15 เม.ย. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #กระดุมเม็ดแรก ]
ก่อนเข้าสู่ฤดูร้อน 2004 โรมัน อบราโมวิช ที่เพิ่งมาเทคโอเวอร์เชลซีได้ไม่ครบปีดี ยื่นข้อเสนอมายังอาร์เซน่อล
มหาเศรษฐีจากรัสเซียสอบถามมายัง เดวิด ดีน รองประธานสโมสรเพื่อขอซื้อ เธียร์รี่ อองรี ซึ่งกำลังร้อนแรงสุดขีด
ดีน ซึ่งแม้จะมีตำแหน่งแค่รองประธาน แต่บทบาทเหมือนซีอีโอมีอำนาจในการบริหารไม่น้อย บอกปัดไปทันทีอย่างไม่มีเยื่อใย
แน่นอนดาวถล่มประตูฝรั่งเศสเสมือน "กล่องดวงใจ" ของปืนโต นอกจากไม่เคยมีความคิดจะขายแล้ว ยังพยายามสื่อให้ อบราโมวิช เห็นว่าเงินของพวกคุณไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้
เพราะหลังเข้ามาฮุบกิจการต่อจาก เคน เบตส์ เรียบร้อย อบราโมวิช ก็ผ่าตัดใหญ่เชลซี มีการปรับโครงสร้างมากมาย นำบุคลากรของตัวเองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ
ที่สำคัญคือเขาใช้เงินจำนวนมหาศาลเป็นการนำร่อง หว่านลงไปยังตลาดนักเตะนับร้อยล้านปอนด์ เป็นการเขย่าพรีเมียร์ลีกที่รุนแรงมากๆ
ปฏิบัติการใช้เงินฟาดหัวของเชลซี สร้างความไม้พอใจให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลยิ่งนัก กุนซือฝรั่งเศสเป็นคนแรกๆที่ออกมาโจมตีแนวคิดเช่นนี้
ยืนยันว่าเป็นการทำลายมากกว่าสร้างสรรค์ ตั้งแต่นั้นมา เวนเกอร์ ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมสิงห์น้ำเงินอยู่เสมอ
เรื่องนี้กองเชียร์เชลซีไม่น้อยหงุดหงิดกับปฎิกิริยาของ เวนเกอร์ เช่นเดียวกัน เลยตอบโต้คืนบ้างว่าสงสัยจะขี้อิจฉาและกลัวปืนโตตกจากบัลลังก์ เพราะตอนนั้นมีเพียงแค่แมนฯยูไนเต็ดที่สลับแย่งความเป็นใหญ่
ครั้งแรกโดนปฎิเสธกลับมา แต่ อบราโมวิช ยังไม่ยอมแพ้ เปลี่ยนแผนเดินหมากใหม่
จากที่โทรหาส่งเสียงคุยกัน ไม่เห็นหน้ากันจะๆ มันเหมือนไม่ค่อยจริงใจเท่าไรนัก
เลยเป็นการเดินทางไปยังไฮบิวรี่ ออฟฟิศของ ดีน เพื่อคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะ
คนระดับ อบราโมวิช เจ้าของเชลซีผู้มีทรัพย์สมบัตินับแสนล้านปอนด์ในเวลานั้น เดินทางมาถึงที่ด้วยตัวเอง อาร์เซน่อลก็ต้องต้อนรับขับสู้อย่างเต็มที่
มันเหมือนเป็นการกดดันให้ปืนโตเกรงใจบ้าง จากที่แข็งกร้าวก็อาจจะโอนอ่อนลง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการปิดดีลได้ง่ายกว่าเดิม
กระนั้นคำตอบไม่เปลี่ยนแปลง ดีน ยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ขายให้แน่นอน แล้วบอกให้ไปหาดูกองหน้าคนอื่นดีกว่า
อีกทั้งยังอ้างด้วยว่าเรอัล มาดริดก็พร้อมจะยกขบวนขันหมากมาสู่ขอ อองรี ด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ตามจีบหนักมาก
แต่เป้าหมายของอาร์เซน่อลคือต้องการประสบความสำเร็จเรื่อยๆ ต่อยอดไปแบบไม่หยุด ฉะนั้นการเก็บขุนพลคนสำคัญไว้คือเรื่องจำเป็น
ประกอบกับทาง อองรี ก็ไม่มีท่าทีว่าต้องการจะย้ายด้วย ฉลาดพอที่จะเลือกเอง โดยไม่ปล่อยให้เอเยนต์มามีอำนาจมากเกินไป
ฤดูกาล 2003/04 จบลงพร้อมกับ 39 ประตูจากทุกรายการของ อองรี โดยที่เขายังรู้สึกเสียดายที่อาร์เซน่อลคว้าได้แค่พรีเมียร์ลีกรายการเดียวเท่านั้น
