13 เม.ย. 2020 เวลา 03:49 • สุขภาพ
## เมื่อ Taxi ต้องหาทางรอด
เลยต้องกลายร่างเป็น … ชั่วคราวไปก่อน ##
หลังจากเกิดวิกฤติโควิด
รัฐบาลจึงต้องสั่ง ปิดห้าง ปิดสถานบันเทิง
ปิดที่ทำงานบางแห่ง เกิดการ WFH
กิจการหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ก็คือ "Taxi"
เพราะเมื่อคนออกจากบ้านน้อยลง การเดินทางน้อยลง
ย่อมส่งผลให้ผู้โดยสารน้อยลงไปด้วย
พอเกิดวิกฤติแบบนี้… ถ้า Taxi ไม่ทำอะไรเลย
ก็เท่ากับปล่อยตัวเองบาดเจ็บไปเรื่อยๆ
โดยที่ก็ไม่รู้ด้วยว่าเหตุการณ์นี้…จะจบเมื่อไหร่
ฉะนั้น Taxi จึงต้องทำอะไรซักอย่าง… เพื่ออยู่รอดให้ได้
ด้วยความที่แก่นธุรกิจของ Taxi จริงๆก็คือ "การขนส่ง"
แต่เมื่อสถานการณ์ตอนนี้ขนส่ง "คน" ไม่ได้
เลยต้องหาทาง เปลี่ยนไปส่งอย่างอื่นก่อนแทน
บริษัท สมาร์ทแท็กซี่ จึงปิ๊งไอเดีย
ไปลองเจรจาร่วมมือกับ Kerry
ซึ่ง Kerry ตอนนี้กำลังเจอกับปัญหาพัสดุเต็มคลัง
เพราะว่า คนแห่เข้ามาสั่งของออนไลน์เยอะขึ้นกว่าเดิมถึง 50%
จากที่เคยมีพัสดุ 1 ล้านชิ้นต่อวัน กลายเป็น 1.5 ชิ้นต่อวันอย่างกะทันหัน ทำให้รถ Kerry ที่มีอยู่ส่งพัสดุไม่ทัน
เมื่อประโยชน์ของ Taxi สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ Kerry ได้
การเจรจาจึงเป็นไปได้ด้วยดี
โดยช่วงแรกบริษัท สมาร์ทแท็กซี่ จะนำ Taxi ที่ติดตั้งระบบ GPS
และระบบยืนยันตัวคนขับได้ 60 คัน เข้าไปลองก่อน
และคนขับแท็กซี่จะใช้ช่วงเวลา 11.00-15.00 น.
หรือใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม.ในการให้บริการส่งของ
ซึ่งคนขับจะได้รับเงินหลังเคลียร์งานเสร็จภายในเวลา 2 ทุ่มของทุกวัน
"Taxi" จึงกลายร่างเป็น "Kerry"
ถือเป็นดีลที่ Win-Win ทั้งคู่
เพราะ Kerry ก็ได้จำนวนรถส่งของที่เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องลงทุน
ส่วนคนขับแท็กซี่ก็ได้รายได้เสริมจากการส่งของ
"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง"
สุภาษิตอมตะของจีนที่ยังใช้ได้เสมอ
เมื่อเรารู้จุดแข็ง รู้คุณค่าของตัวเอง
รู้ความต้องการของตลาด
ก็จะสามารถปรับตัว และรอดได้ในทุกสภาวะ
และนี่ก็เป็นอีก Case Study หนึ่งที่น่าเเรียนรู้ไว้
ของการปรับตัวจากช่วงวิกฤติโควิด
อาเหลียง
โฆษณา