ลูกกตัญญูที่ทำร้ายบุพการี
"แม่ครับ หลังจากผมเรียนจบ ผมจะทำงานเก็บเงิน ผมจะไม่ให้แม่ลำบากเราจะต้องมีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง"
...คำพูดของลูก เปรียบเหมือนน้ำเย็นชโลมใจ ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนักของแม่ มลายหายไปในพริบตา"
"แม่ครับผมทำงานมาปีกว่าแล้ว ผมว่าจะซื้อรถไว้ใช้ เผื่อวันไหนแม่ไปหาหมอ ผมจะขับพาแม่ไปแม่จะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์ให้ลำบาก"
...คำพูดของลูกทำแม่ปลาบปลื้มเป็นที่สุด ลูกมีงานทำ และกำลังจะซื้อรถ ที่สำคัญคือลูกจะแบ่งเบาและไม่อยากให้แม่ลำบาก
"แม่ครับผ่อนรถมาสามปีแล้วอีกอีกสองปีก็หมด ผมไปดูบ้านมา สวยน่าอยู่มากๆ ใหญ่กว่าที่เราอยู่เยอะ ผมอยากซื้อไว้เราจะได้ไม่ต้องเช่าบ้าน ผมเช็คแล้ว อายุผมเเพิ่งจะ 27 ผ่อนได้ยาวๆ ดีกว่าเช่าเขานะแม่ อายุยังน้อยต้องรีบๆซื้อไว้ตอนนี้แหละ ยิ่งช้าจะยิ่งแพงนะแม่
...แม่อมยิ้มอย่างมีความสุข ในใจก็คิด "ลูกทำงานมาไม่ถึงห้าปีกำลังจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง มันสุดแสนจะภูมิใจที่เลี้ยงดูและส่งเรียนจนจบปริญญาตรี แถมลูกยังเป็นเด็กรักดี และคิดถึงอนาคตอีกด้วย"
...ตัวแม่เรียนจบแค่ชั้นป.6 ทำงานเป็นลูกจ้างเขามา 25 ปี ยังไม่มีปัญญาจะซื้อรถซื้อบ้าน แม้เขาจะปรับให้เป็นหัวหน้างานเงินเดือนหมื่นกว่าบาท ก็ยังทำได้แค่ส่งเสียลูกให้เรียนจบปริญญา เรื่องเงินๆทองๆก็ยังเกือบจะเอาตัวไม่รอดอยู่หลายครั้ง ไม่มีอะไรที่แม่จะภูมิใจกว่านี้อีกแล้ว
...หลังจากผ่อนบ้านได้เกือบปี
"แม่ครับ เดือนนี้ผมหมุนเงินไม่ทัน แม่ช่วยผมส่งค่างวดบ้านหน่อยได้มั๊ยครับ"
...หลังจากลูกเรียนจบ แม่ก็พอจะเหลือเงินเก็บอยู่บ้าง จึงไปถอนเงินมาเพื่อช่วยเหลือลูกด้วยความเต็มใจ.