1
ส่วนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่เป็นอีกหนึ่งความหวัง ต้องสะดุดหยุดเส้นทางแค่รอบควอเตอร์ไฟนั่ลเท่านั้น แถมยังโดนเชลซีน็อคร่วงอีกต่างหาก
ในขณะที่เอฟเอคัพเล็งไว้ว่าต้องถึงแชมป์ ก็โดนแมนฯยูไนเต็ดเชือดดิ้นที่วิลล่า พาร์คในรอบรองชนะเลิศ อดไปโม่ในนัดชิงที่มิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม
อองรี ยอมรับว่าเสียดายมาก แต่เชื่อด้วยศักยภาพผู้เล่นของปืนโตในเวลานั้น ยังสามารถเก็บเกี่ยวความสำเร็จได้อีกมาก
มีทั้งแข้งมาประสบการณ์ผ่านเวทีมาโชกโชนและพวกยังบลัดที่ก้าวขึ้นมาเติมเต็มอีก
เดนนิส เบิร์กแคมป , เยนส์ เลห์มันน์ , ปาทริค วิเอร่า , เรย์ พาร์เลอร์ , โรแบร์ ปิแรส , เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก , โซล แคมป์เบลล์ หรือ จิลแบร์โต้ ซิลวา
ส่วนดาวรุ่งก็ลอตใหญ่นำโดย โคโล ตูเร่ , กาแอล กลิชี่ , เดวิด เบนท์ลี่ย์ รวมทั้ง เชส ฟาเบรกาส
อองรี จึงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า อาร์เซน่อลจะยังคงเป็นมหาอำนาจในพรีเมียร์ลีก รวมทั้งลุ้นครองเจ้ายุโรปครั้งเช่นเดิม
หารู้ไม่ว่านั่นคือการได้สัมผัสแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายและยังไม่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเลย
1
ความล้มเหลวของอาร์เซน่อลมาจากการวางแผนผิดพลาดในเรื่องผู้เล่นส่วนหนึ่ง
หลังครองแชมป์ลีกในฤดูกาล 2003/04 ปืนโตปล่อยผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง คีโอว์น , พาร์เลอร์ , เอ็นวานโก้ คานู รวมทั้ง ซิลแว็ง วิลตอร์ ออกไปทั้งหมด แถมเป็นแบบฟรีไม่ได้ตังค์สักเพนนีเดียว
เพื่อเปิดทางให้บรรดาดาวรุ่งทั้งหลายมีโอกาสมากขึ้น ได้ลงอย่างสม่ำเสมอ เวนเกอร์ เชื่อว่าสุกงอมพร้อมเต็มที่แล้ว
ในขณะเดียวกันซื้อมาเสริมแค่ 2 รายเท่านั้นในซัมเมอร์คือ มานูเอล อัลมูเนีย และ มาติเยอ ฟลามินี่ ก่อนจะมาดึง เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ในช่วงตลาดมกราคม
การปล่อยผู้เล่นประสบการณ์สูงเหล่านั้นออกไปรวดเดียว พอจะเข้าใจได้ว่าต้องการตอบแทน เมื่อค่าตัวฟรีก็สามารถต่อรองค่าจ้างจากสังกัดใหม่สูงๆได้ สร้างความมั่นคงให้มากขึ้นก่อนรีไทร์
อย่างไรก็ตามมันทำให้เกิดสูญญากาศขึ้น เพราะแข้งดาวรุ่งและตัวใหม่ไม่สามารถทดแทนได้เลย
มันไม่ใช่แค่เรื่องในสนามอย่างเดียว ผู้เล่นอย่าง คีโอว์น หรือ พาร์เลอร์ สำคัญมากๆในห้องแต่งตัว คอยปลุกเร้ากระตุ้นสร้างบรรยากาศที่ฮึกเหิมขึ้นมาได้
นอกจากนี้เชลซีที่ได้ โชเซ่ มูรินโญ่ มากุมบังเหียนพร้อมกับการทุ่มทุนมหาศาลในตลาดนักเตะ ก็กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีก ยากมากที่จะโค่นลงง่ายๆ
อองรี ยังกระหน่ำประตูได้ต่อเนื่อง 30 ประตูในทุกรายการ เบิร์กแคมป์ , ลุงเบิร์ก , ปิแรส หรือ อันโตนิโอ เรเยส ก็ช่วยกันยิงได้ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นดีพอป้องกันแชมป์
