Blockdit Logo (Mobile)
เรื่องของ Apple
•
15 เม.ย. 2020 เวลา 16:21
เปิดตัวแล้ว iPhone SE 2020 จากทาง Apple เป็นยังไงบ้าง
iPhone SE
การมาในครั้งนี้ของ iPhone SE นั้น ได้หนาหูมาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ว่าจะมีการเปิดตัว แต่ทาง Apple ก็ไม่ได้บอกว่า จะเปิดตัวหรือจะออกขายในช่วงไหนอย่างชัดเจน
วันนี้ 15 เมษายน เวลา 22:10 Apple ได้ปล่อยวิดีโอ และ ปล่อยผลิตภัณฑ์ลงในเว็บไซต์ เป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่วางขายทันทีในไทย ซึ่งก็จะเหมือนกับการเปิดตัวของ iPad Pro 2020 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
iPhone SE นั้น มาในรูปทรงของ iPhone 8 ที่คุ้นเคย เมื่อสองปีที่แล้ว แต่เพราะด้วยความที่ยังมีสาวกของ Apple หลายกลุ่ม ที่ยังชอบ และหลงใหลในตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด และตัว Touch ID ของ iPhone รุ่นเก่าๆอยู่
ทาง Apple ก็ได้ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ด้วยการออกด้วยดีไซน์เดิม แต่ทรงพลังมากกว่าเดิม ด้วยตัวเครื่อง iPhone 8 ที่มาพร้อมกับชิป A13 Bionic ที่อยู่ในรุ่นของ iPhone 11
ถึงตัวเครื่องจะมาในรูปแบบของ iPhone 8 แต่ประสิทธิภาพ และกล้องนั้น ยังมาพร้อมกับโหมด Portrait ด้วยกล้องตัวเดียวเหมือนกับที่มีมาใน iPhone XR และที่เด็ดไปกว่านั้น คือ กล้องหน้าก็สามารถใช้โหมด Portrait ได้ด้วย
พร้อมอีกทั้งยังรองรับการถ่ายวิดีโอที่ 4K ในกล้องหลังสูงสุดที่ 60 fps แต่ในกล้องหน้ายังเท่าเดิมคือ 1080p 30fps
และอีกอย่างหนึ่งที่ iPhone SE ตัวนี้ได้รับการส่งทอดมาจากรุ่นพี่อีกอย่างก็คือ การถ่ายวิดีโอด้วยเสียงแบบสเตอริโอได้อีกด้วย ซึ่งจะมีในรุ่นตั้งแต่ iPhone XR ขึ้นไป
และไฮไลท์เด็ดเลยที่จะพูดถึงไม่ได้ในตัวของ iPhone SE ตัวนี้ คือ การถ่าย QuickTake ที่จะมีเฉพาะใน iPhone 11 , 11 Pro และ 11 Pro Max เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ตัวนี้ได้ความสามารถนี้มาจากรุ่นพี่เลย
และที่ขาดไม่ได้เลยในตัวของ iPhone รุ่นใหม่ๆทุกรุ่น ก็คือมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ Apple ก็ใส่มาให้ในตัวนี้เช่นเดียวกันที่ระดับ IP67 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น ก็ใช้งานได้ราวๆกับ iPhone 8 พร้อมรองรับ Fast Charge 18 Watt
ส่วนของสีที่มีมาให้เลือกก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ดำ ขาว และสีแดง Product Red
iPhone SE ตัวนี้ ยังมาพร้อมกับ True Tone Display รองรับ eSIM และ Wi-Fi 6 เหมือนกับตัวรุ่นพี่อีกด้วย แต่เสียดาย ที่ไม่มาพร้อมกับ 3D Touch เหมือนในตัวของ iPhone 8 เพราะตัวนี้ มีแค่ Haptic Touch เหมือนในตัวของ iPhone 11
และส่วนสุดท้ายที่เป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ iPhone SE ตัวนี้เลย ก็คือ ราคาและความจุครับ
ซึ่งถ้าดูจากราคาและเสปคที่ได้แล้ว เมื่อเทียบกับในตลาดตอนนี้ ราคาเท่านี้ และเสปคขนาดนี้ คงเดาไม่ยากเลยว่า รุ่นไหนจะขายดีที่สุดต่อจากนี้ คนที่อยากจะเปลี่ยนถ่ายจากที่ใช้ android เป็น ios ก็น่าจะเลือกและจับต้องได้ง่ายและมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ได้ ผมขอขอบคุณมากๆเลยนะครับ
ถ้าคุณชอบก็กดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม เป็นกำลังใจในการทำบล็อกของผมต่อๆไป ด้วยนะครับ
1
โฆษณา