...หลังจากผ่อนบ้านได้สองปี มีหนังสือจากกรมบังคับคดีมาที่บริษัทที่แม่ทำงานอยู่ มีใจความว่า มีคำสั่งศาลให้อายัดเงินเดือนของแม่เพื่อนำไปชำระหนี้บัตรเครดิต
...ผมในฐานะหัวหน้าของแม่เด็กหนุ่มคนนั้น จึงเชิญคุณแม่มาพบและสอบถามถึงที่มาของคำสั่งศาลในครั้งนี้
...คุณแม่เล่าให้ฟังด้วยสีหน้าและแววตาที่เศร้าหมองและเต็มไปด้วยความกังวล
"ฉันเริ่มเป็นหนี้บัตร ตั้งแต่ลูกยังเรียนหนังสืออยู่ปีสี่ ฉันหมุนเงินไม่ทัน ช่วงนั้นพ่อมันก็ป่วยด้วย ค่าเทอมก็ต้องจ่าย แต่พอลูกเรียนจบเงินก็เริ่มเหลือเก็บ กะว่าจะเอาไปปิดบัตร ลูกมันก็เริ่มส่งบ้านไม่ไหวให้ฉันช่วย เงินเก็บก็เลยหมด และฉันก็เริ่มทำบัตรที่สอง สาม แล้วก็สี่ เพื่อเอาเงินไปช่วยลูก หลังจากส่งขั้นต่ำอยู่หลายเดือน พอส่งไม่ไหวก็เลยไปกู้เงินนอกระบบมาสามหมื่น ส่งดอกเบี้ยให้เขาเดือนละสี่ห้าพัน ฉันไม่ไหวก็เลยหยุดส่งหนี้บัตร ก็เลยโดนฟ้องนี่แหละ บัตรอีกสามใบฉันก็เพิ่งจะหยุดส่ง มันไม่ไหวจริงๆหัวหน้า"
"พี่ครับ ผมขอถามหน่อย ตอนนี้ลูกชายของพี่เงินเดือนเท่าไหร่ครับ " ผมถามด้วยความสงสัย
และคำตอบก็คือ"ลูกฉันมีเงินเดือน 18,000 บาท"
"แม่เจ้า...นี่เด็กเงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น ซื้อบ้านหลังละล้านกว่าบาท ผ่อนเดือนละหมื่น แถมส่งงวดรถอีกเดือนละ 7,000 บาท นี่มันใช้ตรรกะอะไรคิดกัน แถมไอ้คนที่คิดนี้เรียนจบสาขาบัญชีอีกต่างหาก"
...ผมเผลอพูดออกไปโดยลืมคิดถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่นั่งฟังอยู่
...หลังจากนั้นผมก็ซักถามขอรายละเอียด หนี้สินทั้งหมด รายรับ รายจ่ายทั้งหมด ของคุณแม่คนนี้ เพื่อเอามาวางแผนเคลียร์หนี้สิน ให้หมดภายใน7ปี ก่อนที่แกจะเกษียร ไม่งั้นลูกน้องที่ทำงานกับผมมายี่สิบกว่าปีคงไม่เหลืออะไรในวันเกษียร ยกเว้นหนี้สินที่จะติดตัวไปจนวันสุดท้ายของชีวิต
...เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และผมได้เจอคนที่มีปัญหาลักษณะนี้มาสามสี่คนแล้ว จึงอยากเขียนไว้เป็นเรื่องสอนใจคุณพ่อคุณแม่ทุกคนให้ตระหนักไว้เสมอว่า
"แม้ลูกจะจบปริญญาก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะมีความรู้ด้านการเงิน"
"แม้ลูกจะได้เครดิตมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีปัญญาชำระหนี้"
"ลูกบางคนเอาความอยากได้อยากมีของตนเป็นที่ตั้ง และหาข้ออ้างดีๆมาประกอบ"
" การคิดวิเคราะห์บางเรื่องใช้ความรู้แค่ระดับประถมก็เพียงพอ แต่เด็กจบปริญญาบางคนก็อาจจะไม่เอามาคิดด้วยซ้ำ"
...และผมอยากสื่อไปถึงลูกๆทุกคนว่า "พ่อแม่ทำงานลำบากกว่าจะเลี้ยงและส่งเราเรียนจนจบ ควรรู้จักคิดทบทวนสิ่งที่จะทำ เพราะหากลูกไม่คิดให้ดี ทำไปเพราะความอยากได้อยากมี เมื่อผิดพลาดไปแล้ว มันไม่ได้หมายถึงชีวิตเราคนเดียว มันหมายถึงชีวิตพ่อแม่ด้วย ...ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะไม่เอื้อมมือไปดึงลูกขึ้นจากหุบเหวหรอก แม้ว่าพวกเขารู้ว่าอาจตกเหวไปกับลูกก็ตาม"
"ถ้ามันผิดพลาดและแก้ไขไม่ทันเวลา มันจะทำลายความสุขของพ่อแม่ไปตลอดชีวิต"
"อย่าเอาความกตัญญูมาเป็นข้ออ้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราอยู่บ้านหลังใหญ่โต มีรถโก้ๆขับ แต่บุพการีทุกข์ระทม"
เขียนแชร์ประสบการณ์ เพราะผมสงสารคนเป็นพ่อแม่
หากมีลูกๆควาดคิดแย่ๆ คนเป็นพ่อแม่ก็ทุกข์ระทม
ขอบคุณครับ.
- 27
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