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เองยังเด็กเกินไป ไม่ค่อยได้โอกาสมากนัก อีกทั้งมีปัญหาอาการเจ็บรบกวนด้วย
ซัมเมอร์ถัดมา เวนเกอร์ กับบอร์ดบริหารทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงปล่อย วิเอร่า ไปให้ยูเวนตุสอีกคน แล้วลงทุนดึงผู้เล่นใหม่มาหลายราย แม้แข้งอย่าง ธีโอ วัลค็อตต์ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หรือ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ อาจไม่ได้แย่อะไรนัก
1
แต่ก็ไม่ดีพอที่จะก้าวขึ้นมาต่อกรกับเชลซี รวมทั้งแมนฯยูไนเต็ดที่ตีกรรเชียงขึ้นมาท้าทายเช่นเดิม
1
อาร์เซน่อลตกไปอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2006/07 ก่อน เบิร์กแคมป์ จะประกาศรีไทร์ ส่วน ปิแรส , ลอเรน เอตาเม่ , แคมป์เบลล์ แอชลี่ย์ โคล และ เรเยส โดนปล่อยทั้งหมด
จังหวะของการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง อีกทั้งโดนบีบบังคับจากเรื่องสถานะการเงิน สโมสรต้องกู้จำนวนมหาศาลเพื่อมาสร้างสนามแห่งใหม่ ทำให้ปืนโตต้องขายผู้เล่นคนสำคัญตลอด
สิ่งที่ อองรี คิดเอาไว้ผิดคาดทั้งสิ้น อาร์เซน่อลไม่อาจต่อยอดความสำเร็จได้ จากที่เคยเปรยๆอยากแขวนสตั๊ดกับสโมสรแห่งนี้ จึงต้องเปลี่ยนใหม่
ในเมื่อยังกระหายแสวงหาความสำเร็จ เขาจึงต้องตัดสินใจย้ายไปบาร์เซโลน่าในฤดูร้อน 2007
อองรี บอกกับคนใกล้ตัวไว้ว่า จำเป็นต้องย้ายจากอาร์เซน่อลก่อนที่จะสายเกินไป อีกทั้งเงินค่าตัว 16 ล้านปอนด์ที่สโมสรได้ไปนั้นก็น่าช่วยเรื่องสภาพความคล่องมากขึ้นด้วย
เขาคิดถูกแล้ว เพราะแม้จะไม่ถึงขั้นเป็นแกนหลักในแนวรุกบาร์ซ่า แต่ตลอด 3 ปีก็ได้รับความสำเร็จเพียงพอ
แชมป์ลาลีกา 2 สมัย , โกปา เดล เรย์ 1 , ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 , ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด คัพ 1 , ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 และ ซูเปร์ โกปา เดอ เอสปันญ่าอีก 1
"มันน่าภาคภูมิใจที่ผมประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลน่า ตลอด 3 ปีผมแฮปปี้มากๆ แต่ผมก็ยังคอยติดตามเอาใจช่วยอาร์เซน่อลเสมอ"
1
เขาเป็นหนี้บุญคุณ เวนเกอร์ ผู้ซึ่งปลุกปั้นจนกลายเป็นนักเตะระดับโลก หลังล้มเหลวไม่เป็นท่ามาจากยูเวนตุส
แต่ไม่อาจตอบแทนได้ถึงที่สุด เพราะในวันที่เดินไปบอกเจ้านายว่าต้องการย้ายไปบาร์เซโลน่าคือช่วงเวลาที่ลำบากใจมากสุดครั้งหนึ่ง
1
เวนเกอร์ ไม่อยากปล่อยไป แต่เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างดีพอ อองรี เองรับใช้ทีมมาอย่างต่อเนื่อง ผลงานการถล่มประตูอย่างบ้าคลั่งถือว่าชดเชยให้แล้วเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นไม่นาน เวนเกอร์ ยอมรับว่ามีการตัดสินใจผิดพลาดบางอย่าง แต่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว
การกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ฤดูร้อน 2004 ทำให้อาร์เซน่อลฟุบชนิดยังไม่ยอมฟื้นจนถึงตอนนี้
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา