยบายใหม่ล่าสุดคืนนี้ สำหรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 75,078,128,929,882 บาท
ซึ่งเป้าหมายการช่วยเหลือครั้งนี้คือ ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง รวมถึงภาคท้องถื่นของรัฐ หลังจากมี (Initial Jobless Claim) รายงานล่าสุดคืนนี้มีคนตกงานเพิ่ม 6.6 ล้านคนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมทั้ง 3 สัปดาห์ มีคนตกงานแล้ว มากกว่า 16.5 ล้านคน
รายละเอียดสำคัญของนโยบาย 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ล่าสุดมีดังนี้
1. เพิ่มสภาพคล่องให้แก่ภาคการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการให้เงินทุน "กู้ยืม" จำนวน 5 แสนล้านดอลลาร์
2. เงินทุนประกันสภาพคล่อง (เครดิต) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง 6 แสนล้านดอลลาร์
3. เพิ่มขนาดของเครดิตสำหรับการให้กู้ยืม ทั้งบริษัทในตลาดหลักและตลาดรอง ซึ่งรวมถึงตราสารเงินที่มีสินทรัพย์ประเภทอื่นค้ำประกัน (Asset-Backed Securities) รวมเป็นมูลค่าประมาณ 8.5 แสนล้านดอลลาร์
4. การช่วยเหลือในตลาดรอง อาจเป็นการเข้าซื้อกองทุน ETF ต่าง ๆ โดยจะพุ่งเป้าไปยังบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ในระดับ "น่าลงทุน (Investment Grade)" ส่วนเม็ดเงินที่เหลือจะให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทที่ลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงของสหรัฐฯ (US high-yield bond)
5. ให้ความคุ้มครองด้านเงินเดือน โดยการจัดหาสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ PPP โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจขนาดเล็กเป็นหลัก
ในขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐ กำลังสร้างสถิติเพิ่มสูงขึ้นของประวัติศาสตร์ไปเรื่อยๆ จากจุดเริ่มต้นของ 3 สัปดาห์ก่อนที่มีจำนวนคนขอสวัสดิการว่างงาน (Initial Jobless Claim) คือ 3.3 ล้านคนนั้นก็ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก Panic Sell แล้วแต่ในครั้งนี้ Fed รู้ถึงข้อมูลเหล่านี้ จึงได้ประกาศอัดฉีดเงินวันเดียวกับวันประกาศ Initial Jobless Claim ประจำสัปดาห์นี้คือ 6.6 ล้านคน จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐในวันนี้ดีดขึ้นบวกมาได้ซะงั้น (ถึงแม้จะเป็นเงินที่พิมพ์มาก็ตาม... ก็สามารถมีอิทธิพลกับความรู้สึกของคนได้)
เหตุผลส่วนหนึ่งที่รายงานคนว่างงานในสหรัฐมีผลกระทบความรู้สึกของนักลงทุนน้อยก็คือ ส่วนมากแรงงานในสหรัฐ ที่ว่างงานในตอนนี้คือ ตำแหน่ง Part-time เพราะส่วนมากนายจ้างในสหรัฐชอบจ้างแบบ Part-time มากกว่า Full-time เพื่อไม่ให้มีข้อผูกมัดกฎหมายคุ้มครองต่างๆ เหมือนการจ้าง Full-time ซึ่งทำให้สามารถปลดพนักงานออกง่ายๆ
และอิทธิพลของโควิด-19 ส่งผลให้เมือง New York City เมืองแห่งเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่มี GDP มากกว่า 8.1% อันดับ 3 ของรัฐในสหรัฐ ที่มีมูลค่า 1,751,674 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นเมืองมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก คือ 151,306 คน โดยมากกว่าเมือง Wuhan 2 เท่าตัว
การเผชิญในตอนนี้สหรัฐยังไม่มีการ Lockdown แม้แต่ใดๆ โดยยอดผู้ติดเชื้อต่อวันอยู่ที่ประมาณ 25,000-32,000 คน/วัน ซึ่งตอนนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อแล้ว 432,579 คน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อในโลก อยู่ที่ 1,503,900 คน
ในสถานการณ์ที่คิดว่าดีขึ้นแล้ว ก็ยังเลวร้ายเหมือนเดิม ที่มียอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังคงอยู่ระดับที่สูง ซึ่ง 2 วันก่อนเราอุสาดีใจที่ตัวเลขมันลดลงต่อเนื่องกัน แต่พอกลับมาวันรุ่งขึ้นก็มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเฉย
หวังว่าสหรัฐจะเข้าใจและหวังว่าจะมีการปิดเมืองบ้างนะ ไม่ใช่ปล่อยไว้แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจอยู่ว่า มีเงินแบบไม่จำกัด (Unlimited money printing) แต่ก็ระวังไว้หน่อยนะ ระวังค่าเงินจะเสื่อมค่าละกันนะคับ ที่ทุกคนจะไม่เห็นค่ามัน วันนั้นจะกลายเป็นวันล้มสลายของสหรัฐ
ช่องทางติดตาม "การลงทุน"
โฆษณา