12 เม.ย. 2020 เวลา 05:44 • ความคิดเห็น
ผมมีเรื่องดี ๆ จะมาบอกทุกคนครับ
เรื่องนั้นก็คือ หากว่าคุณเป็นหนึ่งคนที่ รู้สึกว่าเป็นคนขี้เกียจ บอกได้เลยครับว่า คุณเป็นมนุษย์ปกติครับ
1
เพราะ โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น เป็นสัตว์ขี้เกียจ!!
เพราะอะไรผมถึงบอกเช่นนั้น มาดูกันครับ
โดยปกติแล้ว ธรรมชาติออกแบบให้เราขี้เกียจ
คำว่าขี้เกียจนี้ไม่ได้หมายความว่า ไม่ทำอะไรนะครับ แต่หมายความว่า มนุษย์จะเลือกทำในสิ่งที่ อยากทำ และ สิ่งนั้น ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเท่านั้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าช่วงนี้คุณอยากซื้อของใช้
โดยปกติแล้วคุณต้องไปเดินตามห้าง Supermarket ถึงจะได้ของใช้เหล่านี้มา
แต่ณ เวลานี้ มีหลายต่อหลาย ที่ นำเสนอให้คุณสั่งของผ่านทางออนไลน์ โดย ฟรีค่าส่ง!!
และแบบนี้ คุณจะเลือกอะไรกันหละ ระหว่างกดสั่งทางออนไลน์ ที่ส่งฟรี และไม่ต้องเสียเวลาไป อีกทั้งยังได้ราคาเท่ากัน กับ ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของด้วยตัวเอง
แน่นอนว่า ถ้าคุณไม่ใช่คนที่เบื่อบ้านเอามาก ๆ ณ ตอนนี้ ต้องเลือกสั่งออนไลน์อย่างไม่ต้องสังสัย
สาเหตุเพราะอะไรกันครับ?? นั่นก็เพราะ เรามักทางเลือกที่ดีที่สุด และประหยัดเวลารวมถึงแรงเราน้อยที่สุดเสมอนั่นเอง
สาเหตุมันก็มาจากสมองเรานี่แหละครับ
มนุษย์ใช้พลังงานในการขับเคลื่อนเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะ กิน เดิน ยืน นอน ทุกการกระทำล้วนใช้พลังงาน สมองจึงถูกออกแบบมาว่า ต้องใช้พลังงานน้อยที่สุด เพื่อที่จะประหยัดไว้ สำหรับเวลาที่ไม่มีอาหารหรือพลังงานเติมเข้ามา
สัญชาตญาณแบบนี้มีมานานแล้ว สมัยตั้งแต่เรายังเป็นมนุษย์ยุคหิน เลยก็ว่าได้
ในยุคนั้น มนุษย์ไม่ได้มีอาหารเพียงพอเหมือนปัจจุบัน การที่ออกล่าครั้งหนึ่ง ใช้พลังงานอย่างเต็มที่ แต่ใน ขณะเดียวกัน เมื่อล่าเสร็จ ก็จะ save พลังงานอย่างเต็มที่เช่นกัน เพราะ ไม่รุ้ว่าจะได้กินอีกทีเมื่อไหร่
และก็ต้องมีแรงสำหรับการออกล่าอีกครั้งด้วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงเรียนรู้การประหยัดพลังงาน มาตั้งแต่ในยุคหิน และมันก็ถูกถ่ายทอดผ่าน พันธุกรรมของมนุษย์มาเสมอมา
แต่พอมาในยุคปัจจุบัน สมองเรามันไม่ได้ปรับตามยุคสมัยได้ทันขนาดนั้นครับ มันยังคงเชื่องช้าในการปรับตัวอยู่ มันยังหวงพลังงานอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ที่มาช่วยเหลือคนขี้เกียจอย่างเรานี่แหละครับ
หรือจะเรียกว่า แท้จริงแล้ว ความขี้เกียจ คือการ "ทำอย่างมีประสิทธิภาพ" นั่นเอง
การ "ทำอย่างมีประสิทธิภาพ" เป็นอีกมุมมองหนึ่งของความขี้เกียจ
เพราะเราไม่ได้ต้องการทำทุกอย่าง แต่ต้องการทำเพียงบางอย่าง แต่ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาเหมือนทำปกตินั่นเอง นั่นจึงเป็นเหตุผล ที่มนุษย์นั้นคอยคิดค้น เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อนำมาอำนวยความสะดวกสบายของเราให้ดีมากยิ่งขึ้น เหมือนกับม้าที่มาแทนที่ การเดินเท้า เหมือน กับ รถยนต์ ที่มาแทนที่ม้า เหมือนกับ เครื่องบินที่มาแทนที่รถยนต์ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เราก็จะมีเทคโนโลยีที่มาช่วยส่งเสริมเราให้ทำอะไรได้เร็วมากยิ่งขึ้น
ทุกอย่างเกิดจากเพราะตอบสนอง ความต้องการเดียวเลย คือ "ต้องการให้สะดวกสบาย" หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ขี้เกียจทำเยอะนั่นแหละ
สุดท้ายแล้วก็ต้องขอขอบคุณความขี้เกียจของคนเรานี่แหละครับ ที่สรรสร้างค์ สิ่งต่างๆ มาเพื่อให้เราได้ใช้กันอยู่ในยุคปัจจุบัน
นี่ถ้าไม่มีความขี้เกียจ เราคงไม่ได้มี ของดี ๆ ใช้ในทุกวันนี้เลยก็ได้
สุดท้าย เพื่อไม่ให้ทุกคนเข้าใจผิดจนเกินไป ผมไม่ได้บอกว่า ไอ้ความขี้เกียจนี่มันดีไปซะหมดหรอกนะ
เพราะ ถ้าขี้เกียจแล้วไม่ทำอะไรเลยย อันนี้ ก็คงไม่ได้ช่วยให้มี นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี เกิดขึ้นมาใหม่หรอก จริงไหมครับ?
ถ้าจะขี้เกียจ ให้ขี้เกียจอย่างถูกวิธี คือ "ทำอย่างมีประสิทธิภาพ" ไม่ใช่ แค่ขี้เกียจแล้ว นอนไปวัน ๆ นะครับ
โฆษณา