11 เม.ย. 2020 เวลา 12:24 • ความคิดเห็น
หลังจากที่รัฐบาลประกาศ ภาวะฉุกเฉิน หลายท่าน
คงจะไม่ค่อยได้ออกไปไหนใช่ไหมครับ ผมเองก็เช่นกัน
เวลาปกติผมจะชอบออกไปเดินตลาดเพื่อซื้อของ
มากินบ่อยๆ พอนึกถึงเรื่องซื้อของ ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
กระเป๋าสตางค์อยู่ไหน ? รู้สึกเหมือนไม่ได้สัมผัสมานาน จึงลองเปิดกระเป๋าดู และสิ่งที่พบในกระเป๋า คือ
ความว่างเปล่า ไม่มีธนบัตรเลยสักใบ มีแค่บัตรต่างๆที่เสียบไว้ (ปกติก็ไม่ค่อยมีตังค์ในกระเป๋าอยู่แล้ว 😅)
ไม่น่าเชื่อว่าผมไม่ได้ใช้เงินสดที่เป็นธนบัตรจริงๆ
มานานหลายสิบวัน ความรู้สึกของผมที่เกิดขึ้น คือ เงินสดกำลังค่อยๆหายไปจากชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว
Cr. Gleb Makarov / www.unsplash.com
หลายคนที่อยู่ในเมืองส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้
เราแทบไม่ได้ใช้เงินสดกันเลย ขึ้นรถไฟฟ้าก็ใช้บัตร
เติมเงินเข้าไปผ่านแอพฯ ไปร้านสะดวกซื้อก็จ่ายผ่านแอพฯ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ก็จากผ่านแอพฯ
ขนาดไปวิ่งออกกำลังกายยังไม่พกเงินไปสักบาท
เราพกแค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวพร้อมหูฟัง
ออกจากบ้าน หากอยากจะกดเงินก็เข้าแอพฯธนาคาร
แล้วก็กดเงินโดยไม่ใช้บัตร
ยิ่งในช่วงนี้ออกไปไหนไม่ได้ หลายคนนิยมซื้อของออนไลน์กันมากและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร
โทรศัพท์มือถือของเราได้กลายร่างเป็นกระเป๋าสตางค์ไปแล้ว ส่วนกระเป๋าสตางค์จริงๆของเราตอนนี้มีหน้าที่เป็นแค่ที่ใส่เงินสำรองและเก็บบัตรต่างๆ เช่น
บัตรประชาชน ใบขับขี่ เอาไว้ให้ตำรวจตรวจดูเท่านั้น
หากคุณไม่ไปกินข้าวแกงข้างทาง ซื้อของที่ตลาด
หรือไปวัดทำบุญซื้อดอกไม้ธูปเทียน ก็แทบจะไม่ได้
แตะต้องเงินสดเลย
1
Cr. Benjamin Dada / www.unsplash.com
ตอนนี้ทุกคนมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคน จนถึงผู้สูงอายุวัยเกษียณ ไม่ว่าจะเศรษฐีหรือคนทั่วไป ตอนนี้เทคโนโลยีได้เข้าถึงทุกคน
หลายคนที่ตอนนี้ลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล จะต้องรับเงินผ่านบัญชีธนาคาร และในโทรศัพท์ของทุกคนก็มีแอพพลิเคชั่นของธนาคารที่ใช้อยู่
การจ่ายเงินให้ประชาชน จึงเป็นการเพิ่มตัวเลขในบัญชีธนาคารเท่านั้น
ทำให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้ทันที
โดยไม่ต้องไปกดเงินสด
เงินที่มีในกระเป๋าของเราที่มีน้อยอยู่แล้ว ต่อไปคงแทบจะไม่ได้หยิบออกมาใช้อีกหากไม่จำเป็น
หลังจากนี้เมื่อพ้นวิกฤตของ Covid-19 ประเทศของเราอาจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและค่อยๆกลายเป็นกลายเป็น “สังคมไร้เงินสด” เร็วขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้
นี่คงเป็นผลลัพธ์ในมุมหนึ่งจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้
ซึ่งอาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในอนาคต
บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
ผิดถูกประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย 🙏🏻
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาเป็นกำลังใจให้
ช่วยกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม ให้ผมด้วยนะครับ
หากเพื่อนๆมีข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นสิ่งใด
ก็ comment แลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ขอบคุณครับ😊
โฆษณา